เยอรมัน แชมป์โลก สมัยที่ 4!!!
ก่อนอื่นขอ “เท้าความ” คอมเมนต์ส่วนตัวในทุกสื่อก่อนนะครับ : ผมเชียร์ “อังกฤษ”, คิดว่า “อาร์เจนติน่า” จะได้แชมป์โลก และอยากให้ “เยอรมัน” ที่ระบบการเล่นโดนใจที่สุดคว้าโทรฟี่บอลโลกในครั้งนี้
ทั้ง 3 ประเด็น “เข้าทาง” ทุกข้อยกเว้น “อังกฤษ” ที่หากชาตินี้ใครเชียร์พวกเค้าคงต้องบอกสถานเดียวว่า “ทำใจ” และหนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะสาวกสิงโตคำรามมีโอกาสได้เชียร์ทีมโปรดเพียง 3 นัด “เศร้า ๆ” เท่านั้น
ส่วน อาร์เจนติน่า คงต้องบอกว่า เส้นทางตลอด 6 นัดที่ผ่านมาของทีมฟ้าขาวตั้งแต่ “รอบแรก” ยัน 8 ทีมสุดท้ายดูชิล ๆ มาก
ชนะบอสเนีย 2-1, ชนะอิหร่าน 1-0, ชนะไนจีเรีย 3-2, ต่อเวลาเฉือนสวิส 1-0, เชือดเบลเยียม 1-0 โดยจะมีเกมที่ “เคี่ยว” ก็คือนัดที่ผ่านมาซึ่งตัดเชือกเสมอ 0-0 กับเนเธอร์แลนด์ก่อนชนะจุดโทษ
จะสังเกตเห็นว่า ชนะผลต่าง “แค่ 1 เม็ด” ทุกนัด และลิโอเนล เมสซี่ ยิงได้นัดละ 1 ประตูในรอบแรกก่อนจะยิงไม่ได้เลยใน 3 นัดรอบ “น็อคเอ๊าท์” ที่ผ่านมา
คำถามที่ผมอยากทิ้งไว้คือ บอลเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ ยังไม่เจอ “จุดพีค” แต่ประคองมาจนชิงชนะเลิศน่าจะยัง “มีของ” เหลือไว้ใช้ในนัดไฟนอล!?
ส่วนเยอรมัน ประเดิมงดงามตั้งแต่นัดแรกที่ถล่มโปรตุเกส 4-0 ก่อนจะเจองาน “ไม่ง่าย” กับกาน่า (เสมอ 2-2), สหรัฐ (1-0), แอลจีเรีย (2-1 ต่อเวลา), ฝรั่งเศส (1-0) ปิดท้ายด้วยช็อกโลกถล่มบราซิล 7-1
เรียกได้ว่า “ชาวโลก” ในเห็นศักยภาพ หรือ “เห็นของ” ทั้งหมดของโยอาคิม เลิฟ และลูกทีมกันแล้ว โดยประเด็นที่ผมอยาก “สรุป” คือ:
แม้ผมจะพูดเสมอว่า ทัพอินทรีเหล็กมี “สไตล์บุก” และสร้างเกมเข้าหาคู่แข่งมากกว่าจะเน้นรับแล้วโต้ แต่ “ประสิทธิภาพ” สูงสุดของทีมชุดนี้กลับอยู่ที่จังหวะโต้กลับ
เช่น โปรตุเกส และบราซิล โดน!!!
ทว่าหากต้อง “ติ๊ดชึ่ง” Tiki-taka Made in Germany อย่างที่ผมเคยเขียนไปกับทีมรองที่เน้นรับ นักเตะนาซีก็ลำบากเหมือนกัน
ดังนั้น อเลฮานโดร ซาเบลล่า ไม่มีทาง “จู่โจม” เยอรมันแบบบ้าบิ่นเด็ดขาด แต่คงใช้ บีญ่า, เปเรซ และมาสเคราโน่ ยืนปกป้องแผงหลัง 4 คน และผู้รักษาประตูเหมือนเกมกับเนเธอร์แลนด์
แล้วเยอรมันจะทำอย่างไร?
ตอบ: ก็ไม่ต้องทำอะไร “ผลีผลาม” เพราะหากยิงไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย และลุ้นประตูจากจังหวะ เช่น ลูกตั้งเตะซึ่งทัวร์นาเมนท์นี้พวกเค้าทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่าใคร 5 ประตู
เช่นกันกับที่ เนเธอร์แลนด์ทำ “สำเร็จ” เลิฟ ต้องกำชับลูกทีมให้ปิดเกม เมสซี่ ไม่ให้เข้ามาป้วนเปี้ยนในแดนอันตราย หรือกรอบเขตโทษ
โดยทิ้ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ เป็นกองหน้า “ตัวเป้า” สร้างบาลานซ์ให้ทีมก่อนจะเปลี่ยน อังเดร ชูร์เร่ ลงมาเป็น “ทีเด็ด” และฟิลิป ลาห์ม ยังรักษาสมดุลในเกมรับ แบ็คขวา เหมือนเดิม
รวมความแล้ว เกมนี้จะไม่ “จืดชืด” เหมือน ดัตช์ – อาร์เจนฯ เพราะคุณภาพเกมของเยอรมันสูงกว่า เนเธอร์แลนด์ และคงเค้นศักยภาพทีมฟ้าขาวจน “ขีดสุด” มากกว่า อีกแค่ มาสเคราโน่ “ไล่กวด” ไปสกัด อาร์เยน ร็อบเบน ครั้งนั้น “จังหวะเดียว” แน่นอน
สุดท้าย ไฟนอลสกอร์ผมคิดว่าจะยืดเยื้อ เสมอก่อน 0-0 ในเวลา หรือน่าจะมีแค่ “เม็ดเดียว” ใน 90 นาที หรือถึงต่อเวลาไม่ยาก
โดย เยอรมัน จะเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกสมัยที่ 4 ครับ...
ติดตามข่าวบอลโลก 2014 โปรแกรมบอลโลก ผลบอลโลก ได้ที่
http://sport.sanook.com/worldcup