เก็บตกหลังเกม! 5 เรื่องน่ารู้ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านทุบ ซเวซด้า 4-0

ไม่ใช่งานยากสำหรับ ลิเวอร์พูล เมื่อพวกเขาเปิดบ้านถลุงผู้มาเยือนจากเซอร์เบีย เซอร์เวน่า ซเวซด้า ไป 4-0 โดยสามประสาน ซาลาห์, มาเน และ ฟีร์มิโน ต่างยิงได้ถ้วนหน้า ทำให้พวกเขากระโดขึ้นไปอยู่อันดับ 1 ของกลุ่มซีในตอนนี้

ไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้างหลังเกมดังกล่าวระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เซอร์เวน่า ซเวซด้า

5. สามประสานท็อปฟอร์มOLI SCARFF/GettyImages
การประสานงานอย่างไหลลื่นในเกมนี้ระหว่าง ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน คือสิ่งที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล อยากเห็นมาตลอดในฤดูกาลนี้ แต่ก็เพิ่งจะมีวันนี้นี่แหละที่พวกเขาเข้าขากันดี นับตั้งแต่ถล่ม เวสต์แฮม ในนัดเปิดฤดูกาลเป็นต้นมา

สามประสานเริ่มส่งสัญญาณเตือนคู่แข่ง หลัง ซาลาห์ ต่อบอลให้ ฟีร์มิโน ได้ยิงในเขตโทษ แต่บอลไปติด อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี หลังจากนั้น ฟีร์มิโน เป็นคนแรกที่ยิงประตูได้ ก่อนที่ ซาลาห์ จะเหมา 2 ประตูในเวลาต่อมา และ ซาดิโอ มาเน ยิงปิดท้าย

นี่ยังถือเป็นเกมแรกที่ ซาลาห์ เล่นงานคู่แข่งได้จริง ๆ จังด้วย หลังจากหลายนัดที่ผ่านมาดูเหมือนว่าปีกชาวอียิปต์จะเล่นแบบกลัวเจ็บ แต่ในเกมนี้เขาสามารถสร้างสรรค์เกมทางฝั่งขวาได้ดีอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องขอบคุณตัวสนับสนุนทั้งหลาย ทั้ง ฟาบินโญ, เซอร์ดาน ชากิรี และ จอร์จินโญ ไวนัลดุม ที่ชวยให้เขาเล่นง่ายขึ้นแบบสุด ๆ

4. ซาลาห์ ยิงประตูที่ 50 กับ ลิเวอร์พูลRobbie Jay Barratt - AMA/GettyImages
หลังจากที่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่แล้ว โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กดไป 44 ประตูทันทีตั้งแต่ฤดูกาลแรก และก่อนหน้าเกมนี้จะเริ่มขึ้น เขาก็ยิงไปก่อนแล้วอีก 4 ประตูจากเกม พรีเมียร์ลีก ทำให้เขายิงรวมไปทั้ง 48 ประตูด้วยกันใน 2 ฤดูกาล

ในเกมนี้เขายิงประตูที่ 49 ในท้ายครึ่งแรก ซึ่งต้องขอบคุณการต่อบอลของ ไวนัลดุม และ ชากิรี ที่ทำมาได้ยอดเยี่ยม ส่วนประตูที่ 50 ของเขามาจากการยิงลูกจุดโทษ ซึ่งก็ทำได้อย่างเฉียบขาด

นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างตำนานอีกบทกับ ลิเวอร์พูล เพราะเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว ซาลาห์ ก็เพิ่งจะยิงได้แค่ 9 ประตูเท่านั้นเอง มากกว่าในปีนี้แค่ 3 ลูกเท่านั้น 

3. ชากิรี เชื่อมเกมรุก หงส์แดง อย่างเนียนตาOLI SCARFF/GettyImages
เซอร์ดาน ชากิรี นั้นเป็นนักเตะระดับท็อปแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่การไปอยู่กับ สโต๊ก ซิตี้ มาพักใหญ่ ๆ ดูเหมือนจะทำให้หลาย ๆ คนลืมเขาไป ซึ่งการมา ลิเวอร์พูล ก็ดูเหมือนจะเป็นบทพิสูจน์ชั้นดีว่าเขาเป็นของจริง

ชากิรี ทำหน้าที่เชื่อมเกมรุกของ หงส์แดง ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการผ่านบอลสั้น การต่อบอลเร็ว การจ่ายทะลุช่อง หรือการโยนยาว เขาสามารถทำได้อย่างไร้ที่ติ แถมเจ้าตัวยังมีความคล่องแคล่วในระดับที่วัดจากคนตัวใกล้เคียงกันแล้ว คงมีแต่ ลิโอเนล เมสซี ที่ทำได้ดีว่า

การเข้ามาของ ชากิรี น่าจะช่วยปิดจุดบอดเรื่องการเชื่อมเกมของ หงส์แดง ได้เป็นอย่างดี ที่เหลือก็คือการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เขาสามารถโชว์ฟอร์มแจ่ม ๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เท่านั้น ซึ่งในวันที่พีคสุด ๆ เขาอาจกลายเป็นคิงออฟแอสซิสต์ที่ ลิเวอร์พูล ได้เลย

2. โอกาสของ ฟาบินโญOLI SCARFF/GettyImages
การเสียมิดฟิลด์ตัวรับไป 2 รายพร้อมกันทำให้ ฟาบินโญ ได้โอกาสลงพิสูจน์ตัวเองในเกมนี้ ซึ่งแม้ว่าคู่ต่อสู้จะห่างชั้นกันพอสมควร แต่ฟอร์มของเขาก็ถือว่าสอบผ่านแบบสุด ๆ 

ฟาบินโญ ช่วยให้เกมของ เซอร์เวน่า ซเวซด้า ไม่สามารถเคลื่อนที่ทางภาคพื้นได้เลย ในเกมนี้เขาสามารถแย่งบอลจากคู่แข่งได้ถึง 9 ครั้ง ตัดบอลและเคลียร์บอลอีกอย่างละครั้ง แถมยังดวลกลางอากาศชนะถึง 6 ครั้งอีกด้วย 

แม้ว่าช่วงต้นเกม ฟาบินโญ จะออกอากรเป๋ ๆ ไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วเขาทำหน้าที่นี้ได้อย่างไร้ที่ติ และเขายังมีความสามารถในการหยอดบอลเข้าเขตโทษแบบงาม ๆ อีกด้วย ถือว่าไม่เลวทีเดียวสำหรับคนที่เพิ่งจะได้ลงเป็นตัวจริงนัดแรกในฤดูกาลนี้

1. เซอร์เวน่า ซเวซด้า พยายามแล้วMichael Regan/GettyImages
คู่แข่งของ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ว่าจะกระจอกงอกง่อยจนทำอะไรไม่เป็น เพราะพวกเขาก็ส่งสัญญาณเตือน ลิเวอร์พูล อยู่เหมือนกันในช่วงต้นเกม ก่อนที่ความต่างชั้นจะทำให้พวกเขาหายไปโดยสิ้นเชิงในภายหลัง

ช่วง 15 นาทีแรกของเกม เซอร์เวน่า ซเวซด้า สามารถบุกไปจนถึงเส้นหลังของ ลิเวอร์พูล ได้บ่อยพอ ๆ กัน แถมยังมีโอกาสใกล้เคียงสุด ๆ จากจังหวะโฉบเข้าฮอสของ เซอร์เดียน บาบิช แต่บอลข้ามคานออกไป

เซอร์เวน่า ซเวซด้า กลับมาคึกคักอีกทีช่วงท้ายเกม หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เริ่มจะผ่อนคันเร่งบ้างแล้ว แต่กองหลังของเจ้าบ้านยังแข็งแกร่งเกินกว่าจะทำอะไรได้ และโอกาสทีดีที่สุดก็เป็นการโหม่งไปไหนไม่รู้ของ ริชมอนด์ โบอักเย กองหน้าของทีม

คนที่น่าชื่นชมที่สุดของทีมเยือนในวันนี้คงหนีไม่พ้น มิลาน บอร์ยาน นายทวารของทีม หลังงัดเซฟ 7 ครั้งออกมาช่วยทีมไว้ได้ ทั้งการเซฟลูกยิงของ ซาลาห์ แบบจ่อ ๆ การปัดลูกยิงของ สเตอร์ริดจ์ ท้ายเกม หรือการเซฟจุดโทษของ มาเน ทั้งหมดช่วยให้ เซอร์เวน่า ซเวซด้า ไม่เสียประตูไปมากกว่านี้ และถ้าไม่ใช่ว่าเขาเสียประตูไปถึง 4 ประตู บอร์ยาน อาจเป็นนายทวารยอดเยี่ยมประจำ แชมเปี้ยนส์ลีก สัปดาห์นี้เลยก็ได้เหมือนกัน

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ บอร์ยาน งัดเซฟช่วยทีม เพราะในเกมแรกเขาก็เซฟไป 7 ครั้งช่วยให้ เรดสตาร์ ยันเสมอ นาโปลี มาแล้ว ถ้าจะมีใครที่ทำให้ เซอร์เวน่า ซเวซด้า เก็บแต้มได้ ก็คงเป็น มิลาน บอร์ยาน นี่แหละ

ขอบคุณข้อมูล : 90min