เลือด 2 สี ! รวม 11 แข้งที่เคยอยู่กับ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด

เลือด 2 สี ! รวม 11 แข้งที่เคยอยู่กับ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด

เลือด 2 สี ! รวม 11 แข้งที่เคยอยู่กับ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชลซี กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนต็ด กำลังจะโคจรมาเจอกันเกม พรีเมียร์ลีก วันเสาร์นี้ ซึ่งนับตั้งแต่การเข้ามาของ โชเซ มูรินโญ ในปี 2004 ทั้ง 2 สโมสรถือเป็นคู่ปรับที่มีศักยภาพพร้อมพอที่จะลุ้นแชมป์อย่างสูสี

แม้ว่าในช่วงปีหลัง ๆ จะเริ่มดร็อปลงไปบ้างก็ตาม โดยสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วแมตช์กับ เชลซี คงเป็นรองแค่เพียงวันแดงเดือดเท่านั้น และในบางครั้งก็เหนือกว่าดาร์บี้แมนเชสเตอร์เสียด้วยซ้ำ

ในขณะที่สำหรับ เชลซี เองก็คงมีเพียงแค่ดาร์บี้กรุงลอนดอนกับ อาร์เซนอล ที่เหนือกว่า แม้ว่าคุณภาพจะขึ้น ๆ ลง ๆ ในช่วงหลัง ๆ ก็ตาม

ซึ่งการเป็นคู่แข่งกันอย่างจริงจังนี่แหละที่ทำให้น้อยครั้งที่จะมีนักเตะย้ายไปเล่นระหว่างทั้ง 2 ทีม เพื่อเป็นการต้อนรับบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ เราจะพาคุณย้อนกลับไปดูกันหน่อยว่าในอดีตที่ผ่านมา มีแข้งคนใดบ้างที่เคยค้าแข้งให้กับทั้ง 2 ทีมกันบ้าง

11. มาร์ค บอสนิช - ผู้รักษาประตูMichael Steele/GettyImages นายทวารชาวออสเตรเลียน ย้ายเข้าทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1989 ด้วยวัย 17 ปี และมีโอกาสประเดิมสนามในปีถัดมาในเกมกับ วิมเบิลดัน วึ่งสมัยนั้นลีกสูงสุดอังกฤษยังเป็น ดิวิชั่น 1 อยู่

บอสนิช ลงเล่นให้ ยูไนเต็ด ไปเพียง 3 นัดในรอบ 2 ปี ก่อรจะย้ายกลับออสเตรเลีย แต่หลังจากนั้น 8 ปี เขาย้ายกลับมา แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง คราวนี้เขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ทันที แต่ก็ยังไม่วายตกเป็นมือ 2 ให้ ฟาเบียง บาร์กเตซ ในฤดูกาลถัดมาจนต้องย้ายทีมหนีอีกครั้ง และคราวนี้เป็น เชลซี ที่อ้าแขนรับ

อย่างไรก็ตาม การย้ายมา เชลซี ถือเป็นจุดตกต่ำในชีวิตของเขา บอสนิช ลงเล่นไปเพียง 7 นัด เพราะปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน แถมยังไม่ผ่านการตรวจโด๊ปจนถุกห้ามเล่นฟุตบอลเป็นเวลา 9 เดือนอีกต่างหาก ในที่สุดเขาก็ถูกยกเลิกสัญญาและทำให้ เชลซี กลายเป็นสโมสรสุดท้ายของเขาในอังกฤษ

10. พอล พาร์คเกอร์ - กองหลังChris Cole/GettyImages พาร์คเกอร์ เริ่มสร้างชื่อกับ ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ในฐานะฟูลแบ็คจนไปเข้าตา อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ดึงตัวเขาเข้ามาในปี 1991 ซึ่งเขาก็สามารถสถาปนาตัวเองเป็น 1 ในฟูลแบ็คที่ดีที่สุดของอังกฤษ ช่วย ยูไนเต็ดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัยในฤดูกาล 1992/93 กับ 1993/94 และช่วยทีมคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ อย่างละสมัย

อาการบาดเจ็บเล่นงาน พาร์คเกอร์ ในวัย 30 ปีจนทำให้เขาหายไปจากทีม และเมื่อเขากลับมา ตำแหน่งแบ็คขวาของเขาก็ถูก แกรี เนวิลล์ ยึดไปแล้วเรียบร้อย และนั่นทำให้เขาชวดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ ในฤดูกาล 1995/96 กับทีม

พาร์คเกอร์ ย้ายไปเล่นให้ เชลซี เป็นช่วงสั้น ๆ ในปีถัดมา แต่การลงเล่นไปเพียง 4 เกม และไม่ได้ลงเล่นในนัดชิง เอฟเอคัพ ก็ทำให้เขาอดคว้าเหรียญทองอีกครั้งกับสโมสรใหม่ของเขา สุดท้ายเขาระหกระเหินไปเล่นกับทีมนอกลีกอีกนิดหน่อยก่อนแขวนสตั๊ด

9. เมล โดนาฮี - กองหลังBen Radford/GettyImages เมล มีฤดูกาลที่ยอดเยี่มกับ ลูตัน ทาวน์ อยู่ 10 ปี ก่อนจะย้ายมาเข้าทีมของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในฤดูกาล  1998/99 และกลายเป็นแบ็คซ้ายตัวหลักของทีมในทันที เขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ อีก 1 สมัย ก่อนจะย้ายไป เชลซี ในฤดูกาลแรกของ พรีเมียร์ลีก

เมล ช่วยให้ เชลซี คว้าอันดับ 11 และ 14 ใน 2 ฤดูกาลของเขากับทีมใหม่ และช่วยให้ เชลซี ไปถึงนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ในฤดูกาล 1993/94 ด้วย ก่อนที่ทีมของเขาจะพ่ายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวม 0-4 และ เมล โดนาฮี ก็แขวนสตั๊ดหลังจบฤดูกาล

8. เนมันยา มาติช - กองกลางShaun Botterill/GettyImages มาติช เป็นแข้งรายล่าสุดที่ได้โอกาสสวมเสื้อทั้ง 2 สี โดยกกองกลางชาวเซิร์บย้ายมาอยู่กับ เชลซี ครั้งแรกในฤดูกาล 2009/11 แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก มีโอกาสลงเล่นแค่ 3 เกมเท่านั้นก่อนถูกปล่อยตัวออกไป ทว่าเขากลับสามารถเรียกฟอร์มแจ่มกับ เบนฟิก้า ได้ และทำให้ โชเซ มูรินโญ ดึงเขากลับมาในฤดูกาล 2013/14

การกลับมาใหม่ครั้งนี้ทำให้เขากลายเป็นตัวหลักของทีม ช่วย เชลซี คว้า 2 แชมป์ พรีเมียร์ลีก ก่อนที่จะโดน โชเซ มูรินโญ ดึงตัวเขาไปร่วมทีมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2017/18 ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีถ้วยติดไม่ติดมือ แต่อย่างน้อยทีมของเขาก้ได้รองแชมป์ลีกและรองแชมป์ เอฟเอคัพ มาปลอบใจ 

7. ฆวน เวรอน - กองกลางJeff Gross/GettyImages ฆวน เวรอน ย้ายมายัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวประวัติศาสตร์ของอังกฤาในขณะนั้น และเขาก้เริ่มฤดูกาลใหม่กับทีมใหม่ได้ดี ได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกันยายนในปี 2001 ก่อนที่เขาจะเริ่มตกต่ำจากอาการบาดเจ็บ และถูกขายให้ เชลซี ในฤดูกาล 2003/04 

เวรอน ยิงประตูให้ เชลซี ได้ทันทีตั้งแต่เกมแรก แต่อาการบาดเจ็บก็เล่นงานเขาอีกครั้งและทำให้เขาตกต่ำ ถูกปล่อยยืมตัวไปอีก 3 ฤดูกาลก่อนย้ายถาวรในฤดูกาล 2007/08

6. เรย์ วิลกินส์ - กองกลางImage by P' CHINวิลกินส์ เล่นให้กับ เชลซี มาตั้งแต่อะคาเดมี ก่อนที่จะขึ้นสู่ทีมตัวจริงในปี 1973 ทีมของเขาตกชั้นในปี 1975 ทำให้ทีมต้องขายนักเตะสำคัญหลายคน เป็นผลให้เขากลายเป็นกัปตันทีมด้วยวัย 18 ปีเท่านั้น วิลกินส์ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมในลีกรองกับ เชลซี ก่อนจะพาทีมของเขากลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งในฤดูกาล 1976/77

เชลซี ตกชั้นอีกครั้งในฤดูกาล 1978/79 แต่คราวนี้ วิลกินส์ โดนขายไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ กับทีมใหม่ในฤดูกาล 1982/83

5. จอร์จ แกรม - กองกลางImage by P' CHIN แกรม เล่นให้ เชลซี 2 ฤดูกาล แต่สามารถยิงให้ทีมสีน้ำเงินไปถึง 35 ลูก จาก 72 นัด พาทีมคว้าแชมป์ ลีกคัพ ในฤดูกาล 1964/65 แต่หลังจากที่มีปัญหากับเฮดโค้ชของทีม เขาถูกขายให้กับ อาร์เซนอล ซึ่งเขาช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย ลงเล่นไปมากกว่า 200 นัดให้กับทีมใหม่ และถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปในฤดูกาล 1972/73 

อย่างไรก็ตาม เขามีฤดูกาลที่ไม่ค่อยดีนักกับทีมจากแมนเชสเตอร์ และตกชั้นไปกับทีมในฤดูกาล 1974/75

4. ฆวน มาต้า - กองกลางRobbie Jay Barratt - AMA/GettyImages มาต้า โชว์ฟอร์มได้ดีกับ บาเลนเซีย จน อังเดร-วิลลาส โบอาส คว้าตัวมาในฤดูกาล 2011/12 มาต้า เป็นตัวหลักให้กับทีมอยู่ 2 ปี จนกระทั่งการกลับมายัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งของ โชเซ มูรินโญ ทำให้เขาเริ่มโดนลดบทบาทลง แม้ว่าเขาจะช่วยทีมคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก, ยูโรป้าลีก และ เอฟเอคัพ อย่างละสมัย เขาโดน มูรินโญ ขายทิ้งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในหน้าหนาวแรกของ มูรินโญ ทันที  

มาต้า อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และทำให้เขามีโอกาสกลับมาร่วมงานกับนายเก่าอย่าง มูรินโญ อีกครั้ง ใน 3 ฤดูกาลล่าสุดของเขา

3. มาร์ค ฮิวจส์ - กองหน้าAnton Want/GettyImages ฮิวจส์ เป็นผลผลิตของอะคาเดมีของ ปีศาจแดง และติดทีมตัวจริงในฤดูกาล 1980/81 ซึ่งเขายังอยู่ในทีมเดียวกันกับ เรย์ วิลกินส์ ด้วย ฮิวจส์ ลงเล่นให้ทีมไป 7 ฤดูกาล ยิงไปกว่า 116 ประตู ก่อนจะถูก บาร์เซโลนา ซื้อตัวไปตอนอายุ 23 ปี

ฮิวจส์ กลับมา แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้งหลังจากมีช่วงเวลาที่ไม่ดีนักกับ บาร์เซโลนา 2 ปี คราวนี้เขาอยู่กับทีมต่อไปอีก 7 ปี ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมกับ เชลซี ในฤดูกาล 1995/96 

ฮิวจส์ ประสบความสำเร็จ เร็วมากกับทั้ง 2 ทีม โดยคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมียกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอฟเอคัพ 3 สมัย ลีกคัพ 1 สมัย คัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ 1 สมัย แชริตี้ชิลด์ อีก 3 สมัย ส่วนกับ เชลซี เขาพาทีมคว้าแชมป์ คัพวินเนอร์สคัพ 1 สมัย ลีกคัพ 1 สมัย และ เอฟเอคัพ อีก 1 สมัย  

2. ราดาเมล ฟาลเกา - กองหน้าJordan Mansfield/GettyImages ฟาลเกา เป็นนักเตะเพียงคนเดียวในลิสต์นี้ที่ย้ายไปอยู่กับ เชลซี และ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยสัญญายืมตัว โดย หลุยส์ ฟาน กาล เป็นคนพาตัวเขามาร่วมทีมที่แมนเชสเตอร์ แต่ผลงาน 47 ประตู จาก 26 นัดไม่เป็นที่น่าพอใจ และทำให้ เชลซี เป็นฝ่ายเซ้งตัว ฟาลเกา ต่อในฤดูกาลถัดมา

ฟาลเกา ยังคงมีปัญหาในการปรับตัวกับ พรีเมียร์ลีก โดยเขาได้ลงเล่นเพียง 10 นัดเท่านั้นกับทีมใหม่ และยิงได้เพียง 1 ประตู ก่อนที่จะถูกปล่อยกลับ โมนาโก ในฤดูกาล 2016/17

1. โรเมลู ลูกากู - กองหน้าOLI SCARFF/GettyImages ลูกากู ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ด้วยอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น แต่ผลจากการที่มีซูเปอร์สตาร์อยู่เต็มทีม ทำให้ ลูกากู กลายเป็นแข้งวัยรุ่นอีกคนที่ถูกปล่อยยืมตัวจนนับไม่ถ้วน 

แม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทั้ง เวสต์บรอมวิช และ เอฟเวอร์ตัน แต่ เชลซี ก็ไม่เคยคิดที่จะรั้งตัวเขาไว้ เป็นผลให้ ลูกากู ย้ายไปอยู่กับ เอฟเวอร์ตัน อย่างถาวร ในฤดูกาล 2014/15 ซึ่งเขายังโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่อง ก่อนจะโดน แมนฯ ยูไนเต็ด ซื้อตัวไปในฤดูกาล 2017/18 และกลายเป็นดาวซัลโวของทีมตั้งแต่ฤดูกาลแรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook