เก็บตกหลังเกม ! 5 ประเด็นเรียนรู้หลัง ทีมชาติไทย เฉือน ตรินิแดดฯ 1-0

เก็บตกหลังเกม ! 5 ประเด็นเรียนรู้หลัง ทีมชาติไทย เฉือน ตรินิแดดฯ 1-0

เก็บตกหลังเกม ! 5 ประเด็นเรียนรู้หลัง ทีมชาติไทย เฉือน ตรินิแดดฯ 1-0
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทีมชาติไทย เปิดบ้านเฉือนเอาชนะ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ไป 1-0 คว้าชัยสองนัดติดในช่วงฟีฟ่า เดย์ เดือนตุลาคม นอกจากนี้ เกมดังกล่าว ยังถือเป็น การอำลาทีมชาติ ของ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติเมื่อปีก่อนหลังรับใช้ชาติมานานกว่า 14 ปี

5. สินทวีชัย และหลังจากนี้?
Pakawich Damrongkiattisak/GettyImages
กลายเป็นหมุดหมายสุดท้ายหลังรับใช้ทีมชาติมาอย่างยาวนาน 14 ปีส่งต่อไม้ผู้รักษาประตูให้กับนายทวารรุ่นน้องในทีมชาติชุดนี้อันได้แก่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน และ ฉัตรชัย บุตรพรหม

ทว่ากลายเป็นเกมที่ไม่น่าประทับใจนักสำหรับ ฉัตรชัย เมื่อเจ้าตัวถูกส่งลงมาแทนที่ เจ้าตี๋ ในนาทีที่ 14 ก่อนจะเสียความมั่นใจจากการไปทำฟาวล์แข้ง ตรินิแดด นอกกรอบเขตโทษ ส่งผลให้จังหวะต่อเนื่องหลังจากนั้นดูจะไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยเท่าใดนัก

อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวได้แสดงให้เห็นแล้วถึงผีไม้ลายมือในระดับสโมสรที่ไม่ธรรมดาเรียบร้อย เวลาและประสบการณ์จะช่วยให้ ฉัตรชัย แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่จนถึงตอนนี้ ศิวรักษ์ ดูจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยสำหรับรายการ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่ทีมชาติไทยจะไร้ กวิน ธรรมสัจนานันท์

4. ความหลากหลายที่แดนกลางPakawich Damrongkiattisak/GettyImages
ปกเกล้า อนันต์, สุมัญญา ปุริสาย, ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้ออกสตาร์ทในเกมวันนี้และเราได้เห็นมิติที่หลากหลายโดยเฉพาะจากคู่ ปกเกล้า-สุมัญญา

ปกเกล้า ยังคงรักษาจุดเด่นในการหาพื้นที่ว่างเติมเกมสลับกันผู้เล่นในแดนหน้าและยืนตำแหน่งในเกมรับได้ดี ขณะที่ สุมัญญา กลายเป็นพระเอกของเกมในครึ่งหลังเมื่อ มิโลวาน ราเยวัช ส่งตัวรุกริมเส้นธรรมชาติลงมาเคลื่อนที่บริเวณริมเส้น ปลดล็อควิสัยทัศน์ในการผ่านบอลของเจ้าตัว ขณะที่ ชนาธิป ยังเป็นคีย์แมนในแนวรุกของทีมเช่นเคยพร้อมกับการยกระดับสัญชาตญาณในการทำประตู

ส่วน ฐิติพันธ์ ที่ถูกส่งลงสนามในครึ่งชั่วโมงสุดท้ายยังคงความเป็นมิดฟิลด์ไดนาโมกับจังหวะสอดเติมขึ้นไปพังประตูชัย

3. 3 ประสาน เจลีกPakawich Damrongkiattisak/GettyImages
ทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีรศิลป์ แดงดา ยังคงแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นหัวใจสำคัญของทีมเช่นเคยกับเซนส์ในการเล่นที่ดูจะเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่นไปหนึ่งก้าว

อย่างไรก็ตาม ทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์อาเซียนในปลายปีนี้ที่จะไร้สตาร์ดังทั้ง 3 ราย มิโลวาน ราเยวัช ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแข้งตัวเลือกรายอื่นมีดีไม่แพ้กันและพร้อมที่จะยกระดับตัวเองขึ้นมาทดแทนการขาดหายไปของพวกเขาทั้งสาม

กรกช วิริยอุดมศิริ โชว์ให้เห็นถีงระดับของเขาในเกมที่ผ่านมากับ ฮ่องกง ขณะที่ สุมัญญา ปุริสาย แม้จะไม่มีลีลากระชากลากเลื้อยอย่างเจ้า เจ ทว่าวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลทำให้เขาน่าจะกลายเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ของโค้ช มิโล ที่ตำแหน่งเดียวกัน ขณะที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ก็ไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วงกับตำแหน่งศูนย์หน้าโดยมี ศุภชัย ใจเด็ด เป็นตัวสอดแทรก

2. คีย์แมนในแนวรับPakawich Damrongkiattisak/GettyImages
แม้จะต้องดวลกับกองหน้าร่างยักษ์ แต่ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว แสดงให้ว่าเขาสามารถรับมือได้อย่างยอดเยี่ยม แม้อาจจะมีจังหวะช่วงต้นครึ่งแรกที่ดูยังตั้งจูนกันไม่ติดเท่าไหร่นักแต่ปราการหลังจอมเก๋าจาก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ได้กลายเป็นลูกพี่ที่คอยประคองรุ่นน้องทั้งคู่หูอย่าง สุพรรณ ทองสงค์ และ มิก้า ชูนวลศรี รวมทั้งยังมีจังหวะตัดบอลก่อนจะพาบอลตะลุยขึ้นมาเองจากแดนหลังอย่างเตะตา

1. สุมัญญา แจ้งเกิดกับทีมชาติยุค ราเยวัช เต็มตัวPakawich Damrongkiattisak/GettyImages
ออกสตาร์ทด้วยการยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางจับคู่กับ ปกเกล้า อนันต์ ในครึ่งแรกโดยเจ้าตัวไม่ค่อยมีบทบาทเด่นมากนักก่อนที่นายใหญ่ ทีมชาติไทย จะปลดล็อคความสามารถในการผ่านบอลของเจ้าตัวด้วยการส่งตัวรุกริมเส้นลงมาเคลื่อนที่ให้ สุมัญญา ผ่านบอลคิลเลอร์พาสหลุดไปได้ลุ้นหลายครั้ง

เจ้าตัวยิ่งโดดเด่นยิ่งขึ้นเมื่อขยับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกแทนที่ ชนาธิป ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามในครึ่งหลังก่อนจะได้แอสซิสต์จากการงัดบอลให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงประตูชัยให้กับทีม

มิดฟิลด์จากสังกัด แบงค็อก ยูไนเต็ด น่าจะเบียดกับ สรรวัชญ์ เดชมิตร ได้สนุกในตำแหน่งกองกลางตัวรุกกับทัวร์นาเมนต์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ในช่วงปลายปีนี้

ขอบคุณข้อมูล : 90min

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook