รู้แล้วจะอึ้ง! เกร็ดข้อมูลก่อนไปชม "โมโตจีพี 2018 ณ บุรีรัมย์" 5-7 ต.ค.นี้
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/sp/0/ud/163/815169/r.jpgรู้แล้วจะอึ้ง! เกร็ดข้อมูลก่อนไปชม "โมโตจีพี 2018 ณ บุรีรัมย์" 5-7 ต.ค.นี้

    รู้แล้วจะอึ้ง! เกร็ดข้อมูลก่อนไปชม "โมโตจีพี 2018 ณ บุรีรัมย์" 5-7 ต.ค.นี้

    2018-10-04T09:31:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    สุดยอดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลกรายการ MotoGP ที่ถูกจัดมาต่อเนื่องยาวนานกว่า 80 ปี โดยเริ่มต้นการแข่งขันในฤดูกาลแรกในปี 1949 ภายใต้รายการ World Champion Motorcycles Grand Prix และได้เปลี่ยนมาเป็น MotoGP ในปี 2002 ซึ่งถือว่าเป็นการแข่งขันที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

    แน่นอนว่าในการแข่งขันปี 2018 นี้ประเทศไทยก็ถูกบรรจุเป็นหนึ่งในสนามการแข่งขันของรายการนี้ด้วย ใน 1 ฤดูกาลปกติจะสามารถมีสนามได้สูงสุดที่ 20 สนาม โดยในฤดูกาล 2018 ที่จะถึงนี้ทาง FIM ได้ปรับจำนวนสนามจากฤดูกาล 2017 ที่มีอยู่ 18 สนาม โดยเพิ่มสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์เข้าไปในปฏิทินการแข่งขันประจำปี เป็นสนามที่ 15 ในช่วงวันที่ 7 ตุลาคม 61 ที่จะถึงนี้

    u

    และด้วยความเป็นสนามเกรด A ของการตรวจสอบจาก FIM ที่ได้รับเลือกให้เป็นสนามการแข่งขัน WSBK ถึงสามฤดูกาลติดต่อกัน และในปีนี้พิเศษสุดด้วยการใช้สนามช้าง เป็นหนึ่งในสนามการทดสอบ Winter Test ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ต่อจาก สนามเซปัง ประเทศมาเลเซียอีกด้วย

    บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาดการแข่งขันที่ประวัติศาสตร์จะต้องจารึก ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ นอกเหนือจากการฝ่าฟันของทั้งภาครัฐและเอกชนในการผลักดันสนามของเราเพื่อบรรจุเข้ามาอยู่ในการแข่งขัน MotoGP แล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้กับประเทศไทยด้วย เชื่อว่านับจากนี้ไปความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตสำหรับประเทศไทยจะแพร่หลายไปในวงกว้างอย่างแน่นอน

    y

    ข้อมูลน่ารู้ที่คุณควรรู้ ก่อนเดินทางไปชมการเเข่งขันโมโตจีพี รายการ PTT Thailand Grand Prix 2018 สนามที่ 15 วันที่ 5-7 ต.ค. ณ. สนามช้างอินเตอร์เนชั่นเเนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

    - จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ตั้งของสนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ประมาณ 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
    - ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เตรียมสถานที่จอดรอบไว้บริเวณรอบนอกสนาม แล้วให้ผู้ชมใช้รถโดยสารเข้าสู่สนามแข่งขัน
    - สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์  ถูกบันทึกไว้ในกินเนสส์บุ๊ค ว่าเป็นสนามแข่งรถยนต์ที่สร้างเร็วที่สุดในโลก โดยใช้เวลาการก่อสร้างทั้งสิ้น เพียง 422 วัน หรือ 1 ปี กับอีก 57 วันเท่านั้น  
    - สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต เป็นสนามแข่งขันเพียงแห่งเดียวของโลก ที่ผู้ชมการแข่งขันสามารถมองเห็นทุกโค้งของสนามแบบพาโนรามา เมื่อนั่งอยู่ แกรนด์ สแตนด์ (อัฒจรรย์หลัก)
    - มูลค่าของรถที่ใช้ในการแข่งขันโมโตจีพี หนึ่งคันจะอยู่ที่ราคาประมาณ 64 ล้านบาท!!!
    - รถจักรยานยนต์ที่ใช้แข่งขันในรายการโมโตจีพี สามารถทำความเร็วได้มากกว่ารถที่ใช้แข่งขันในรายการ ฟอร์มูลา วัน เสียอีก โดยสถิตินี้เกิดขึ้นเมื่อทีมดูคาติ ใช้รถจักรยานยนต์ รุ่น GP14 ซึ่งทำความเร็วไว้ที่ 346 กิโลเมตร/ชั่วโมง
    - ในการแข่งขันโมโตจีพี เมื่อนักแข่งเข้าโค้ง จุดที่ล้อสัมผัสกับถนน มีขนาดเท่ากับเหรียญ 5 บาท เท่านั้น!!!
    - สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นสนามที่ 3 ที่ใช้ในการทดสอบ "วินเทอร์ เทสต์"
    - ความเร็วสูงสุดของสนาม ทำโดย อันเดรีย ดิวิซิโอโซ่ จากทีม ดูคาติ อยู่ที่ 334.4 กิโลเมตร/ชั่วโมง
    - ในช่วง "วินเทอร์ เทสต์" โค้งที่มีนักแข่งล้มมากที่สุด คือโค้ง 12 ซึ่งมีนักแข่งล้มไปถึง 7 คน

    918944774-594x594

    ข้อมูลสนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์

    - ระยะทางต่อรอบ 4.554 กิโลเมตร
    - ความกว้างของพื้นแทร็ก 8-10 เมตร
    - ความเร็วสูงสุดในโค้ง 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง
    - มีทั้งหมด 12 โค้ง แบ่งเป็นโค้งขวา 7 โค้งซ้าย 5
    - ทางตรงยาวที่สุด 1,000 เมตร
    - ความเร็วสูงสุดในทางตรง 339 กิโลเมตร/ชั่วโมง

    931674496-594x594

    ข้อมูลการแข่งขันโมโตจีพี (รอบไฟนอล วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม)

    - รุ่นโมโตทรี แข่งขัน 22 รอบ (ระยะทาง 100.2 กิโลเมตร)
    เริ่มแข่งขันเวลา 11.00 น.
    (ถ่ายทอดสดทางทาง PPtv HD ช่อง 36)

    - รุ่นโมโตทู แข่งขัน 24 รอบ (ระยะทาง 109.3 กิโลเมตร )
    เริ่มแข่งขันเวลา 12.20 น.
    (ถ่ายทอดสดทางทาง PPtv HD ช่อง 36)

    - รุ่นโมโตจีพี แข่งขัน 26 รอบ  (ระยะทาง 118.4 กิโลเมตร )
    เริ่มแข่งขันเวลา 14.00 น.
    (ถ่ายทอดสดทางทางช่อง PPtv HD ช่อง 36)

    ***ทรูวิชันส์ ถ่ายทอดสดตลอด 3 วัน (5-7 ตุลาคม) ทางช่อง ฟ็อกซ์ สปอร์ต เอชดี (FOX Sport HD)

    ทั้งนี้ยังมี 4 นักแข่งสัญชาติไทย ที่ได้สิทธิ์ลงแข่งขันในศึกโฮมเรซครั้งนี้ ในรุ่นโมโตทรี ประกอบด้วย "ชิพ" นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จากฮอนด้า ทีม เอเชีย นักบิดไทยหนึ่งเดียวในรุ่นโมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ที่แข่งตลอดทั้งฤดูกาล, "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา จากทีม เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ที่ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด, "แสตมป์" อภิวัฒน์ วงศ์ธนานนท์ จากยามาฮ่า ไทยแลนด์เรซซิ่งทีม ที่ได้รับสิทธิ์ไวลด์การ์ด และนักแข่งไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ลงแข่งขันในรุ่นโมโตทู คือ "ติ๊งโน้ต" ฐิติพงศ์ วโรกร จากสังกัดแซ็ก เรซซิ่ง ทีม (สเปน)