เล่าเรื่องหลังเกมส์ : จอมคนถล่มประตู

เกมค่ำคืนวันเสาร์ที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมาคู่เอกคงหนีไม่พ้น ยอดทีมอย่าง เยอรมัน พบ กานา อินทรีเหล็กคว้าชัยได้ทั้ง 2 นัดก่อนหน้านี้ที่พบกานา โดยเป็นเกมกระชับมิตรเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1993 ชนะไป 6-1 และรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2010 ชนะไป 1-0

 

 

 

เปิดเกมกาน่ามาเปิดเกมสู้กับเยอรมันตั้งแต่ต้นเลยแถมเล่นได้ไม่เป็นรองด้วย ทั้งคู่ต่างเจาะเข้าไปทำไม่ค่อยได้ต้องอาศัยการยิงไกลแต่ยังทำอะไรกันไม่ได้

เริ่มครึ่งหลังเกมมันกว่าครึ่งแรกเยอะเหลือเกินและมียิงกันถึง 4 ประตูโดยเหตุการณ์สำคัญอยู่ที่ลูกตีเสมอของเยอรมันขณะที่ตามอยู่ 2-1 มิโลสลาฟ โคลเซ่ทำประตูได้ทำให้ทำสถิติการยิงประตูสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เท่ากับ "โล้นทองคำ" โรนัลโด้ 15 ประตู

 

 

 

 

 

ดูแล้วโคลเซ่มีโอกาสทำประตูมากกว่าโรนัลโด้อีกเพราะเส้นทางของเยอรมันยังไม่ จบแค่นี้โอกาสผ่านเข้ารอบสองสูงเหลือเกิน โดยนัดสุดท้ายเยอรมันจะพบกับสหรัฐฯ ส่วนกานา พบ โปรตุเกส ซึ่งยังไม่มีทีมไหนตกรอบแรก ดูแล้วต้องลุ้นกันยาว ๆ   

 

--------------------------------------------------------------------------

 

คู่อื่นๆ เป็นการเจอกันระหว่าง มหาอำนาจลูกหนังอย่าง อาร์เจนติน่า พบ อิหร่าน เป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ในฟุตบอลโลก ครั้งเดียวที่ทั้งคู่พบกันเป็นเกมกระชับมิตรเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 1977 ที่กรุงมาดริด โดยเสมอกันไป 1-1 เกมนี้ใครๆก็ คิดว่าอาร์เจนติน่าน่าจะชนะสบายแต่กลับเหนื่อยกว่าที่คิดเพราะกว่าจะชนะได้ ก็หืดขึ้นคอ

 

 

 

 

 

เกมนี้อิหร่านเน้นเกมโต้กลับเป็นหลักและมีโอกาสจะยิงประตูเหมือนกันแต่แนว รุกค่อนข้างฝืดทำให้พลาดโอกาสไปหมดและมาโดนลูกทีเด็ดของเมสซี่ในช่วงทดเวลา เจ็บทำให้พ่ายฟ้าขาวไปแบบหวุดหวิด 0-1

 

 

 

ทำให้อาร์เจนติน่าผ่านเข้ารอบไปได้สำเร็จแม้จะเหลือนัดสุดท้ายที่จะพบกับ ไนจีเรีย ก็ตาม ซึ่งดูแล้วฟอร์มของฟ้าขาวอาจจะยังไม่สุดยอดแต่ทีมแบบนี้ค่อนข้างน่ากลัว เพราะมาเรื่อยๆ ทำให้โอกาสที่ทีมอาร์เจนติน่าจะคว้าแชมป์โลกมีสูงเหมือนกัน

 

--------------------------------------------------------------------------

 

ไนจีเรีย พบ บอสเนียฯ นี่คือการพบกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ระหว่างทั้งสองทีม เกมคู่นี้ต้องบอกว่าบอสเนียฯเล่นค่อนข้างดีกว่าโดยเฉพาะเกมทะลุตามช่อง และบอสเนียฯ ค่อนข้างโชคร้ายที่ยิงเข้าประตูไปแล้วแต่กรรมการไม่ให้เพราะเป็นลูกล้ำหน้า แต่ดูจากภาพช้าแล้วไม่ล้ำหน้า

 

 

 

ส่วนช็อตที่เสียประตูบอสเนียฯน่าจะได้ฟาวล์ก่อนเพราะโดนดึงแต่กรรมการไม่ เป่าทำให้ไนจีเรียได้ประตูขึ้นนำ 1-0 พอเริ่มครึ่งหลังเกมยังเป็นแบบเดิมไนจีเรียใช้ความแข็งแกร่งเข้าบดจน บอสเนียฯแย่เหมือนกัน ซึ่งดูเหมือนไนจีเรียจะเร็วกว่าบอสเนียฯ อยู่ครึ่งก้าว

 

 

 

แต่ดูจริงๆ แล้วจุดเปลี่ยนอยู่ที่ ปีเตอร์ โอเลียรี่ กรรมการชาวนิวซีแลนด์ที่ครึ่งแรกตัดสินผิดพลาดทำให้บอสเนียฯเสียผลประโยชน์ และนี่คือจุดที่ทำให้บอสเนียฯต้องตกรอบไปแบบน่าเจ็บใจ เกมนัดสุดท้าย ไนจีเรีย พบ อาร์เจนติน่า ที่ผ่านเข้ารอบไปแล้ว ส่วนอิหร่าน พบ บอสเนียฯที่ตกรอบไปแล้ว เกมสุดท้ายทีมจากเอเชียต้องหวังให้ฟ้าขาวชนะอินทรีมรกต ส่วนอิหร่านต้องชนะบอสเนียฯ และจะนับลูกได้เสียกับไนจีเรียทันที