เล่าเรื่องหลังเกมส์ : "เมสซี่มาแล้ว"

เล่าเรื่องหลังเกมส์ : "เมสซี่มาแล้ว"

เล่าเรื่องหลังเกมส์ : "เมสซี่มาแล้ว"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หวุดหวิดไป สำหรับ ฟ้า-ขาว อาร์เจนติน่า ส่วน ตรากุ๊กไก่ สบายใจเพราะ ฮอนดูรัส ต้องเรียกว่า "สู้ไม่ได้"...

เกมค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาคู่เอกของรายการคงจะเป็นคู่ อาร์เจนติน่า เป็นหนึ่งในตัวเต็งแชมป์โลก พบ บอสเนีย ชาติน้องใหม่หนึ่งเดียวในฟุตบอลโลก 2014 โดยนับตั้งแต่ปี 1950 ชาติหน้าใหม่ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในศึกเวิลด์ คัพ คืออันดับ 3 (โปรตุเกส ปี 1996 และโครเอเชีย ปี 1998)

โคลาซินัค นักเตะบอสเนียฯ ฉลองการมาเล่นบอลโลกครั้งแรกด้วยทำเข้าประตูตัวเอง

ชื่อชั้นฟ้าขาวค่อนข้างเหนือกว่าเยอะแต่พอเริ่มเล่นบอสเนียกลับทำผลงานได้ไม่เป็นรองเลยเพียงแต่โชคร้ายที่เสียประตูเร็วจากการทำเข้าประตูตัวเองทำให้ฟ้าขาวเล่นได้ง่ายขึ้น

เลี้ยงตัดจากซ้าย หลอกหน้าเท้าซะหนึ่งที ก่อนจะซัดเบียดเสาเข้าประตูไป

พอครึ่งหลังก็เสียประตูที่สองจากความสามารถเฉพาะตัวของเมสซี่ที่เลี้ยงตัดเข้ากลางแล้วยิงเบียดเสาเข้าประตูไป ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของเขาเลยก็ว่าได้

เวดัด อิบิเซวิช ยิงประตูแรก (จริงๆ) ในประวัติศาสตร์ให้บอสเนีย

และนี่ถือเป็นประตูที่ 2 ที่เมสซี่ยิงได้ในฟุตบอลโลกเท่านั้น และต้องยอมรับว่าบอสเนียสู้จริงๆ ไม่ยอมแพ้ง่ายๆทำให้สามารถตีไข่แตกได้แต่ก็ไม่ทันทำให้พ่ายไปในที่สุด 2-1 เห็นฟอร์มของบอสเนียแล้วต้องบอกว่ายังมีลุ้นเข้ารอบเพราะทั้งไนจีเรีย และอิหร่านบอสเนียฟอร์มไม่ได้เป็นรองเลย

คู่อื่นๆ เป็นการเจอกันระหว่างตัวเต็งแชมป์กลุ่มอี ฝรั่งเศส  พบ ฮอนดูรัส ที่ผ่านเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายแค่ 3 ครั้งเท่านั้นในปี 1982, 2010, 2014 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองเจอกันในระดับนานาชาติ

เบนเซม่า ไม่พลาดกดจุดโทษให้ตราไก่ขึ้น พร้อมตัวผู้เล่นที่มากกว่า

เกมนี้ยังวัดอะไรไม่ได้มากนักเพราะตราไก่ค่อนข้างเหนือกว่าเยอะแถมฮอนดูรัสยังโดนจุดโทษใบแดงอีกด้วย ซึ่งถือเป็นใบแดงแมตช์ที่ 2 ของทัวร์นาเมนต์ และเกมนี้ยังใช้โกล์ไลน์อีกด้วยซึ่งจะได้ไม่มีการถกเถียงกันว่าเข้าประตูหรือไม่

 โกลไลน์ อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่ได้ออกมาโชว์เต็มตัวสักที

สำหรับทีมตราไก่อีก 2 นัดที่เหลือคงไม่น่ามีปัญหาที่จะผ่านเข้ารอบต่อไป แต่เครื่องหมายคำถามคงจะอยู่ที่ทีมจะเข้ารอบลึกขนาดไหนจากการไร้จอมทัพอย่างริเบรี่

สวิตเซอร์แลนด์ ที่ไม่ค่อยชอบเจอทีมจากอเมริกาใต้เพราะไม่เคยชนะเลยในฟุตบอลโลก

บดตั้งนานปิดกล่องไม่ได้สักที

นัดนี้เจอ เอกวาดอร์ ที่เข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 3 (2002, 2006, 2014) ผลงานดีที่สุดคือเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายปี 2006 ที่เยอรมัน และเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทีมพบกับในระดับนานาชาติ

แต่สวิสก็ล้างอาถรรพ์ในการไม่เคยชนะทีมจากอเมริกาใต้ได้สำเร็จในศึกฟุตบอลโลกหนนี้ด้วยการเฉือนชนะ 2-1 โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเวลาเจ็บ นัดนี้สมควรแล้วที่สวิสจะได้ชัยชนะเพราะเล่นได้ดีพร้อมครองบอลได้มากกว่า

ต้องชมสวิสที่ใจสู้จนวินาทีสุดท้ายแซงกลับมาเอาชนะได้สำเร็จ

ผิดกับเอกวาดอร์ที่มาเน้นรับแล้วโต้กลับโดยใช้ความสามารถเฉพาะตัวเป็นหลัก ดู จากฟอร์มตอนนี้ของสวิสหากหวังจะผ่านเข้ารอบลึกๆสิ่งที่ต้องปรับปรุงเป็นอย่างแรกคือแนวรุกที่ใช้โอกาสเปลือง

ขณะที่เอกวาดอร์โอกาสตกรอบสูงเหลือเกินเพราะเกมรับยังไม่แน่นอนแถมอีก 2 นัดที่เหลือยังต้องเจอทีมเต็งกลุ่มอย่างฝรั่งเศสโอกาสรอดยาก สำหรับฟุตบอลโลก 4 ปีก่อนที่แอฟริกาใต้มีทีมพลิกสถานการณ์จากตามหลังกลับมาชนะได้แค่ 4 ทีมเท่านั้นตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ ส่วนที่บราซิลปีนี้ผ่านไปแค่ 9 นัดมีทำได้ไปแล้ว 5 ทีม (บราซิล, ฮอลแลนด์, คอสตาริกา, ไอวอรี่โคสต์, สวิตเซอร์แลนด์) โดยสถิติกลับมาชนะมากจำนวนครั้งที่สุดในฟุตบอลโลก 1 ทัวร์นาเมนต์อยู่ที่ 9 ครั้ง ปีนี้ยังเหลือเกมการแข่งขันอีก 55 เกม

มิสเตอร์ X

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook