บอลใครไปมวยโลก

บอลใครไปมวยโลก

บอลใครไปมวยโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ไม่ใช่ "บอลไทยไปมวยโลก" อย่างที่ชอบเอาเรื่องจริงมาล้อเล่นกัน แม้ "บอลใครไปมวยโลก" ณ จุดนี้ ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่า "ระดับโลก" แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ หลังนักฟุตบอลดีกรีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผันตัวมาเป็นนักมวย แถมยังกล้าๆ คว้าเข็มขัดแชมป์มาครองได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

เรื่องราวทำนองว่านักฟุตบอลรักกีฬาอย่างอื่นมากกว่าอาชีพของตัวเองนั้นมั่นใจว่าคนไทยเกินหนึ่งล้านคนน่าจะเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง

อย่างในรายของตำนานกองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า กาเบรียล บาติสตูต้า ก็ชอบบาสเกตบอลมากกว่า หรือจะ คริสเตียน วิเอรี่ อดีตดาวยิงทีมชาติอิตาลี รายนี้ก็คลั่งไคล้คริกเก็ตแบบสุดลิ่มทิ่มถูรู

อย่างไรก็ตามหากเอาเข้าจริงแล้ว ต่อให้รักกีฬาชนิดอื่นมากกว่า นั่นก็ใช่ว่าพวกเขาจะกล้าเปลี่ยนอาชีพ หรือต่อให้กล้าเปลี่ยน ก็จะมีสักกี่คนที่ผันตัวมาแล้วเอาดีกับกีฬาชนิดนั้นได้จริงๆ

แต่พระเอกของเราวันนี้ "กล้า" และยัง "ทำได้" อีกต่างหาก

เป็น เคอร์ติส วู้ดเฮ้าส์ นั่นเอง... นั่นเอง... ใครวะ!?

"ไอ้บ้านไม้" วู้ดเฮ้าส์ อดีตกองกลาง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และเบอร์มิงแฮม ซิตี้ เพิ่งจะคว้าเข็มขัดแชมป์ประเทศอังกฤษรุ่นไลท์-เวลเตอร์เวท มาครองได้สำเร็จหมาดๆ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมานี่เอง (22 ก.พ.)

นักมวยฝีเท้าดีทำเงินจากไฟต์ชิงเข็มขัดแชมป์ได้มากถึง 250,000 ปอนด์ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 13,750,000 บาท

โดยเงินก้อนโตนี้เป็นผลลัพธ์จากครั้งที่เจ้าตัวเดินส่ายอาดๆ ไปท้าเดิมพันกับบ่อนพนันว่าพ่อค้าแข้งอย่างเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวทได้สำเร็จด้วยราคา 50-1!!

จากนักบอลดาดๆ กลายมาเป็นแชมป์ระดับประเทศ ต้องบอกว่าใช้มือเก่งกว่าเท้า

วู้ดเฮ้าส์ วัย 33 กะรัตดวลหมัดกับ "ไอ้ลูกกระสุน" ดาร์เรน แฮมิลตัน นักมวยเต็มเวลา ก่อนจะเอาชนะคะแนนไปอย่างไม่เป็นเอกฉันท์

แม้จะชนะไม่สวยหรูตามสูตรในนิยายหรือภาพยนต์ แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้นักมวยพาร์ทไทม์อย่างเขาโกยเงินกลับบ้านอย่างสบายอุรา คุ้มค่ากับเงินเดิมพัน 5,000 ปอนด์ที่เคยลงทุนเอาไว้เมื่อ 8 ปีที่แล้ว

"ผมไม่อยากเชื่อเลย ตอนที่ผมพูดว่าผมจะเป็นนักมวยอาชีพ ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะผม แต่ตอนนี้ผมกล้าที่จะพูดเลยว่าผมเป็นแชมป์ประเทศอังกฤษ ผมอยากจะอุทิศชัยชนะครั้งนี้ให้กับคุณพ่อ"

"ผมจะจัดการกับเรื่องคืนนี้ยังไงน่ะเหรอ ผมจะแขวนนวมในขณะที่เป็นแชมป์ และนั่นก็คือแผนการของผม" วู้ดเฮ้าส์ ประกาศรีไทร์คาสังเวียนผ้าใบ

ไม่ใช่ว่าชนะแล้วชิงเลิกเพราะกลัวจะเสียตำแหน่ง แต่เป็นเพราะผ่านเส้นทางเลือดมาจนพอแล้ว

วู้ดเฮ้าส์ ชนะ 10 ไฟท์รวดในการประเดิมชกมวยอาชีพทั้งที่ตอนนั้นยังปุเลงๆ ค้าแข้งอยู่เลยด้วยซ้ำ

ทำตามฝันด้วยนำเข็มขัดแชมป์ พร้อมใบหน้าอันฟกช้ำมามอบแด่หลุมศพพ่อของเขา

แต่ก็นะ... ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา "ไอ้บ้านไม้" สะดุดกึก โดน เจย์ มอร์ริส อัดกลิ้งในไฟท์ที่ 11 และเป็นความพ่ายแพ้ครั้งแรกของตัวเอง 

ก่อนจะตั้งหลักกลับมาและได้โอกาสดวลกับ มอร์ริส อีกครั้ง

และก็เป็นไปตามสูตร... วู้ดเฮ้าส์ ถอนแค้น มอร์ริส ได้สำเร็จด้วยการชนะ "ทีเคโอ" แถมไฟต์นั้นยังเป็นศึกชิงเข็มขัดแชมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล มาสเตอร์ส ไลท์-เวลเตอร์เวท อีกต่างหาก

ภาพโปรโมทการชกไฟท์แรกของ "ไอ้บ้านไม้" ก่อนจะได้ดีด้านการชกมวย

จากนั้น วู้ดเฮ้าส์ ก็เดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จต่อไป จนกระทั่งได้มีโอกาสท้าไฝว้ชิงเข็มขัดแชมป์กับ แฮมิลตัน และก็เฉือนเอาชนะไปได้อย่างสุดมัน

แม้จะอยู่แค่ในระดับประเทศ แต่หาก วู้ดเฮ้าส์ ตัดสินใจชกมวยต่อไป ด้วยสถิติชนะ 22 (น็อก 13) แพ้ 6 (น็อก 2) ไม่แน่ว่าในอนาคตเขาอาจจะเป็นอดีตนักฟุตบอลคนแรกที่ได้ไปมวยโลกจริงๆ ก็ได้

ไฟต์สุดท้ายของ วู้ดเฮ้าส์


ไทม์ไลน์ จดหมายชีวิตจริง

1994 - เคอร์ติส วู้ดเฮ้าส์ เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ ยอร์ค ซิตี้

1997 - ย้ายไป เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 2,200 ปอนด์ ก่อนจะพุ่งขึ้นเป็น 15,000 ปอนด์ โดยได้ประเดิมสนามให้ "ดาบคู่" ด้วยการเป็นตัวสำรองพบกับ ครูว์ อเล็กซานดร้า ใน ดิวิชั่น 1 เมื่อวันที่ 29 พ.ย.

1999 - ได้รับการเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี โดยลงพบกับ ฮังการี ในวันที่ 27 เม.ย.

2001 - เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 1 ล้านปอนด์ โดยสโมสรไปถึงนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ แต่เจ้าตัวอดลงสนามเพราะติดคัพ-ไทด์ แถมหลังจบนัดชิงชนะเลิศเจ้าตัวก็ถูกจับด้วยข้อหาก่อเรื่องทะเลาะวิวาทในร้านอาหารอินเดีย ก่อนจะมีคำตัดสินในเดือน ก.ค. 2002 ให้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 120 ชม.

2003 - หลังจากได้ลงเล่นให้ เบอร์มิงแฮม ใน พรีเมียร์ลีก 3 นัด วู้ดเฮ้าส์ ก็ถูกปล่อยให้ ร็อทเธอร์แฮม ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนจะเซ็นสัญญาย้ายไป ปีเตอร์โบโร่ ยูไนเต็ด ในเดือน ต.ค.

2004 - ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีม ปีเตอร์โบโร่ และเป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสรในฤดูกาลนั้น

2005 - ย้ายไป ฮัลล์ ซิตี้ สโมสรซึ่งเขาเป็นแฟนมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่สามารถแทรกตัวเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ได้

2006 - ย้ายไป กริมสบี้ ทาวน์ ด้วยสัญญา 2 ปี นำทีมทะลุเข้าถึงรอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ แต่ก็ทำเสียจุดโทษจนทำให้ทีมแพ้ เชลท์แน่ม 0-1 จากนั้นเจ้าตัวก็ประกาศความมุ่งมั่นจะผันตัวไปเป็นนักมวยอาชีพ กีฬาชนิดแรกซึ่งเขา "หลงรัก" ให้ได้ โดยประเดิมไฟต์แรกด้วยการคว่ำ ดีน มาร์กันโตนิโอ ในเวลท์เตอร์เวท คอนเทสต์ ที่กรุงลอนดอน เมื่อเดือน ก.ย.

2007 - เดินสายชกมวยต่อไปในขณะที่ก็ยังลงเล่นให้กับ รัชเดน แอนด์ ไดมอนส์ ในลีกสมัครเล่น, ขึ้นชกไฟต์ที่ 2 และเอาชนะคะแนน ดันแคน คอตเตียร์ ตามด้วยชนะน็อกครั้งแรกในไฟต์ที่ 4 ด้วยการไล่อัด เคร็ก โทเมส

2009 - แม้จะประกาศแขวนสตั๊ด แต่สุดท้าย วู้ดเฮ้าส์ ก็เซ็นสัญญากับ แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ ในกลางฤดูกาล 2008/09 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ฮาร์โรเกต ทาวน์ ขณะที่การต่อสู้บนสังเวียนก็พบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก โดยแพ้ให้กับ เจย์ มอร์ริส ในวันที่ 25 เม.ย.

2010 - ยกเลิกสัญญากับ ฮาร์โรเกต ในเดือน ก.พ. เพื่อเดินหน้าทวงแค้นกับ มอร์ริส และก็ทำได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ ทีเคโอ ในศึกชิงเข็มขัดรายการ อินเตอร์เนชั่นแนล มาสเตอร์ส ไลท์-เวลเตอร์เวท

2012 - ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีม เชฟฟิลด์ เอฟซี แต่ก็ไม่ได้มีเวลามากพอจะไปคุมทีมข้างสนามได้ วู้ดเฮ้าส์ เลยตัดสินใจลาออกเมื่อเดือน ธ.ค.

2013 - ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม กูล ก่อนจะกลายเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัวหลังจากนั้น

2014 - ประกาศแขวนนวมหลังเอาชนะ ดาร์เรน แฮมิลตัน คว้าแชมป์ประเทศอังกฤษมาครองได้สำเร็จ

นนท์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook