เก็บตกหลังเกม ! 5 เรื่องต้องรู้ หลัง ฝรั่งเศส ปูทางสู่แชมป์สมัยที่ 2

เบลเยียม ออกสตาร์ท ได้น่าตื่นเต้นกว่าในช่วงครึ่งชั่วโมงแรกก่อนที่ประตูของ อุมติตี้ ในครึ่งหลังจะช่วยให้ ฝรั่งเศส พลิกกลับมาได้เปรียบ ก่อนจะเข้ารอบชิงชนะเลิสไปด้วยประตูเดียวประตูนั้น

ไปดูกันว่ามีประเด็นใดที่น่าสนใจบ้าง หลังจากที่ฝรั่งเศสเข้าชิงได้อีกครั้งในรอบ 12 ปี 

5. เอ็มบัปเป้ ดาวดวงใหม่ของฟุตบอลโลกGABRIEL BOUYS/GettyImages

แม้ เอ็มบัปเป้ จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูและแอสซิสต์ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไอ้หนูวัย 19 สร้างความประทับใจให้แฟนบอล ฝรั่งเศส อยู่ไม่น้อย 

เพียงผู้ตัดสินเป่าเริ่มเกม ความไวของเขาก็เกือบจะเล่นงานแนวรับ เบลเยียม ซะแล้ว เขาพาบอลไปจนเกือยสุดเส้นหลังในเวลาไม่กี่วินาทีก่อนจะตบเข้ากลางได้แบบเหงื่อไม่ทันออกด้วยซ้ำ เสียดายที่ ชิรูด์ เข้าถึงช้าไปนิดเดียว ไม่งั้นอาจเป็นประตุที่เร็วที่สุดในทัวร์นาเมนท์ไปแล้

แผงหลังทั้ง 3 ของเบลเยียม ไม่มีใครเอา เอ็มบัเป้ อยู่เลยซักคน แม้กระทั่ง อาซาร์ ที่ลงมาช่วยเกมรับก้ไม่สามารถหยุดความเร็วของเขาได้ หลายครั้ง ๆ เบลเยียม ต้องใช้ 2-3 คนเพื่อดักทางวิ่งของเขา แต่ก็ยังไม่วายสามารถแทงทะลุช่องให้ ปาวาร์ เข้าเขตโทษได้ครั้งนึง และไว้หลังสุดสวยให้ ชิรูด์ ในครึ่งหลัง

ถ้ายังพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ บางทีเราอาจได้เห็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนใหม่หลังยุคของ เมสซี-โรนัลโด้ มีชื่อว่า เอ็มบัปเป้ ก็ได้

4. ลูกตั้งเตะที่ดีช่วยได้เสมอKoji Watanabe/GettyImages

ในยามที่ทั้ง 2 ทีมต่างแพ็คเกมรับกันแน่นและไม่มีท่าว่าผู้รักษาประตูและกองหลังของฝั่งไหนจะยอมกันได้ ลูกเซ็ตพีซก็เข้ามาชี้ชะตาผลลัพธ์การแข่งอีกครั้ง 

 ในนาที 51 อ็องตวน กรีซมันน เปิดบอลเข้าเสาแรกซึ่งมี มารูยาน เฟลไลนี ดักทางอยู่ และในขณะที่การเปิดของ กรีซมันน์ ดูเหมือนจะเสียของอยู่แล้วนั่น อุมติตี้ ก็โฉบเข้ามาโขกตุงตาข่ายชนิดที่ เฟลไลนี ได้แต่มองตาละห้อยเท่านั้น

 ลูกสูตรของ ฝรั่งเศส นั้นน่าสนใจมาก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเลือกเปิดไปที่ว่างแล้วให้แนวรับโฉบเข้ามา เกมที่แล้วกับ อุรุกวัย ก็เป็น วาราน ที่ทำได้จากลูกฟรีคิก นั่นทำให้ลูกตั้งเตะของพวกเขานั้นแตกต่างจาก เบลเยียม ที่จะเจาะจงไปที่หัวของ เฟลไลนี หรือ ลูกากู มากกว่า ทำให้ วาราน และ อุมติตี้ อ่านทางได้ง่ายมาก

3. จงระวัง กรีซมันน์Shaun Botterill/GettyImages

อ็องตวน กรีซมันน์ ไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องตั้งเตะอะไรขนาดนั้นเมื่อเทียบกับ ปอล ป็อกบา หรือ เควิน เดอ บอรยน์ แต่เมื่อแผนการเล่นมันบังคับให้เขาต้องเป็นตัวเชื่อมเกมมากกว่าล่าประตู ความสามารถในการจ่ายบอลของเขาก็ดูเหมือนจะยกระดับขึ้นมาเฉย ๆ เสียอย่างนั้น

เกมที่แล้วเขาเปิดบอลเข้าช่องให้ วาราน ได้พอดิบพอดี เกมนี้ก็ยังเปิดเข้าช่องให้ อุมติตี้ โฉบโขกได้อีก และนั่นทำให้ ฝรั่งเศส ขยายความน่ากลัวไปยังลูกตั้งเตะแล้วในตอนนี้ นอกเกนือจากลูกพิสดารของ ชิรูด์ และความเร็วของ เอ็มบัปเป้

ไม่ว่าจะเป็น ราคิติช หรือ ทริปเปียร์ ที่เขาต้องเจอในนัดชิง แต่เชื่อได้เลยว่าเราจะได้เห็นลูกตั้งเตะดี ๆ ที่มอสโกอย่างไม่ต้องสงสัย

2. เบลเยียม ขาดตัวเปลี่ยนเกมบนม้านั่งสำรองADRIAN DENNIS/GettyImages

เมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ของ 11 ตัวจริง ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่า เบลเยียม นั่นแข็งแกร่งตั้งแต่เกมรุกยันรับ สามประสาน ลูกากู, เดอ บรอยน์ และ อาซาร์ นั้นอันตรายพอ ๆ กับทีมของเทพบัลลงดอร์อย่าง เมสซี, โรนัลโด้ หรือ เนย์มาร์

ในขณะที่แผงหลัง แฟร์ตองเก้น, ก็อมปานี และ อัลเดอร์เวเรลด์ ได้ชื่อว่าเอาลงยากสุด ๆ พอกับ ซิลวา หรือ โกดิน ส่วน กูร์ตัวส์ สามารถติดท็อป 5 นายทวารที่ดีที่สุดในทัวร์นาเมนท์อย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ปัญหาของ เบลเยียม กลับโผล่ขึ้นมาให้เห็นเอาในวันนี้เมื่อพวกเขาส่งชุดที่ว่านั้นลงสนามแต่ยังไม่สามารถเปลี่ยนปลงสถานการณ์ให้ดีขึ้นได้

และนอกจาก เมอร์เทนส์ แล้ว การที่ มาร์ติเนซ ต้องรอจนถึงนาทีที่ 80 ทำให้เห็นว่าเขาไม่รู้จะส่งใครมาพลิกเกมจริง ๆ ในเมื่อ 11 คนบนสนามคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เขามีแล้ว 

1. ป็อกบา กับภารกิจพิเศษMatthew Ashton - AMA/GettyImages

ฤดูกาลที่แล้ว ป็อกบา ถูกครหาว่าเขาเล่นเกมรับมากเกินไปจนทำประโยชน์ให้ทีมไม่ได้ และเป็นที่มาที่ทำให้เขาทะเลาะกับ มูรินโญ อย่างไรก็ตาม เขาลงไปเล่นต่ำยิ่งกว่านั้นอีกในแผนของ เดชองส์ แต่กลับกันเลย ไม่มีใครว่าเขาอีกแล้วจากการลงต่ำขนาดนั้น และอันที่จริง มันไม่ได้ส่งผลอะไรกับการทำเกมบุกของเขาเลยด้วยซ้ำ

หลาย ๆ จังหวะหากเราสังเกตุดี ๆ เราจะเห็น ว่า ป็อกบา จะลงไปยืนต่ำจนแทบจะเป็น สวิปเปอร์อีกตัวคู่กับ กองเต้ ในขณะที่ ก็องเต้ คุมด้านซ้ายเพื่อจัดการกับ เดอ บรอยน์ และ ชาดลี ป็อกบา จะคอยคุมด้านขวาเพื่อดักทางไม่ให้ เฟลไลนี โผล่เข้าเขตโทษง่าย ๆ และในช่วงที่ เฟลไลนี แทบจะขึ้นไปเห็นหน้าเป้าร่วม ลูกากู ป็อกบา ก็ลงไปต่ำเสียเป็นกองหลังอีกคนไปเลย

 ถึงอย่างนั้น การยืนต่ำของ ป็อกบา ก็ไม่ได้ทำให้ความสามารถหรือประโยชน์ในเกมรุกของเขาหมดเลย เขายังครองบอลได้ดี จ่ายบอลได้เยี่ยม และหลาย ๆ ครั้งก็เป็นคนพาบอลขึ้นมาจากแดนหลังเสียด้วยซ้ำ

ด้วยสถิติการเข้าสกัดสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีม (4 ครั้ง) ชนะบอลกลางอากาศมากที่สุด (3 ครั้ง) จ่ายบอลสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับ 2 (90%) และ จ่ายบอลรวมมากที่สุด (34 ครั้ง) นั่นอาจทำให้ มูรินโญ ต้องขอคำแนะนำจาก เดชองส์ หน่อยแล้วว่า ทำยังไงจึงจะทำให้ ป็อกบา มีประโยชน์กับทีมมากที่สุดในแต่ละนัด