"5 เรื่องต้องรู้" หลังเจ้าภาพสอนบอลอียิปต์จ่อส่ง "ซาล่าห์" กลับบ้าน
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/sp/0/ud/144/720377/33333.jpg"5 เรื่องต้องรู้" หลังเจ้าภาพสอนบอลอียิปต์จ่อส่ง "ซาล่าห์" กลับบ้าน

    "5 เรื่องต้องรู้" หลังเจ้าภาพสอนบอลอียิปต์จ่อส่ง "ซาล่าห์" กลับบ้าน

    2018-06-20T07:03:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    อุตส่าห์รีบเข็นตัวเองลงสนามเพื่อกลับมาช่วยทีมในศึกบอลโลก แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ดูยังไม่ 100% ก็ไม่สามารถช่วยทีมเอาไว้ได้ ก่อนที่ อียิปต์ จะพ่ายต่อ รัสเซีย 1-3 ทั้ง ๆ ที่ครองบอลได้มากกว่าก็ตาม

     ไปดูกันว่าในเกมที่ ซาลาห์ กลับมาลงเล่นฟุตบอลโลกได้อย่างฝัน เขาต้องเจอกับอะไรในเกมนี้กันบ้าง

    5. ยังอีกไกลสำหรับเจ้าภาพGIUSEPPE CACACE/GettyImages

    แม้ รัสเซีย จะเป็นทีมที่ยิงประตูคู่แข่งได้มากที่สุด ณ ตอนนี้ มี 6 คะแนน และใกล้จะเข้ารอบอยู่รอมร่อ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาเองยังมีมาตรฐานน้อยกว่าทีมอื่น ๆ ที่แพ้ไปในเกมแรกเสียอีก

    ตลอดครึ่งแรก พวกเขามีโอกาสบอมบ์ใส่หน้าประตูอียิปต์ไม่รู้กี่คร้งต่อกี่ครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่เข้าเป้าและไม่ใกล้เคียงแม้แต่น้อย ส่วน อีิยิปต์ เองก็แทบไม่ต่างกัน แม้จะครองบอลได้มากกว่า แต่บอลกลับไม่ค่อยเดินหน้าเข้าเขตโทษ รัสเซีย เลย และทั้งครึ่งแรกก็วนอยู่แค่นี้

    รัสเซีย โยนเข้าเขตโทษ>อียิปต์สกัดออกมา>อียิปต์สวนกลับ>อียิปต์เสียบอล>รัสเซียตั้งเกมขึ้นมา>รัสเซียโยนบอล>อียิปต์สกัดออกมา>อียิปต์สวนกับเร็ว>รัสเซียตัดบอล>รัสเซียโยนบอล>อียิปต์สกัดออกมา 

     รัสเซียจบเกมนี้ได้ด้วยชัยชนะและจำนวนประตูที่มากโขก็จริง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาเจอคู่แข่งที่เล่นได้ย่ำแย่เอาสุด ๆ และเกือบจะเป็น 2 ทีมที่เล่นได้น่าประทับใจน้อยที่สุดในฟุตบอลโลกครั้งนี้เท่าที่ผ่านมาเลย แถมเต็ง 1 ของกลุ่มพวกเขาอย่าง อุรุกวัย ดันเป็นทีมที่มีลำดับต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับเต็ง 1 ของกลุ่มอื่น ๆ ด้วย เพราะฉะนั้นในระหว่างที่กำลังจะเตรียมฉลองอยู่นี้ พวกเขาควรเตรียมตัวเจองานหินจริง ๆ ในรอบน็อคเอาท์ได้แล้ว ไม่อย่างงั้นก็เตรียมจอดป้ายที่รอบ 16 ทีมได้เลย

    4. ซาลาห์ ยังไม่ใช่ ซาลาห์ คนเดิมOLGA MALTSEVA/GettyImages

    การกลับมาของเขาเป็นเรื่องน่ายินดีที่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้สาหัสอะไรมาก แต่หากแฟนบอล ลิเวอร์พูล คาดหวังว่าเขาจะระเบิดฟอร์มแบบเดิมได้ทันที พวคุณคิดผิดแล้วล่ะ

     ซาลาห์ มีอาการที่เรียกว่า "สนิมขึ้น" อย่างชัดเจน เขาไม่กล้าเข้าปะทะ กล้าเสี่ยงน้อยลง วิ่งน้อยลง  และกล้าพูดเลยว่าเขาได้ลงเกมนี้เพราะ อียิปต์ จำเป็นแล้วจริง ๆ เท่านั้น หากเกมที่แล้ว อียิปต์ เป็นฝ่ายเก็บ 3 คะแนนได้ คุณคงไม่เห็น ซาลาห์ ในรายชื่อ 11 ตัวจริงหรอก 

     และแน่นอน เราคงไม่ได้เห็น ซาลาห์ ทันทีในเกมพรีซีซั่นกับ ลิเวอร์พูล ด้วย อาจต้องรอซักต้อนเดือนสิงหาคมโน่นแหละที่เขาจะกลับสนามมาเล่นแบบเต็มที่อีกครั้ง  

    3. เทรนด์บอลโลกปีนี้ - ทำเข้าประตูตัวเอง/จุดโทษ

    OLGA MALTSEVA/GettyImages

    นับตั้งแต่ อาซิซ บูฮาดูซ ทำเข้าประตูตัวเองให้ โมร็อกโก แพ้ อิหร่าน จนถึงลการสกัดของ ฟาธี ฟุตบอลโลกที่รัสเซียมีการปทำเข้าประตูตัวเองไปแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งเหลืออีกเพียงครั้งเดียวก็จะทำสถิติสูงสุดเทียบเท่ากับที่ฝรั่งเศสในปี 1998 ทั้งทัวร์นาเมนท์

    ในกรณีของจุดโทษ นับรวมของ ซาลาห์ เข้าไปจะทำให้มีจุดโทษเกิดขึ้นแล้ว 10 ครั้งในทัวร์นาเมนท์ที่รัสเซีย ในขณะที่สถิติสูงสุดที่เคยเกิดขึ้นในหนึ่งทัวร์นาเมนท์อยู่ที่ 18 ครั้ง ที่อิตาลี (1990), ฝรั่งเศส (1998) และ เกาหลีใต้&ญี่ปุ่น (2002) ซึ่งนั้นหมายความว่าขาดอีกเพียง 9 ครั้งเท่านั้น รัสเซีย 2018 ก็จะทำลายสถิติลงได้

    แล้วรู้อะไรไหม ทางฟีฟ่าได้ลองคำนวนคร่าว ๆ ด้วยอัตราการเกิดจุดโทษในขณะนี้ ปรากฏว่าเมื่อจบบอลโลก 2018 ในเดือนกรกฎาคม มันควรจะต้องมีจุดโทษเกิดขึ้นถึง 38 ครั้งเลยทีเดียว !

     ลองดูสถิติอื่น ๆ เกี่ยวกับจุดโทษได้ที่ีนี่ 

    >>https://www.fifa.com/worldcup/visual-stories/penalty-storm/

    2. ซยูบา ฝากความหวังได้OLGA MALTSEVA/GettyImages

    อาร์ตโยม ซยูบา เคยเป็นกองหน้าหมายเลขหนึ่งของ รัสเซีย ก่อนหน้านี้ จนกระทั่งปัญหากะบเฮดโค้ชำทให้เขามักถูกละเลยไป แต่ฟอร์มในเกมรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 2 นัดทำให้เขาน่าจะการันตีตัวจริงได้ยาว ๆ จนจบทัวร์นาเมนท์เลยทีเดียว

     ในเกมกับ ซาอุฯ เขาลงมาเป็นตัวสำรองแทน ฟโยดอร์ สโมลอฟ ที่กำลังมือขึ้นทั้งในเกมทีมชาติและสโมสร แต่ ซยูบา ใช้โอกาสเพียงครั้งเดียวทันทีที่ลงสนามในการทำประตูให้กับชาติเจ้าภาพ และนัน่ทำให้เขาได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงในเกมนี้กับ อียิปต์ ซึ่งก็ยังสามารถทำประตูสุดแจ่มให้กับทีมได้อีกครั้งหนึ่ง

     ซยูบา เป็นกองหน้าที่รูปร่างใหญ่ เข้าปะทะได้ บังบอลได้ เล่นลูกกลางอากาศดี และจังหวะที่เขาแตะหลบ จาเบอร์ ก็ยังทำให้เห็นว่าเขาใช้เท้าได้คล่องแคล่วอีกด้วย และนี่แหละคือกองหน้าที่ รัสเซีย ต้องการในฟุตบอลโลกครั้งนี้บนแผ่นดินของพวกเขา

    1. โอกาสของ เชรือเชฟAllsport Co./GettyImages

    นับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเตะกับทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด เชรือเชฟ ไม่เคยแสดงศักยภาพว่าจะเป็นอยาคตของวงการฟุตบอลรัสเซียได้เลย ตลอด 4 ปีในรั้ว เบอร์นาเบว เขาลงเล่นไปเพียง 2 เกมเท่านั้น ทำประตุไม่ได้ และโดนปล่อยยืมตัวไปอยู่กับอีก 3 ทีมไม่ซ้ำหน้า

     แต่ ณ ตอนนี้ เชรือเชฟ ที่ดูเหมือนจะมาบอลโลกในฐานะอะไหล่กำลังจะได้รับโอกาสแจ้งเกิดอีกครั้ง เขาลงเล่นไป 2 นัด ทำไป 3 ประตู และเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่ทำให้เกมของ รัสเซีย นั้นขับเคลื่อนไปได้ทั้ง 2 นัด 

     ในขณะที่คนดูต่างจับจ้องไปที่ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน อนาคตของรัสเซียคนปัจจุบัน แต่ เชรือเชฟ กำลังค่อย ๆ ก้าวออกมาจากเงามืดเรื่อย ๆ และทัวร์นาเมนท์นี้อาจจะกลายเป็นปีทองของเขาอย่างที่มันควรจะเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็เป็นได้