โด้,เบล,โมดริช ใครคือแข้งยอดเยี่ยมแห่งปี

สำหรับ "ราชันชุดขาว" ของ อันเชล็อตติ นั้นถึงแม้จะต้องอกหักไปกับการลุ้นถ้วยแชมป์ลา ลีกา ในซีซั่นนี้แล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ยังไม่ถือว่าล้มเหลวนะ เพราะยังมีถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่ในเกมที่จะทำศึกมาดริด ดาร์บี้ ที่จะเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้

 

เราพักถึงเรื่องความสำเร็จของสโมสรเอาไว้ และหันไปพูดคุยเรื่องรางวัลส่วนตัวระดับผู้เล่นกันบ้าง ซึ่งก็คือรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ "ราชันชุดขาว" ในฤดูกาลนี้นั่นเอง โดยตัวผมนั้นได้อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ "โกล ดอทคอม" ของอังกฤษ ซึ่ง 3 นักเตะที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงนั้นประกอบไปด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้, แกเร็ธ เบล และลูก้า โมดริช เราไปดูผลงานของเขากันหน่อยดีกว่า

 

 

 

โมดริช ย้ายจาก "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสปอร์ มาใช้ชีวิตในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เมื่อช่วงปี 2012 ด้วยค่าตัว 33 ล้านปอนด์ (1,815 ล้านบาท) แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยแฮปปี้สักเท่าไหร่ หลังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก จนถูกเหล่าบรรดาเกจิลูกหนังแดนประทิงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น "การเซ็นสัญญาที่ยอดแย่แห่งปี"

 

 

 

แต่พอเข้าสู่ฤดูกาลที่ 2 กับ เรอัล มาดริด กลับมีคนพูดว่าเขานั้นคือใจกลางสำคัญของทีมเลยทีเดียว ถึงแม้จะเจ้าตัวนั้นจะยิงประตูได้เพียง 2 ลูกเท่านั้น แต่ถ้าดูการทุ่มเทให้กับทีมทั้งเกมรุกและเกมรับแล้วเขาเล่นได้เด่นทีเดียว โมดริช ทำแอสซิสต์ได้ทั้งหมด 9 ครั้ง ซึ่งล้วนแล้วเป็นช็อตสำคัญๆ ทั้งนั้นเลย จน ณ เวลานี้เขาได้กลายเป็นหนึ่งในขวัญของเหล่าบรรดาแฟนบอลไปเรียบร้อยแล้ว

 

• ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 29 เกมจาก 33 นัด ลงเล่นไปทั้งหมด 2,618 นาที

• โอกาสยิง 26 ครั้ง เข้ากรอบ 7 ครั้ง เป็นประตู 1 ลูก เฉลี่ย 2,618 นาที ยิงได้ 1 ประตู โดยประตูที่ยิงได้มาจากการยิงนอกกรอบเขตโทษ

• แย่งบอลคู่แข่งได้ 46 ครั้ง

• เบียดปะทะกับคู่แข่ง 75 ครั้ง โดยเบียดชนะได้คิดเป็น 75 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด

• เคลียร์บอลทิ้งได้ 12 ครั้ง บล็อคลูกยิงของคู่แข่งได้ 8 ครั้ง

• ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 1968 ครั้ง ซึ่งแบ่งเป็นการโยนบอลไกล 12 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยแล้วโดยรวมผ่านบอลสำเร็จ 90 เปอร์เซ็นต์

• เรียกฟาวล์ได้ 44 ครั้ง ทำเสียฟาวล์ 35 ครั้ง ได้รับใบเหลือง 6 ใบ ส่วนใบแดงนั้นไม่เคยได้

 

 

 

สำหรับ แกเร็ธ เบล ก็เป็นนักเตะอีกคนที่ย้ายจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ มาอยู่กับ "ราชันชุดขาว" เหมือนกับ ลูก้า โมดริช แต่ว่า "วานรเทพ" นั้นย้ายมาช้ากว่า 1 ปี ซึ่งการย้ายทีมของเขานั้นได้ทำลายสถิติค่าตัวแพงที่สุดในโลกที่ 100 ล้านยูโร (4,500 ล้านบาท)

 

แต่ตอนย้ายมาเนี่ยชีวิตของเขาก็ไม่ได้ราบรื่นนักหรอก เพราะย้ายมาทั้งๆ มีอาการบาดเจ็บ ต่อมาพอกลับมาฟิตสมบูรณ์ก็ยังเล่นเข้ากับทีมไม่ค่อยได้ จนถูกวิจารณ์อย่างหนักเช่นกันว่า ทำผลงานได้ไม่คุ้มกับค่าตัว แต่ไม่นานหลังจากนั้นเหล่าบรรดาเกจิทั้งหลายถึงกลับต้องรูดซิปปาก เมื่อ เบล มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้น ทั้งยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ รวมไปถึงผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้บ่อยครั้ง

 

 

 

ผมว่าภาพหนึ่งที่ที่ทุกคนจำได้ดีก็คือเกม โกปา เดล เรย์ รอบชิงชนะเลิศ ที่ เรอัล มาดริด สามารถเอาชนะคู่อริตลอดกาล อย่าง บาร์เซโลน่า ได้ 2-1 และคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ โดยเจ้า "วานรเทพ" นั้นได้แตะบอลยาวหนี มาร์ค บาร์ตร้า ซึ่งตอนแรกทำท่าว่าจะเสีบอลเสียแล้วเมื่อ เบล นั้นโดนเบียดออกสนาม แต่ทว่าเขากลับติดไนตรัสเร่งสปีดวิ่งแซง บาร์ตร้า ไปอย่างหน้าตาเฉย พร้อมกับส่งบอลรอดขา โฆเซ่ ปินโต้ เข้าตุงตาข่ายไปช่วงท้ายเกม เป็นประตูพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์สำเร็จ

 

 

• ยิงได้ 20 ประตูจาก 42 เกมรวมทุกรายการ ทำได้ 16 แอสซิสต์

• ลงเล่นไป 1,980 นาที ใน ลา ลีกา ยิงได้ 14 ประตู เฉลี่ย 141.42 นาทียิงได้ 1 ประตู

• เรตติ้งของ เบลนั้น การยิงประตู 3.1 ผ่านบอลสำเร็จ 1.3 เลี้ยงบอล 2.1 เรียกฟาวล์ 0.8 ประสิทธิภาพในเกมรุก 1.1 ประสิทธิภาพเกมรับ 0.3 เทคนิค 1.2 ผลออกมา เรตติ้งอยู่ที่ 7.71

• ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมสำเร็จ 75 เปอร์เซ็นต์

• เรตติ้งตำแหน่ง : กองหน้าฝั่งขวา 7.95 มิดฟิลด์ฝั่งขวา 8.4 กองหน้าฝั่งซ้าย 7.38 กองหน้าตัวเป้า 6.3

 

 

 

ต้องบอกว่าปีนี้เป็นปีทองของเขาจริงๆ สำหรับเจ้าของโค้ดเนม "CR7" ซึ่งพี่แกนั้นเล่นทำลายสถิติเป็นว่าเล่น ผลงานซีซั่นนี้ยิงไปแล้ว 50 ประตูจากการลงเล่น 46 เกมรวมทุกรายการ เล่นเอาซะคู่แข่งอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ของ บาร์เซโลน่า นั้นตกกระป๋องไปเลย

 

"โด้จิ๋ว" เพิ่งผงาดงาบรางวัล "ฟีฟ่า บัลลงดอร์" ปีนี้มาครองได้สำเร็จ โดยถูกเทใจให้มากกว่า เมสซี่ และฟร้องค์ ริเบรี่ เสียอีก ต่อจากนั้นมาเจ้าตัวก็ได้สร้างสถิติใหม่ยิงถึง 50 ประตูเป็นฤดูกาลที่ 4 ติดต่อกันแล้ว แถมล่าสุดเพิ่งทำลายสถิติกลายเป็นดาวยิงสูงสุดในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ 16 ประตู ซึ่งมีโอกาสบวกเพิ่มได้อีก หากจบสกอร์ได้ในนัดชิงกำที่จะเจอกับ แอตเลติโก มาดริด ส่วนรางวัลต่อก็คือ รองเท้าทองคำ หรือ "โกลเด้น บูธ" ซึ่งตอนนี้กำลังขับเคี่ยวอยู่กับ หลุยส์ ซัวเรซ ที่ยิงได้ 31 ประตูเท่ากัน

 

 

 

ส่วนเรื่องผลงานกับทีมนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาคือผู้เล่นที่สำคัญที่สุดของ เรอัล มาดริด เกมไหนที่ขาดเขาไปประสิทธิภาพเกมรุกและการจบสกอร์จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอนว่าเขาคือนักฟุตบอลของ "ราชันชุดขาว" ที่เป็นที่รักใคร่ของแฟนบอลมากที่สุด

 

 

• ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 30 นัดจาก 30 นัด 

• ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 2,540 นาที มีโอกาสยิง 172 ครั้ง เข้ากรอบ 93 ครั้ง 

• ยิงได้ 31 ประตูในลีก โดยมาจากการยิงประตูจากเท้าขวา 26 ประตู เท้าซ้าย 2 ประตู และศีรษะ 3 ประตู ยิงในกรอบเขตโทษได้ 26 ประตู ยิงนอกกรอบเขตโทษ 5 ประตู เฉลี่ยแล้ว 1 ประตูใช้เวลา 81.94 นาที

• เบียดปะทะกับคู่แข่ง 18 ครั้ง โดยเบียดชนะได้คิดเป็น 89 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด

• เคลียร์บอลทิ้งได้ 13 ครั้ง บล็อกลูกยิงของคู่แข่งได้ 1 ครั้ง

• ผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทั้งหมด 954 ครั้ง ซึ่งแบ่งเป็นการโยนบอลไกล 3 เปอร์เซ็นต์ เฉลี่ยแล้วโดยรวมผ่านบอลสำเร็จ 80 เปอร์เซ็นต์

• เรียกฟาวล์ได้ 56 ครั้ง ทำเสียฟาวล์ 20 ครั้ง ได้รับใบเหลือง 4 ใบ ส่วนใบแดงนั้นได้ 1 ใบ

 

 

• คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 68.1 เปอร์เซ็นต์

• ลูก้า โมดริช 22.6 เปอร์เซ็นต์

• แกเร็ธ เบล 6.1 เปอร์เซ็นต์

• อื่นๆ 3.3 เปอร์เซ็นต์