1 ทศวรรษ กู๋โรมัน เปลี่ยนโฉมหน้าบอลผู้ดี...???

1 ทศวรรษ กู๋โรมัน เปลี่ยนโฉมหน้าบอลผู้ดี...???

1 ทศวรรษ กู๋โรมัน เปลี่ยนโฉมหน้าบอลผู้ดี...???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชลซีเตรียมที่จะฉลองครบรอบ 10 ปีที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาเทคโอเวอร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โฉมหน้าฟุตบอลอังกฤษเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง

ด้วยสไตล์คนโคตรรวยใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย ทว่านั่นก็เป็นวิธีตอบสนองความต้องการของ กู๋โรมัน

 เมษายนปี 2003 ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ท่ามกลางแฟนบอลที่เข้าไปดูเกมผีแดงดวลกับเรอัล มาดริด ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแปดทีมสุดท้าย หลังเกมการพาดหัวข่าวเฉลี่ยกันไประหว่าง เดวิด เบ็คแฮม ที่ยิง 2 ประตูในนัดนั้น กับ โรนัลโด้ เหยินใหญ่หัวหอกแซมบ้าของราชันชุดขาวที่กดแฮตทริก

หนึ่งในผู้ชมค่ำคืนนั้น มีมหาเศรษฐีชาวรัสเซียนามว่า โรมัน อบราโมวิช รวมอยู่ด้วย แกหลงรักเกมฟุตบอลอย่างจัง ความคิดผุดขึ้นมาโดยพลัน ต้องมีทีมเป็นของตัวเองบ้าง และเพื่อความเร้าใจต้องเป็นทีมในพรีเมียร์ ลีก

 


การตัดสินใจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและลงมือเร็วตามประสาคนมีเงินเหลือใช้มากมายก่ายกอง เชลซีถูกเลือกขึ้นมาในใจ มีการติดต่อเทรเวอร์ เบิร์ช หัวหน้าฝ่ายบริหารเพื่อพูดคุยเรื่องนี้ และน้ามูใช้เวลาแค่ 20 นาที ไม่ต่อสักคำยอมรับราคา 140 ล้านปอนด์พร้อมหนี้สินของสโมสร


อีกหนึ่งวันถัดมาทุกอย่างก็เสร็จสิ้นลงนามกันไปเรียบร้อย โรมัน อบราโมวิช คือเจ้าของทีมเชลซีคนใหม่ หลังจากนั้นภายในเวลาแค่ 2 เดือน โรมัน หว่านเงินเข้าสู่ตลาดนักเตะถึง 100 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อความสำเร็จที่แกไม่อยากรอนาน


เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผีแดง ตอบโต้เรื่องนี้วันละหลายรอบ เงินไม่สามารถซื้อความสำเร็จแค่ชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม แค่ 2 ปี จอห์น เทอร์รี่ ก็ได้ชูถ้วยพรีเมียร์ ลีก ฟุตบอลอังกฤษไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว


สไตล์ฟุ่มเฟือยของ โรมัน อบราโมวิช ใช้เงินซื้อความสำเร็จเป็นตัวกำหนดให้หลายอย่างในวงการสั่นสะเทือนไปเรื่อย อะไรที่แกต้องการก็ซื้อเอา ขนาด ปีเตอร์ เคนย่อน หัวหน้าฝ่ายบริหารของผีแดง กู๋โรมัน ยังซื้อมาได้



หลังจากนั้นการแอบตีท้ายครัวทีมคู่แข่งก็เริ่มมากขึ้น โรมัน อบราโมวิช ยื่นซื้อ เธียร์รี่ อองรี จากปืนโต 50 ล้านปอนด์ในปี 2005 ทว่าไม่สำเร็จ จนแกนำเงินไปละลายแม้น้ำเล่น 30 ล้านปอนด์ด้วยการซื้ออังเดร เชฟเชนโก้ เข้ามาร่วมทีม



วิธีการของ โรมัน อบราโมวิช ทีสร้างความขุ่นเคืองได้มากก็คือ ไปตีท้ายครัวอาร์เซนอลนั่นแหละ แต่ไม่ใช่อองรี โดยการส่งน้ามูแอบไปพูดคุยกับ แอชลีย์ โคล ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง


อาร์แซน เวนเกอร์ โวยแหละ ถึงขั้นประณามกันเลยที่เชลซีเสียมายาทอย่างรุนแรงแอบติดต่อนักเตะแบบผิดขั้นตอน ทั้งน้ามู และ กู๋โรมัน ไม่สนใจอะไร สุดท้ายก็ได้แอชลีย์ โคล มาร่วมทีมและคว้ากันไปสารพัดแชมป์จนถึงตอนนี้

 


อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า อบราโมวิช จะเป็นตัวบ่อนทำลายวงการ แกคิดเรื่องการยืนบนขาตัวเองแบบยั่งยืนของสโมสรเช่นกัน โดยสร้างสนามซ้อมใหม่ สร้างอคาเดมี่ ของสโมสรขึ้นมา


ค็อบแฮม ศูนย์ฝึกซ้อมของเชลซีเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2007 นอกจากนี้ โรมัน อบราโมวิช ยังยกหนี้สินของสโมสรที่ยืมเงินจากแกไป 700 ล้านปอนด์ให้อีกด้วยเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปแบบสวยๆ เล่นเอาบอร์ดยุฟ่าถึงกับเต้นกันเป็นแถว



แต่ที่น่าเสียดายมากๆหนึ่งในการลงทุนขนาดใหญ่ก็คือเชลซีไม่เปิดโอกาสให้กับเด็กในอคาเดมี่ของตัวเองสักเท่าไหร่ ยังคงใช้เงินซื้อหาซูเปอร์สตาร์ที่ต้องการเหมือนเดิม


หลายปีที่ผ่านมาหลังจากเข้ามาเทคโอเวอร์เชลซีของ โรมัน อบราโมวิช แกใช้เงินซื้อความสำเร็จได้สมใจอยาก แต่ที่ยังคงค้างคาใจและคิดถึงทีไรหงุดหงิดทุกทีก็คือถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่นานกว่าจะได้มาประดับบารมี


แน่นอนช่วงหลายปีหลังเชลซีประหยุดการใช้จ่ายมากขึ้น จนหลายคนเริ่มสงสัยว่า โรมัน อบราโมวิช จะหมดความรักหมดความอยากที่จะมีสโมสรฟุตบอลเป็นของตัวเอง



พฤษภาคมปี 2012 ความต้องการเป็นแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก ของโรมัน อบราโมวิช ได้รับการตอบสนองด้วยการดวลจุดโทษชนะบาเยิร์น มิวนิค ทั้งที่ถูกมองว่าไม่น่ารอดกลับออกมาได้


หลายคนในสโมสรถึงกับโล่งใจไปตามๆกัน เพราะหลังเกมนั้น โรมัน อบราโมวิช ขอบคุณนักเตะที่ทำได้สำเร็จ และบอกทิ้งท้ายเอาไว้ว่า นี่คือการเริ่มต้นเท่านั้น


ขึ้นปี 2013 หนึ่งทศวรรษที่ โรมัน อบราโมวิช เข้ามาสู่โลกของฟุตบอลได้รับรู้แบบจะแจ้งในมุมตรงข้ามความรู้สึกของตัวเองว่า เงินไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง เมื่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เลือกบาเยิร์น มิวนิคแทนเชลซีที่ให้เงินค่าจ้างมากกว่า



ถึงแม้ว่า โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ จะพาทีมเป็นแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก และได้คุมทีมต่อไป แต่นั่นก็รับรู้ได้ว่าเป็นเพียงแค่รางวัลเล็กๆน้อยๆ เพราะ โรมัน อบราโมวิช ยังคงมองหากุนซือตัวจริงเสียงจริงที่ต้องการเข้ามาคุมทีม


ดิ มัตเตโอ โดนเด้ง ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามารับงานชั่วคราว ทุกอย่างพยายามเปิดกว้างเอาไว้ให้กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทว่าสุดท้ายแล้วอดีตกุนซือบาร์ซ่าเลือกที่จะเซ็นสัญญากับเสือใต้ นั่นทำให้ โรมัน อบราโมวิช ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญหันกลับไปจูบปากกับ โจเซ่ มูรินโญ่ ที่ครั้งหนึ่งเคยหมางใจกัน


ถึงตอนนี้เราคงต้องรอดูกันไปว่าอีก 10 ปีข้างหน้า อนาคตของเชลซีและ โรมัน อบราโมวิช จะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆแกเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้าวงการฟุตบอลโดยเพราะพรีเมียร์ ลีก อย่างแท้จริง



เรื่องโดย : ดามัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook