แพ็กคู่ไปเลยเวนเกอร์ !
ฟุตบอล : อาร์เซนอล และ อาร์แซน เวนเกอร์ โดนเยาะเย้ยถากถางไม่น้อยกับการดีใจเหมือนได้แชมป์หลังจากคว้าอันดับ 4 มีโควตาไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า
มีเหตุผลมากไปกว่าการได้โควตาถ้วยใหญ่ยุโรปอย่างแน่นอน ที่สำคัญพื้นที่ตรงนี้สามารถทำให้แผนการที่วางเอาไว้ว่าจะกลับมาลงทุนอีกครั้งในตลาดซื้อขายเดินหน้าต่อไปได้แบบไม่มีอุปสรรคขวางกั้น
ปืนโตเน้นนโยบายขายนักเตะกินมาเป็นเวลาหลายปี ซึ่งสืบเนื่องมาจากการสร้างสนามใหม่ที่ต้องวางแผนให้รัดกุมกับการใช้หนี้ในแต่ละปี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแต่ละปีที่ผ่านไป ปืนโตจะขายตัวหลักออกไปมากแค่ไหน มาตรฐานของทีมก็ยังคงไม่เสียทรงไปมากนัก เมื่อต้องการกลับมาลงทุนในตลาดซื้อขายแบบจริงจังในซัมเมอร์นี้ ฐานที่ดีของทีมที่ยังคงมีอยู่จะช่วยได้เยอะมาก ซึ่งล้วนแล้วมาจากการพยายามรักษาโครงสร้างเอาไว้ให้ได้ของ อาร์แวน เวนเกอร์ นั่นเอง
ในที่สุดเวนเกอร์ก็พาอาร์เซนอลจบอันดับที่ 4 ในซีซั่นนี้
ในแนวรับ คาร์ล เจนกินสัน ดีขึ้นมามากในฤดูกาลนี้ ในขณะที่ โลร็องต์ คอสเซียลนี่ กลายเป็นหนึ่งในแนวรับที่ดีที่สุดของทีมไปแล้ว แจ๊ค วิลเชียร์ ในแดนกลาง เวนเกอร์สามารถสร้างทีมโยมีมิดฟิลด์คนนี้เป็นปัจจัยหลัก โดยมีข้อแม้ว่าต้องอยู่ในสภาพฟิต
ในขณะที่ ซานติ กาซอร์ล่า เข้ามาสู่ทีมฤดูกาลแรกสามารถโชว์ผลงานที่ดีได้ทันที เทคนิคของแข้งกระทิงดุคนนี้จะเป็นที่พึ่งพิงของทีมต่อไป ส่วนแถวหน้าสุด ธีโอ วัลค็อตต์ กับผลงาน 21 ประตูในการเล่นริมเส้นรวมทั้งหลบเข้าไปยืนเป็นกองหน้าตัวกลางบ้าง พวกนี้ล้วนแล้วแต่ยังคงเป็นฐานที่ดีในโครงสร้างของ เวนเกอร์
เพราะฉะนั้นแผนารเดินหน้าในตลาดซื้อขายที่สามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่สะดุด จึงทำให้ เวนเกอร์ และแฟนบอลปืนโตมีแฮปปี้กันเป็นพิเศษกับการได้สิทธิ์ไปถ้วยใหญ่ยุโรป
แน่นอนว่า 2 ทีมจากแมนเชสเตอร์ และเชลซี จะต้องมีการปรับแต้มทีมให้ดีที่สุด เพราะเดิมพันมันสูงขึ้น ผีแดงแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ ทั้งที่ไม่มีความสำเร็จอะไรประดับบารมี และถือว่าเป็นกุนซือที่มีประสบการณ์ในถ้วยยุโรปน้อยมาก
เชลซีแหกกฎของตัวเอง ตั้งใจหันกลับไปหา โจเซ่ มูรินโญ่ เป็นครั้งที่ 2 สิ่งที่สามารถการันตีได้ก็คือทีมคาดหวังความสำเร็จกันทันที เรื่องนี้กดดันและวางเดิมพันกันสูงมาก
ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ปรับเปลี่ยนตัวกุนซือกันใหม่เช่นกัน รวมทั้งจะมีการปรับแต่งในเรื่องตัวผู้เล่นกันอีกเพียบ ถ้าการเดินหน้าปรับปรุงทีมของปืนโตต้องหยุดชะงัก นั่นจะทำให้ระยะห่างระหว่างตัวเองกับทีมเหล่านั้นถูกยืดออกไปอย่างแน่นอน
โอกาสที่เกิดขึ้นจึงถือว่าสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อประกอบกับโครงสร้างหลักหรือบรรดาฐานที่ดีที่ยังคงมีอยู่ เวนเกอร์สามารถเจาะลงไปในจุดอ่อนของทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้รักษาประตู,มิดฟิลด์ตัวรับและกองหน้า ว่ากันว่านี่คือจุดที่จะโฟกัสลงไปในซัมเมอร์นี้ ทว่าพื้นที่ตรงนี้พุ่งประเด็นกันไปที่กองหน้ากันก่อน
ข่าวที่เกิดขึ้น ปืนโตกำลังไล่ล่า สเตฟาน โยเวติช หัวหอกมอนเตเนโกรของฟิออเรนตินาซึ่งยูเวนตุสก็เมียงมองอยู่เช่นกัน ทางฝ่ายบริหารของฟิออฯยอมรับเหมือนกันว่า โยเวติช คงจะย้ายออกไปจากทีม
อาร์เซนอลอาจจะอิดออดอยู่บ้างในเรื่อของค่าตัว ทว่าถ้าตั้งใจจะกลับมาทวงถามความสำเร็จก็คงต้องยอมกันบ้าง อีกความสนใจหนึ่งที่มาพร้อมข่าวของ โยเวติช ก็คือ กอนซาโล่ อิกวาอิน หัวหอกของทีมราชันชุดขาว
ถ้าไม่ได้ตัว สเตฟาน โยเวติช ก็จะเปลี่ยนเป้าไปที่ กอนซาโล่ อิกวาอิน ประมาณนั้น มาแค่คนเดียวพอมั๊ย ถ้าไม่คาดหวังว่าจะเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ ลีก กับทีมอื่นและไปเท่าที่ไปได้ในแชมเปี้ยนส์ ลีก แค่คนเดียวก็พอ แต่ถ้าหวังถึงขั้นเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ ลีก และคาดหวังถึงรอบรองหรือเข้าชิงไปเลยกับถ้วยใหญ่ของยุโรปซื้อมาทั้ง 2 คนซะเลย
เป็นการเพิ่มออปชั่น เพิ่มทางเลือกได้หลากหลายในแผนการเล่น จะส่งลงคู่กันก็น่าจะได้ เพราะทั้ง 2 คนไม่ใช่ประเภทยืนปักหลักรออยู่ในกรอบเขตโทษ หรือจะเล่นแบบกองหน้า 3 คนในรูปแบบที่ไม่มีหน้าเป้าเหมือนบาร์ซ่าหรือทีมชาติสเปน
อิกวาอิน อยู่ตรงกลาง โยเวติช ทางด้านซ้าย ในขณะที่ฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ ธีโอ วัลค็อตต์ เทคนิคของแต่ละคนสามารถข่มขวัญแนวรับของทุกทีมได้แน่นอน
17 ประตู กับ 8 แอสซิสต์ ของอิกวาอินในฤดูกาล 2012-2013 อาจจะดูแห้งแล้งไปนิดหนึ่ง ทว่านั่นก็อาจจะดีถ้าเทียบกับกองหน้าของปืนโตในฤดูกาลนี้
อย่างไรก็ตามถ้าจะสะท้อนผลงานที่แท้จริงของ อิกวาอิน คงต้องมองย้อนกลับไปในฤดูกาล 2009-2010 ที่มี มานูเอล เปเญกรีนี่ คุมทีม อิกวาอิน เป็นตัวเลือกแรกในแดนหน้าลุยคู่กับโรนัลโด้ ยิงเป็นกอบเป็นกำทั้งคู่ แม้ว่าผลงานในถ้วยุโรปของอิกวาอินจะน้อยไปหน่อย แต่ถ้าการปิดสกอร์ในถ้วยนี้ของ โยเวติช มีสถิติที่ดี มันก็สามารถลบล้างจุดเด่นจุดด้อยกันไปได้
ในสไตล์กองหน้า 3 คนของเรอัลมดาริด ฤดูกาล 2011-2012 อิกวาอิน อยู่ตรงกลางขนาบข้างโดย โรนัลโด้ กับ ดิ มาเรีย ฤดูกาลนั้น อิกวาอินยิงไป 26 ประตู กับ 10 แอสซิสต์ โดยยิงในลีกได้ 22 ประตู
สำหรับ สเตฟาน โยเวติช ฤดูกาลแรกกับฟิออเรนตินา ไม่มีอะไรในถ้วยยุโรปให้จดจำ ทว่าฤดูกาลถัดมา 2009-2010 ออกสตาร์ตให้กับทีม 3 นัด จัดการไป 4 ประตู กับ 1 แอสซิสต์ ทว่าหลังจากนั้นไม่ได้เล่นในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกเลย
อย่างไรก็ตามผลงานของหัวหอกมอนเตเนโกร พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้ามีโอกาสได้ลุยร่วมกันในเอมิเรสต์ สเตเดี้ยมคงมันน่าดู ผลงานในพรีเมียร์ ลีก คงเป็นกอบเป็นกำ และเทคนิคของทั้งคู่น่าจะช่วยได้เป็นอย่างดีกับการปรับให้เข้ากับสไตล์ของอาร์เซนอล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถ้ามีตัวเลือกหลายคนเทคนิคดีๆ สามารถปรับใช้ได้หลายสถานการณ์ตามความต้องการของกุนซือ เวนเกอร์ มีเกมรับที่ถือว่าใช้ได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้วถ้าดูจากสถิติในพรีเมียร์ ลีก เพราะฉะนั้นการเติมกองหน้าเข้ามาแบบมีชื่อชั้นเทคนิคดีพร้อมกันทั้งคู่แบบนี้ แนวรับคู่แข่งต้องเจอเรื่องราวสยองขวัญแน่นอน
แม้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มาแบบแพ็กคู่ เพราะคงต้องใช้เงินเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นจริงขึ้นมา กองหน้าอาร์เซนอลส่องประตูคู่แข่งแบบได้ลุ้นความสำเร็จก็เป็นได้
เรื่องโดย "ดามัน"