พลังเพลิงสุดต้านโดนกิเลนบุกยำถึงถิ่น 4-1 โอ้มุ้ยคนละสอง

 
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก 2014 นัดกลางสัปดาห์วันพุธที่ 9 เมษายน 2557 "พลังเพลิง" ปตท.ระยอง ทีมอันดับ 15 ของตารางมี 7 คะแนน เปิดสนามพีทีที สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ของตารางมี 14 คะแนน
 
เกมนี้ได้รับความสนใจจากแฟนบอลทั้งสองทีมจำนวนมากเข้ามาชมและเชียร์กันเต็มสนาม ซึ่งเป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่ในลีกสูงสุด โดยเกมนี้ด้าน ปีเตอร์ วิธ กุนซือใหญ่เจ้าถิ่นส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดย อมาดู อ็อตทาร่า,ยุทธนา ไชยแก้ว,เยเวส เดสมาเรทส์ และ รูฟิโน่ ซานเชส ส่วนทีมเยือน "กิเลนผยอง" เป็นเกมที่สองของในการคุมทีมของ พล ชมชื่น กุนซือชั่วคราว โดยตัวหลักวันนี้มี ดัสกร ทองเหลา,คิม ดอง จิน,มาริโอ ยูรอฟสกี้,ธีรศิลป์ แดงดา และ เจย์ โบธรอยด์ นำทัพ โดยผู้ตัดสินในเกมนี้ ได้แก่ นิวัฒน์ อินสอาด
 
เริ่มเกมมาเป็นทีมเยือนเอสซีจี เมืองทองฯ ที่เปิดฉากบุกเข้าใส่ และแล้ว น.9 ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากฟรีคิกหน้าเขตโทษ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ปั่นด้วยซ้ายบนตกใส่คานก่อนมาชนหลังของ สุจินต์ นาคนายม ผู้รักษาประตูเข้าไป กิเลนผยองบุกมานำ 1-0
 
หลังถูกนำก่อนเจ้าถิ่น ปตท.ระยอง ก็เปิดเกมบุกสู้ขึ้นมาบ้างหวังเอาประตูตีเสมอ และมาได้ลุ้นสองครั้ง น.15 จากลูกยิงไกลของ เยเวส เดสมาเรทส์ และอีกครั้ง น.23 จาก รูฟิโน่ ซานเชส แต่ทั้งสองครั้งก็ไม่ผ่านมือของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์
 
น.32 ดัสกร ทองเหลา ได้ลองปั่นฟรีคิกจากริมกรอบโทษฝั่งขวา แต่บอลไปเข้ามือของ สุจินต์ นาคนายม นายทวารเจ้าถิ่น น.33 ปตท.ระยอง ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกเมื่อ ณัทธภณ วรทญานันทรน์ ได้รับบาดเจ็บต้องส่ง ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ ลงเล่นแทน
 
น.38 ธีรศิลป์ แดงดา ได้จังหวะล็อกหลบแนวรับเจ้าถิ่นก่อนตะบันเต็มข้อด้วยซ้ายมุมแคบแต่ไปตรงตัวผู้รักษาประตู ผ่านมาถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก น.45 ทีมเยือนมาได้จุดโทษ เจย์ โบธรอยด์ พยายามเลี้ยงบอลลุยเข้าไปในเขตโทษก่อนโดนแนวรับพลังเพลิงสกัดล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที และเป็น ซูเปอร์มาริโอ สังหารอย่างใจเย็นเข้าไป ให้เอสซีจี เมืองทองฯ ขึ้นนำ ปตท. ระยอง ในครึ่งแรกอยู่ 2-0
 
กลับมาครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวเพิ่มเติม จนกระทั่งถึง น.54 เอสซีจี เมืองทองฯ เปลี่ยนเอา ดัสกร ทองเหลา ออกและส่ง สารัช อยู่เย็น ลงเล่นแทน
 
น.55 จากความสามารถเฉพาะตัวของ ธีรศิลป์ แดงดา ว่าที่ศูนย์หน้าอัลเมเรียได้จังหวะเลี้ยงบอลลุยโซ่โล่เดี่ยวเข้าไปในเขตโทษก่อนจิ้มบอลสวนตัวผู้รักษาประตูเข้าไปให้ทีมเยือนหนีไปเป็น 3-0
 
มาถึง น.70 ปตท.ระยอง มาได้จุดโทษบ้าง ทศพล ลาเทศ พยายามจะพักอกคืนให้ประตูแต่บอลไปโดนแขน และเป็น รูฟิโน่ ซานเชส ที่ยิงเข้าไปไม่พลาดให้เจ้าถิ่นไล่มาเป็น 1-3
 
น.79 เจ้าถิ่นพลาดได้ลูกที่สอง ไพฑูรย์ เทียบมา เปิดบอลจากขวามาให้ พิพัฒน์ ต้นกันยา ตัวสำรองได้โหม่งจ่อๆ แบบเผาขนแต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลา ศราวุฒิ มาสุข ได้จังหวะหลุดเดี่ยมไปโล่งๆ ก่อนจะปาดเรียดมาให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้แปจ่อๆ ที่เสาสองเป็นประตูปิดท้ายให้ เอสซีจี เมืองทองฯ บุกมาชนะ ปตท.ระยอง 4-1 ทำให้ทีมเยือนเก็บเพิ่มเป็น 17 คะแนน ส่วนเจ้าถิ่นหยุดอยู่ที่ 7 แต้มเหมือนเดิม
 
สำหรับนัดต่อไปของทั้งคู่จะกลับมาเล่นกันหลังสงกรานต์ ปตท.ระยอง จะบุกไปเยือนอาร์มี่ ยูไนเต็ด ในวันที่ 20 เม.ย. ส่วนเอสซีจี เมืองทองฯ จะกลับไปเล่นในบ้านรับการมาเยือนของเชียงราย ยูไนเต็ด ในวันที่ 19 เม.ย.ต่อไป
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
 
ปตท.ระยอง : สุจินต์ นาคนายม (GK),อมาดู อ็อตทาร่า,เจมส์ แมคเคลนาฮาน,เดชา สร้างดี,ศราวุฒิ นะตะสัตย์,ยุทธนา ไชยแก้ว (C) (พิพัฒน์ ต้นกันยา น.59),ณัทธภณ วรทญานันทน์ (ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ น.33),ธงชัย กึนขุนทด,ไพฑูรย์ เทียบมา,รูฟิโน่ ซานเชส, และ เยเวส เดสมาเรทส์
 
เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (GK),ทศพล ลาเทศ,ปิยพล ผานิชกุล (ศราวุฒิ มาสุข น.63),คิม ดอง จิน,ดัสกร ทองเหลา (C) (สารัช อยู่เย็น น.54),อีริค ปาร์ตาลู,เจย์ โบธรอยด์ (กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ น.82),ธีรศิลป์ แดงดา,มาริโอ ยูรอฟสกี้,ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ สุริยา สิงห์มุ้ย
 
หลังจบเกม
 
พล ชมชื่น กุนซือชั่วคราวเอสซีจี เมืองทองฯ กล่าวว่า "เกมนี้เราได้ประตูเร็วจึงทำให้เล่นง่าย และวันนี้นักเตะทุกคนก็เล่นได้ดีเกมไหลลื่น ซึ่งถือว่าน่าพอใจที่สองเกมเรากลับมาคืนฟอร์มเก็บได้ 6 แต้ม ส่วนเรื่องอนาคตนั้นผมคิดว่าบอร์ดบริหารกำลังหาคนที่เหมาะสมมาเป็นโค้ชใหญ่หลังสงกรานต์นี้น่าจะได้คำตอบ"
 
ส่วน ปีเตอร์ วิธ กุนซือ ปตท.ระยอง กล่าวว่า "ดูจากผลการแข่งขันเราอาจจะแพ้แบบสู้ไม่ได้ แต่จริงๆ รูปเกมเราไม่ได้เป็นรอง เพียงแต่มีโอกาสแล้วทำไม่ได้ โดยการเล่นกับทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างเมืองทองฯ ถ้าทำไม่ได้ก็จะโดนลงโทษแบบนี้ อีกอย่างผมคิดว่าจุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่จุดโทษท้ายครึ่งแรก ซึ่งผมคิดว่าไม่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามจะขอไปดูเทปจังหวะดังกล่าวอีกครั้ง"