5 เรื่องต้องรู้ หลัง อาร์เซนอล ฟอร์มแรงท้ายเกม ถล่ม ค้อน 4-1 สดุดี เวนเกอร์

5 เรื่องต้องรู้ หลัง อาร์เซนอล ฟอร์มแรงท้ายเกม ถล่ม ค้อน 4-1 สดุดี เวนเกอร์

5 เรื่องต้องรู้ หลัง อาร์เซนอล ฟอร์มแรงท้ายเกม ถล่ม ค้อน 4-1 สดุดี เวนเกอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกมแรกหลังการประกาศแยกทางระหว่าง อาร์เซนอล และ อาร์เซน เวนเกอร์ จบลงไปได้ด้วยดี หลัง ไอ้ปืนใหญ่ เล่นเกมลอนดอนดาร์บี้นัดสุดท้ายเอาชนะผู้มาเยือนจากฝั่งตะวันออก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปได้ 4-1 ทิ้งระยะห่างจาก เบิร์นลีย์ ออกไป 4 แต้ม

 และประเด็นน่าสนใจในเกมนี้ อยู่ที่นี่แล้ว

5. เวลเบ็คยังเฉิดฉายต่อไปALEXANDER NEMENOV/GettyImages

มันมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ แดนนี เวลเบ็ค ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่สามารถทำได้ใกล้เคียงสิ่งที่เขาเคยโม้ไว้แม้แต่น้อย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังจะพัฒนาไปในทางที่ถูกต้องได้แล้ว

 การที่ อาร์เซนอล ต้องมาเจอกับ แอตเลติโก้ มาดริด ทำให้กุนซือมากประสบการณ์อย่าง อาร์เซน เวนเกอร์ คิดไม่ตกทีเดียวว่าจะทำอย่างไรกับคู่แข่งสุดหินนี้ดี และจากฟอร์มอันย่ำแย่ในเกมที่แพ้ นิวคาสเซิล 1-2 น่าจะจุดความกลัวของ เวนเกอร์ ได้ดีเยี่ยม ทำให้เขาเลือกที่จะส่งตัวจริงลงเช็คฟอร์มกันเลยตั้งแต่ตอนนี้

 และสำหรับ เวลเบ็ค แล้ว เขาก็ไม่ทำให้ เวนเกอร์ ผิดหวัง เขามีความเร็ว เขามีเทคนิคแพรวพราว เขาเล่นงานกองหลังของ เวสต์แฮม ได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการแหวกช่องของแนวรับ ขุนค้อน ให้เป็นรู จนคนอื่นมีโอกาสสอดเข้าไปในเขตอันตรายได้ง่ายขึ้น และแม้เกมนี้เขาจะทำประตูไม่ได้ แต่ฟอร์มการยิงประตูในเกมกับ ซีเอสเคเอ มอสโคว น่าจะทำให้ เวนเกอร์ ใจชื้นขึ้นมาหน่อยก่อนเกม ยูโรป้าลีก คืนวันพฤหัสบดีนี้

4. มอนเรอัล ยิงประตูได้อีกแล้วIAN KINGTON/GettyImages

ก่อนหน้าเกมนี้ นาโช มอนเรอัล ทำประตูให้ อาร์เซนอล ไปแล้ว 3 ประตู จาก 6 นัด ในปี 2018 และวันนี้เขาก็ยิงประตูได้อีกครั้ง

 ประตูดังกล่าวเกิดขึ้นจากจังหวะลูกเตะมุม ซึ่ง กรานิต ชาก้า เลือกที่จะหยอดไปกลางประตูเลยหวังให้ทีมลุ้นโหม่งจากพวกตัวใหญ่ ๆ แต่กลับกลายเป็นแบ็คซ้ายชาวสเปนเสียนี่ที่ได้โอกาสตะบันด้วยเท้าอย่างกับศูนย์หน้า

 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แต่ นาโช มอนเรอัล นี่แหละคือตัวทีเด็ดในยามที่แนวรุก อาร์เซนอล ยังคลำเป้าไม่เจอ หรือหาช่องเจาะไม่ได้ เพราะเขาเป็นคนที่มักสอดมาได้ถูกช่องถูกจังหวะตลอด และถ้าได้ เมซุต เออซิล กับ เฮนริค มคิตาร์ยาน มาเปิดบอลให้ มันจะยิงเพอร์เฟ็คท์สุด ๆ ไปเลย

3. เวสต์แฮม ยังโชคดีMike Hewitt/GettyImages

แม้ผลการแข่งขันที่ เอมิเรตส์ จะไม่ค่อยเป็นใจนัก หลังพวกเขาโดนเจ้าบ้านเรียงยิง 3 ลูกรวดในช่วง 8 นาทีสุดท้าย จนต้องกลับบ้านมือเปล่าแบบช้ำใจ แต่ผลอีก 2 สนามก็ช่วยให้พวกเขายังมีความสุขเล็ก ๆ ได้อยู่

 ก่อนเกมจะเริ่มขึ้น ขุนค้อน อยู่อันดับ 15 มี 35 คะแนน และเพิ่งโดน คริสตัล พาเลซ แซงไปด้วยสกอร์ได้เสียจากผลเกมเมื่อวันเสาร์ อย่างไรก็ตาม ผลการแข่งของ สโต๊ค และ สวอนซี ต่างหากที่พวกเขาสนใจ

 สโต๊ค ซิตี้ ทีมในลำดับที่ 19 มีแต้มอยู่ 28 คะแนน ตามหลัง เวสต์แฮม 7 แต้ม หาก ช่างปั้นหมอ เอาชนะ เบิร์นลีย์ ได้ พวกเขาจะบี้ เวสต์แฮม เหลือ 4 คะแนน และนั่นจะทำให้การลุ้นหนีตกชั้นเป็นไฟขึ้นมาเลยทีเดียว โชคดีหน่อยที่ประตูของ แอชลีย์ บาร์นส์ ดับความหวังของ สโต๊ค ซิตี้ ลงได้ และทำให้ ขุนค้อน ยังนำ ทีมอันกับ 18 และ 19 (สโต๊ค และ เซาแธมป์ตัน) ค่อนข้างห่างที่ 6 คะแนน 

 ส่วนผลของ สวอนซี ทีมอันดับ 17 ที่ลงเตะช้ากว่าพวกเขา 3 ชั่วโมง ก็ยิ่งมีประโยชน์ต่อ ขุนค้อน เพราะการโดนถล่ม 0-5 ทำให้ หงส์ขาวมีสกอร์ได้เสียที่ -24 ลูก แย่กว่า เวสต์แฮมไป 3 ลูกแล้ว แถมแต้มของ สวอนซี ก็ยังตาม เวสต์แฮม 2 แต้ม อีกเช่นกัน งานนี้ศึกหนีตกชั้นอาจได้ลุ้นยาวถึงนัดสุดท้ายเลยก็ได้ ซึ่งเมื่อเทียบกัน 4 ทีมแล้ว เวสต์แฮมน่าจะได้เปรียบที่สุด เพราะงานของพวกเขาคือ เอฟเวอร์ตัน ที่ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว ในขณะที่ เซาแธมป์ตัน จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของแชมป์ลีกปีนี้อย่าง แมนฯ ซิตี้ ส่วน สวอนซี จะเปิดศึกหนีตายกับ สโต๊ค  

2. ผลเสียของการเสีย เอลเนนีShaun Botterill/GettyImages

โมฮาเหม็ด เอลเนนี คือแข้งคนสำคัญในเกมอันไหลลื่นของ อาร์เซนอล ตลอด 2 รอบที่ผ่านมาในการเจอกับ เอซี มิลาน และ ซีเอสเคเอ มอสโคว การสูญเสียมิดฟิลด์ชาวอียิปต์ไปจะส่งผลต่อ อาร์เซนอล พอสมควรเลยทีเดียว

 เจ้าของรางวัล "นักเตะยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ของ ยูโรป้าลีก" เมื่อต้นเดือนเมษายน ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้ทั้ง ๆ ที่ปกติเขามักถูกเก็บไว้เพื่อเกมยุโรปกลางสัปดาห์มากกว่า และในขณะที่เขากำลังต่อบอลกับเพื่อร่วมทีมอย่างไหลลื่น การหวดบอลสวนกันกับ มาร์ค โนเบิ้ล ในท้ายครึ่งแรกก็ทำให้เขาต้องลงไปนอนกองกับพื้น ก่อนจะถูกหามเปลออกมาหลังจากการปฐมพยาบาลในสนามเกือบ 4 นาที

 ทั้งเวลาที่ใช้ในการปฐมพยาบาลและการที่ต้องใช้เปลหามออกนอกสนามล้วนเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บทั้งสิ้น และหากเขาต้องพักยาวขึ้นมาจริง ๆ ละก็ มันจะไม่ใช่แค่ อาร์เซน เวนเกอร์ ที่ต้องเครียดกับการไม่มีเขาในเกมนัดที่เหลือของฤดูกาลเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อทีมชาติอียิปต์ของ เอคตอร์ กูเปร์ ในศึกฟุตบอลโลกที่รัสเซียด้วย

1. ขอบคุณนะ อาร์เซน เวนเกอร์Shaun Botterill/GettyImages

ใคร ๆ ก็รู้ว่าช่วงหลังมานี้ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม นั้นเงียบเหงาผิดปกติ เพราะแฟนบอลของ อาร์เซนอล ต่างประท้วงผลงานในสนามของ เวนเกอร์ ในฤดูกาลนี้ที่ออกทะเลเสียเหลือเกิน 

 แต่หลังจาก เวนเกอร์ ออกมาประกาศยุติบทบาทโค้ชอันยาวนานหลังสิ้นสุดฤดูกาล แฟนบอลที่หายหน้าไปก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง อาจจะยังไม่แน่นเต็มร้อย แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

 ทางสโมสรเองก็ไม่หย่อนไปกว่ากัน สูจิบัตรของเกมนี้ถูกพิมพ์ขึ้นให้เป็นภาพของ เฮดโค้ชวัย 68 พร้อมกับคำโปรยภาษาบ้านเกิดของ เวนเกอร์ ว่า "Merci Arsene" หรือแปลเป็นไทยว่า "ขอบคุณนะ อาร์เซน" 

 และเมื่อเข้าสู่โค้งสุดท้ายของเกมลอนดอนดาร์บี้ในชีวิตโค้ชของ เวนเกอร์ เสียงเพลง "There's only one Arsene Wenger" ก็ถูกขับขานบนอัฒจันทร์ที่ไม่เต็มดีของ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม นั่นแหละ ราวกับจะบอกว่า 'เราอโหสิให้กับความล้มเหลวในปีหลัง ๆ นี้นะ แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับความทรงจำดี ๆ ที่มอบให้แฟนบอล อาร์เซนอล ตลอด 22 ปีที่ผ่านมา นายคือที่ 1 เสมอ อาร์เซน เวนเกอร์'

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook