รูนี่ย์ ไปไหน?

รูนี่ย์ ไปไหน?

รูนี่ย์ ไปไหน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ท่ามกลางควันหลงหลังสงคราม "ปีศาจแดง" กับ "ราชันชุดขาว" ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สปอตไลต์จับจ้องกันไปตามแต่ละความสนใจ

บ้างจับไปที่ คูเนย์ต คาคีร์ เชิ้ตดำเลือดเติร์ก ที่มอบใบแดงให้กับ หลุยส์ นานี่ จากจังหวะยกเท้าสูงในนาทีที่ 56

บ้างสาดแสงไปที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือโปรตุกีสของทีมเยือน กับแอคชั่นต่างๆ รวมถึงการแก้เกมที่ทำให้ "ลา เดซิม่า" (แชมป์สมัยที่ 10) ยังคงส่องสกาวต่อไป

บ้างหันเหไปหา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ตัวเอ้ที่มีถูกฟูมฟักในอ้อมอกของ "เฟอร์กี้" แต่ต้องทำตามหน้าที่เขี่ยอู่ข้าวอู่น้ำเก่าตกรอบไป

แต่ไม่มีสักดวงที่จะเข้าใกล้ เวย์น รูนี่ย์ กับการต้องนั่งดูเพื่อนๆ เล่นนานกว่า 70 นาทีจึงจะได้รับโอกาสลงสนาม

ซ้ำยังเป็นการลงไปในช่วงที่ทีมเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน แถมยังโดนนำอีก 1-2 ต้องการอีก 2 ลูกเพื่อการเข้ารอบต่อไป

กระนั้น ช่วงเวลาไม่ถึง 20 นาที กลับแทบไม่ได้เห็น รูนี่ย์ อยู่ในโฟกัสของการไล่ล่าทวงคืนแม้แต่น้อย

ครั้งสุดท้ายที่ เรอัล บุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน และควักผลการแข่งขันที่ต้องการพร้อมลอยลำเข้าสู่รอบต่อไปในชปล.เกิดขึ้นเมื่อปี 2003

และอีกไม่กี่เดือนถัดมา เดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์ที่มีข่าวระหองระแหงกับ ป๋า ก็เก็บกระเป๋าออกจากชายคาเกรท แมนเชสเตอร์ ไป

ถ้าหาก ดาวยิงวัย 27 กะรัต จะก้าวเดินตามทางของ หนุ่มเบ็คส์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจแม้แต่น้อย

เพราะ เฟอร์กี้ เคยลั่นวาจาว่าจะตายตาหลับก็ต่อเมื่อคว้าแชมป์ยุโรปอีกสัก 2 สมัย เพื่อหยุดเสียงอันน่ารำคาญจากฝั่งลิเวอร์พูล ที่แม้จะเสียตำแหน่งแชมป์ลีกสูงสุดมากสมัยแล้วก็ยังมีเจ้ายุโรปสัญชาติผู้ดีที่ 5 ครั้ง

การลงทุนคว้า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มาร่วมทีม ส่วนหนึ่งย่อมเป็นเพราะการพลาดท่าโดน แมนฯ ซิตี้ เฉือนปลายจมูกในช่วงท้าย แต่ลึกๆ แล้ว กุนซือเลือดสกอต ย่อมต้องการดาวยิงที่จะพาทีมไปถึงฝั่งฝัน

และเป็นอีกครั้งที่ความไว้วางใจในตัว รูนี่ย์ ลดน้อยถอยลง เพราะอดีตดาวรุ่งเอฟเวอร์ตัน ไม่เคยแสดงให้เห็นถึงคำว่า "ยอดเยี่ยม" อีกเลยในเกมนัดสำคัญๆ นับตั้งแต่กระดูกเท้าแตกในศึกยูโร 2004

ยิ่งข่าวลือเกี่ยวกับการดึง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หอกตัวเก่งของ ดอร์ทมุนด์ มาเสริมทัพ บวกกับความทะเยอทะยานของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่พร้อมทุ่ม 40 ล้านปอนด์ เพื่อคุณพ่อของเจ้าหนูไค

ประตูที่เคยปิดตัวลงตอนเจ้าตัวลังเลที่จะต่อสัญญาใหม่เมื่อไม่กี่ปีก่อน จึงเริ่มแง้มออกมาให้เห็นอีกครั้ง

ตอนนี้เหลือแค่เพียงตัวจุดชนวนอีกนิดเท่านั้น

หากจำกันได้ดี ระเบิดลูกสุดท้ายที่ทำให้ ดีบี ต้องโบกมือลาคือการพ่ายให้กับ อาร์เซน่อล คาบ้านในถ้วยเอฟเอ คัพ จนโดนพิษสตั๊ดเหินหาวของ เฟอร์กูสัน เข้าไป

และวันอาทิตย์นี้ พวกเขาก็จะเจอกับ เชลซี (ลอนดอนเหมือน ไอ้ปืนใหญ่) ในรังเช่นกัน

แค่ทฤษฎีสมคบคิดนะเฮิฟ

เรื่องโดย "มะงิ้ง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook