แฟนบอลผู้น่าสงสาร!
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/sp/0/ud/1/6784/s1.jpgแฟนบอลผู้น่าสงสาร!

    แฟนบอลผู้น่าสงสาร!

    2013-02-09T01:39:26+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ฟุตบอล : หากแค่เรื่องสนามยังจัดการไม่ได้ แฟนบอลชาวไทยก็อย่าหวังจะได้เห็นทีมรักประสบความสำเร็จและความเจริญอีกเลย เฮ้ออออออ!

    ราชมังคลากีฬาสถาน เวอร์ชั่นสนามแข่งรถเรซ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ที่ทำให้ทีมชาติไทยเป็นลูกเมียน้อย

    ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคงๆ ไม่มีอะไรที่บั่นทอนจิตใจแฟนบอลชาวไทยมากไปกว่าการที่ทีมรักต้องถูก ทีมชาติคูเวต บุกมาปู้ยี่ปู้ยำ 1-3 ถึงกรุงเทพมหานคร ในรายการเอเชี่ยนคัพ 2015 รอบคัดเลือก เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา

    แต่การที่พลพรรค "ช้างศึก" พ่ายต่อทีม "เศรษฐีน้ำมัน" ในครั้งนี้กลับไม่สร้างความประหลาดใจให้กับคอลูกหนังชาวสยามส่วนใหญ่เลยแม้แต่น้อย เพราะเดิมทีการที่เราแข่งกับทีมจากอาหรับก็มักจะไปไม่เป็น และแพ้แล้วแพ้อีกอยู่ร่ำไป จนแฟนบอลส่วนใหญ่ชินชากันไปแล้ว

    แต่นั่นมันก็คือเรื่องในสนามซึ่งทีมที่พร้อมกว่า เตรียมทีมดีกว่าการจัดการดีกว่า นักเตะเก่งกว่า ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ คูเวต จะชนะไทยไม่ได้ ส่วนเรื่องนอกสนามคิดจนปวดหัวเพราะไม่รู้จะหยิบเรื่องไหนมาเขียน จุดอ่อนของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย มันมีเยอะแยะเต็มไปหมดเรียกได้ว่าหลับตาต่อยยังโดน!


    ภาพก่อนการแข่งขันซึ่งต้องขอขอบคุณ คูเวต ที่อุตส่าห์ยอมเตะกับทีมชาติไทย

    เอาเป็นว่าขอหยิบเรื่องน่าจะมีความเสี่ยงน้อยที่สุดจากการโดนเล่นงานละกัน วันนี้จะมาขอนำเสนอในเรื่องสังเวียนการแข่งขันที่ทำให้แฟนบอลชาวไทยอับอายขายขี้หน้าประชาชีกันทั้งประเทศ

    โดย"ราชมังคลากีฬาสถาน" สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ความจุ 49,722 ที่นั่ง งบประมาณการก่อสร้างสูงถึง 1,255,569,337 บาทกลับกลายเป็นสังเวียนแข่งรถในศึกเรซ ออฟ แชมเปี้ยนส์ แต่อันนั้นเข้าใจได้ว่า สนาม 1 สนาม สามารถแข่งขันกีฬาได้หลายชนิด ขนาดสนามเวมบลี่ย์ ของอังกฤษ ยังใช้จัดคอนเสิร์ตมาแล้ว

    แต่สิ่งที่แตกต่างคือการรับผิดชอบ การประสานงาน การจัดการ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเป็นจุดอ่อนของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ชาติปางก่อน การที่ "ราชมังคลากีฬาสถาน" เกิดอาการ "กาก" ก่อนที่จะมีแมตช์ระดับชาติลงเตะ

     

    หากเตะกันที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม น่าจะมีบรรยากาศที่ดีแบบนี้ แต่เป็นเพราะอะไรกัน!

    แถมยังมีการพ่นสีสเปรย์แบบตบตาคณะกรรมการที่เดินทางมาตรวจสอบสนาม แบบที่เรียกว่าเค้าไม่รู้กันเลย มันสื่อให้เห็นถึงการไม่ทำการบ้านของฝ่ายจัดหรือเปล่า ถามด้วยความไร้เดียงสาในฐานะแฟนบอลตาดำๆ คนนึง และไม่ได้มีเจตนาโค่นล้มใครทั้งนั้น

    ใคร่อยากรู้เฉยๆ ว่า ในเมื่อสนามมันไม่พร้อมแต่ทำไมยังถูลู่ถูกังใช้สนามราชมังคลากีฬาสถานอยู่อีก ทั้งที่ในดินแดนขวานทองมีสนามที่พร้อมกว่าเยอะแยะมากมาย เช่น สนามติณสูลานนท์, สนาม 700 ปีเชียงใหม่, ไอโมบาย สเตเดี้ยม หรือ เอสซีจี สเตเดี้ยม

    แถมสนามเหล่านี้การันตีเรื่องบรรยากาศว่ามันน่าจะดีกว่าสนามแถวหัวหมาก 100 เปอร์เซ็นต์ด้วย ประเด็นการพ่นสีไม่พูดถึงดีกว่า อายเค้าแย่ แต่ที่อยากรู้จริงๆ ก็คือไม่มีใครออกมาชี้แจงอะไรเลยเรื่องสนาม

    แม้กระทั่งผู้จัดการสนามเองยังออกมายอมรับว่าเพิ่งจะรู้ว่าสนามแห่งนี้จะมีการแข่งขันของทีมชาติไทย ก่อนการแข่งขันจริงไม่กี่ชั่วโมง

    นิวไอโมบาย สเตเดี้ยม หนึ่งในสนามที่ทันสมัยที่สุดในเมืองไทย โดนมองข้ามเพราะ ?

    จับใจความคร่าวๆ แค่สงสัยด้วยความไร้เดียงสาว่า การประชาสัมพันธ์ไม่ดีหรืออย่างไร หรือคนดูแลสนามไม่รับรู้ข่าวสารใดๆทั้งสิ้นหรืออย่างไรกัน ทำไมมันถึงมาทำเอาลวกๆ ขอไปทีก่อนแข่งขัน
    แต่ในความเป็นจริงเราๆ ท่านๆ ก็รู้สึกชินชากับเรื่องนี้ไปแล้ว แต่คำถามที่ว่า เพราะอะไรคนดูแลสนามถึงไม่รู้เรื่องการประสานงานอยู่ที่ไหน ซึ่งการที่จะบอกว่าเหตุผลที่ไม่ย้ายสนามเตะเป็นเพราะกำหนดว่าจะใช้ ราชมังคลากีฬาสถาน มาตั้งนานแล้ว

    ซึ่งเหตุผลนี้มันก็จะมัดตัวเอง ซึ่งหากกำหนดตั้งนานแล้ว แล้วเพราะเหตุใดถึงไม่มีการเตรียมการงานนี้ สหพันธ์ลูกหนังเอเชีย หรือ เอเอฟซี เดินทางมาตรวจสนามก่อนแข่งขัน เค้าก็พูดเป็นนัยว่าไม่ผ่าน

    แต่ทาง คูเวต เค้าอาจมั่งใจในศักยภาพของทีมตัวเอง จึงคิดซะว่าหากสนามแย่น่าจะเป็นไทยนี่แหละที่น่าจะมีปัญหามากกว่า เรื่องแค่นี้เรายังอาศัยความเป็นเจ้าบ้านทำให้ได้เปรียบคู่แข่งยังไม่ได้ แต่กลับกลายเป็นว่า คูเวต ที่เดินทางมาประเทศไทยและเก็บตัวก่อนเรากลับไม่เสียเปรียบในการเป็นทีมเยือนเลยแม้แต่นิดเดียว

    แถมผู้ตัดสินยังทะลึ่งไม่มอบลูกโทษให้กับเราอีก แต่เรื่องจุดโทษอันนี้ไม่ขอพูดเพราะมันเกิดขึ้นได้กับเกมฟุตบอลทั่วโลก แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในโลกก็คือการเอาสีไปพ่นสนามนี่แหละ

    ซึ่งหากแค่เรื่องสนามยังจัดการไม่ได้แฟนบอลชาวไทยก็อย่าหวังจะได้เห็นทีมรักประสบความสำเร็จและความเจริญอีกเลย เฮ้ออออออ!

    เรื่องโดย "ต้นหิน"