ระเบิดเวลา"วินนี่"

ฟุตบอล : ไม่รู้เป็นไร "สมาคมลูกหนังไทย" ในยุคสมัย "คุณวรวีร์ มะกูดี" มีเรื่องให้จัดหนักไม่เว้นแต่ละวัน

ก็จะเรื่องอะไรซะอีกล่ะครับ ถ้าไม่ใช่โปรแกรมอุ่นแข้งของ ทีมชาติไทย ที่ท่านผู้นำเคยประกาศหาเสียงไว้ว่าจะทำให้ได้ตามปฏิทินฟีฟ่า ทว่าไม่ทันไรก็ยกเลิกคิวเดินทางไปเตะกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (ยูเออี) ในวันที่ 31 มกราคมนี้ซะแล้ว

ด้วยข้ออ้างแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเพราะทำ "วีซ่า" ไม่ทัน

ตามรายงานข่าว คุณวรวีร์ ให้สัมภาษณ์ว่า "เนื่องจากแผนเดิมที่วางไว้คือเดินทางไปแข่งที่สิงคโปร์ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นฮ่องกง ซึ่งทั้งสองประเทศนั้นเราไม่มีปัญหา แต่สุดท้ายเขาขอให้ไปเตะที่จีนแทน ทำให้เรามีปัญหาด้านเอกสาร ไม่สามารถขอวีซ่าได้ทัน รวมถึงตั๋วเครื่องบินและวันเดินทาง"

ทั้งนี้ คุณวรวีร์ เตรียมแก้ปัญหาด้วยการให้ ทีมชาติไทย ลงเตะกับ ทีมรวมดาราต่างชาติไทยลีก แทน

น่าหัวเราะเป็นภาษาเยอรมันมั้ยล่ะครับ

ขณะที่โปรแกรมกับ จอร์แดน ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านั้น คุณวรวีร์ บอกว่าคงจะยกเลิกเช่นกัน แต่จะเปลี่ยนไปอุ่นเครื่องกับ กาตาร์ แทน ทว่าต้องรอสรุปเรื่องวันแข่งขันอีกที เนื่องจากอาจไปทับซ้อนกับโปรแกรมลีกได้

สรุปง่ายๆ ว่า ยังไม่มีอะไรชัวร์

ผมจึงไม่แปลกใจเลย ทำไม? วินฟรีด เชเฟอร์ ถึงได้หัวเสียและให้สัมภาษณ์ว่ารู้สึกเซ็งกับการวางแผนของสมาคมฟุตบอลไทย

"ผมหวังจะพาทีมชาติไทยทะลุถึงรอบสุดท้ายเอเชียนคัพ แต่มันต้องขึ้นอยู่กับการเตรียมทีมของเราด้วย หากเราพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เราไปถึงได้แน่ แต่หากเราไม่พร้อม และยังทำงานกันแบบมือสมัครเล่น เราก็ไม่มีทางไปถึงจุดหมายอย่างแน่นอน"

ผมว่า "วินนี่" คงเหลืออดกับการทำงานไม่เป็นมืออาชีพของ "สมาคมลูกหนังไทย" ในยุคสมัย "คุณวรวีร์ มะกูดี" จึงกล้าแสดงความคิดเห็นแบบตรงไปตรงมา

ผมไม่รู้ว่า "วินนี่" จะอยู่ทำหน้าที่ได้ต่อไปอีกนานแค่ไหน?

แต่ถ้าให้เดา ผมว่าไม่น่าจะเกินสิ้นปีนี้

เพราะนอกจากระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่ "วินนี่" จุดมันขึ้นมาเองแล้ว

ต้องยอมรับว่า "วินนี่" ยังไม่มีผลงานชิ้นโบว์แดงออกมาโชว์ให้เห็นว่าคุ้มค่ากับเงินที่สมาคมฯลงทุนไป ซึ่งสมาคมฯสามารถนำมาเป็นข้ออ้างได้อย่างชอบธรรม

โดยเฉพาะเป้าหมายต่อไปในศึกเอเชียน คัพ 2015 รอบคัดเลือก หาก "วินนี่" ไม่สามารถทำผลงานได้เข้าตา เริ่มตั้งแต่นัดประเดิมสนามรับมือ คูเวต วันที่ 6 ก.พ.นี้ ต่อด้วย ไปเยือน เลบานอน วันที่ 22 มี.ค.

เพียงแค่ 2 นัดนี้ ก็พอที่จะถูกพิพากษาตัดสินแล้ว

ที่ผ่านมา กุนซือมือดีหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์ วิธ, ปีเตอร์ รีด, ไบรอัน ร็อบสัน ต่างเจอปัญหาเดียวกันนี้ ซึ่งผลลัพธ์ล้วนมีจุดจบไม่ต่างกัน

ไม่กลายเป็น "แพะ" ก็อดรนทนไม่ไหวจนต้องลาออกไปเอง

ผมว่า "วินนี่" ก็คงไม่ต่างกัน

ในขณะที่อีกฟากฝั่งจะยังยืนหยัดต่อไปอย่างไม่สะทกสะท้าน!!!