My Liverpool: ‘หงส์-ผี'อีหรอบเดิม!

ฟุตบอล : ความหวังของ ลิเวอร์พูล ที่จะไล่บีบช่องว่างกับทีมในกลุ่มพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังต้องลุ้นกันหนักหลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ทำให้ตอนนี้โดน สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายที่จะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ทิ้งไปเป็น 10 คะแนนเต็มแล้ว

ลิเวอร์พูล ตั้งเป้าที่จะกลับไปเล่นฟุตบอลรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งให้ได้ในฤดูกาลหน้า หลังจากที่ทำได้แค่คว้าโควตาไปเล่นในถ้วยรองอย่าง ยูโรป้า ลีก มาตลอดนับตั้งแต่หมดยุคของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสเปน

อย่างไรก็ดีผลงานในลีกของพวกเขาฤดูกาลนี้ไม่ค่อยจะสม่ำเสมอมากนักทำให้ทีมยังรั้งอยู่แถวกลางๆตารางคะแนนเพียงเท่านั้น โดยก่อนหน้าที่จะยกทัพมาเยือน โอลด์ แทรฟฟอร์ด พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 8 ห่างจาก ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 4 ในตารางคะแนนอยู่ 8 คะแนน ขณะเดียวกันก็ห่างจาก ยูไนเต็ด คู่ปรับตลอดกาลถึง 21 คะแนน เลยทีเดียว

นอกจากนี้ในส่วนของ มาร์ติน สเคอร์เทล ยังเป็นเกมที่ 200 พอดิบพอดีของดาวเตะวัย 28 ปี รายนี้ในการเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล

เกมครึ่งแรกนั้น ลิเวอร์พูล เป็นรอง ยูไนเต็ด อย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว และพวกเขายังต้องตกเป็นฝ่ายตามหลังด้วยสกอร์ 0-1 อีกด้วยจากฝีเท้าของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวซัลโวของลีกจากฤดูกาลที่แล้ว เกมรุกของ ลิเวอร์พูล วาง หลุยส์ ซัวเรซ ไว้เป็นหัวหอกโดยลำพังแทบจะหาโอกาสเข้าไปก่อกวน หรือ สร้างปัญหาให้กับ ดาวิด เด เกอา นายประตูเจ้าถิ่นได้น้อยมาก

พักครึ่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจแก้เกมด้วยการถอดมิดฟิลด์ตัวรับ ลูคัส เลว่า ออกและส่ง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงมาเติมเกมรุกด้วยความหวังจะเอาประตูคืนกลับมาให้ได้ อย่างไรก็ดีกลับเป็น ยูไนเต็ด ที่มาได้ประตูที่สองหนีห่างออกไปหลังจากครึ่งหลังเล่นไปได้ 9 นาทีโดยเป็นจังหวะฟรีคิกของพวกเขา ปาทริซ เอฟร่า โหม่งไปโดนตัว เนมานย่า วีดิช เข้าประตูไปแบบมีโชคช่วย

สเตอร์ริดจ์ เจ้าของค่าตัว 12 ล้านปอนด์ จุดประกายให้กับ ลิเวอร์พูล เมื่อตีไข่แตกคืนกลับมาทันควัน และเป็นประตูที่สองของเขากับทีมด้วยหลังจากประเดิมประตูแรกไปแล้วในเกมกับ แมนส์ฟิลด์ ทาวน์ ในเอฟเอ คัพ

ลิเวอร์พูล กลับมาเล่นได้ดีขึ้นในครึ่งหลังและทำเกมสู้กับเจ้าถิ่นได้อย่างสนุก แต่พวกเขาไม่สามารถจะเจาะแนวรับเจ้าถิ่นได้ และเมื่อมีโอกาสเปิดให้ในช่วงท้ายจาก แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แต่ก็กลับปล่อยโอกาสทองหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย ทำให้จบเกมเป็น ยูไนเต็ด ที่ย้ำแค้นเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1

หลังเกม ร็อดเจอร์ส ให้สัมภาษณ์ด้วยความรู้สึกเสียดายที่ทีมของเขาน่าจะจบเกมนี้ด้วยการมีคะแนนติดมือ โดยเขารู้สึกภูมิใจที่ได้เห็นความพยายามของลูกทีมที่จะต่อกรกลับมาในครึ่งหลัง นอกจากนี้หลังจากเห็นดาวยิงตัวใหม่อย่าง สเตอร์ริดจ์ ทำประตูได้อีกครั้ง ร็อดเจอร์ส ก็พูดถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า สเตอร์ริดจ์ จะกลายเป็นกองหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

สำหรับประตูที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ที่ สเตอร์ริดจ์ ทำได้นั้นทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นถัดจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่ทำประตูได้ทันทีในเกมแรกที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกต่อจาก หลุยส์ ซัวเรซ ที่เคยทำได้เมื่อเดือน ก.พ. 2011

ความพ่ายแพ้ของ ลิเวอร์พูล ทำให้พวกเขาโดน สเปอร์ส ทิ้งไปเป็น 9 คะแนน แล้วสำหรับพื้นที่สุดท้ายของโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งดูจากจำนวนเกมที่เหลืออีกประมาณ 16-17 เกมและฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ที่ยังไม่ค่อยจะนิ่งเท่าไหร่นัก ก็คงต้องเอาใจช่วยกันหนักๆ ว่า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะพาทีมทะลุเป้าที่วางไว้ได้หรือไม่

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ได้ต่อสัญญากับปราการหลังดาวรุ่งของตัวเอง อังเดร วิสด้อม เรียบร้อยแล้ว โดย วิสด้อม นั้นย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่เมื่อตอนอายุ 14 ปี ในปี 2008 โดยเจ้าตัวเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถพัฒนาฝีเท้าให้รุดหน้าไปไกลกว่าเดิมอีกในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล

ที่ผ่านมา วิสด้อม เคยผ่านการเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนมาแล้วหลายระดับทั้งทีมรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี, 17 ปี, 19 ปี และ 21 ปี

นอกเหนือจากการต่อสัญญากับ วิสด้อม แล้ว ยังมีข่าวออกมาว่า ลิเวอร์พูล กำลังตัดสินใจจะดึงตัว เคนนี่ ดัลกลิช กลับมาทำงานที่แอนฟิลด์อีกครั้งในบทบาททูตของสโมสร อย่างไรก็ดีนับตั้งแต่ที่โดนปลดจากตำแหน่งผู้จัดการทีมเมื่อเดือนพฤษภาคมปีก่อน ทาง ลิเวอร์พูล ก็ยังไม่เคยได้ติดต่อไปยัง ดัลกลิช วัย 61 ปี อีกเลย

และตลอดเวลาที่ผ่านมาหลังพ้นตำแหน่งไปแล้ว ดัลกลิช ก็ได้กลับมาชมเกมที่แอนฟิลด์อีกเพียงแค่ 2 หนเท่านั้นซึ่งไม่ได้เป็นการพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้บริหารสโมสรด้วย

มีการเผยว่า นูริ ซาฮิน กองกลางทีมชาติตุรกีที่ ลิเวอร์พูล ยืมตัวมาจาก เรอัล มาดริด เมื่อตอนต้นฤดูกาลได้อำลาถิ่นแอนฟิลด์เรียบร้อยแล้วหลังหมดสัญญายืมตัว โดยเขาจะย้ายไปเล่นให้กับอดีตทีมเก่า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปจนถึงจบฤดูกาล 2013-14

โดยก่อนหน้าจะย้ายจาก ดอร์ทมุนด์ ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด ในสเปน ซาฮิน เคยประสบความสำเร็จกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกาในปี 2011 และยังเคยได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของศึกบุนเดสลีกามาแล้วด้วยในปี 2010

โดยตลอดช่วงระยะเวลาที่มาเล่นกับ ลิเวอร์พูล นั้น ซาฮิน ได้ลงเล่นให้กับ หงส์แดง ไปทั้งสิ้น 12 เกมโดยทำไปได้ 3 ประตูด้วยกัน

ปิดท้ายด้วยข่าวคราวในตลาดซื้อขายมีข่าวว่า ลิเวอร์พูล ได้ดึงตัว เว็กการ์ด ฟอร์เรน เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเลือดนอร์วีเจี้ยน จากทีมโมลด์ มาลองทดสอบฝีเท้าเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์และหากผลออกมาเป็นที่น่าประทับใจก็มีออพชั่นที่สามารถจะซื้อขายขาดกันได้

ทั้งนี้ วอร์เรน ได้เดินทางมาถึง ลิเวอร์พูล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาและมีโปรแกรมลงทดสอบฝีเท้าในวันอังคาร ซึ่งนอกเหนือจาก ลิเวอร์พูล ที่สนใจในฝีเท้าของปราการหลังรายนี้แล้วยังมีทีมอย่าง เซาแธมป์ตัน และ เรดดิ้ง ที่ตกเป็นข่าวอยู่ด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีการเผยอีกว่า เดวิด มอยส์ กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน คู่ปรับร่วมเมืองก็เคยไปดูฟอร์มของ วอร์เรน มาแล้วหลายหนเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้รุกคืบคว้าตัวดาวเตะที่ โมลด์ ต้องการค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านปอนด์ รายนี้แต่อย่างใด

และหาก วอร์เรน ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล จริงๆ ก็มีโอกาสที่ เซบาสเตียน โคอาเตส กองหลังร่างใหญ่ชาวอุรุกวัย อาจจะถูกปล่อยออกจากถิ่นแอนฟิลด์ให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งาน

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ ลิเวอร์พูล ในลีกนั้นจะเป็นการกลับมาปักหลักในรังแอนฟิลด์รอรับการมาเยือนของ นอริช ซิตี้ โดยการเจอกันนัดแรกเมื่อต้นฤดูกาล หลุยส์ ซัวเรซ เคยสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ในเกมดังกล่าวด้วยการทำแฮตทริกได้สำเร็จ

เรื่องโดย "Mark Suradej"