"วัน แชมเปี้ยนชิพ" และ "โกลบอล ซิติเซ่น" ร่วมมือกันเพื่อขจัดความยากจนของประชากรโลกภายในปี 2573

การร่วมมือกันระหว่างสององค์กรที่ยิ่งใหญ่ วัน แชมเปี้ยนชิพ และ โกลบอล ซิติเซ่น รวมทั้งนักกีฬาของ วัน แชมเปี้ยนชิพ จะร่วมทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับ การศึกษา ความมั่นคงทางอาหาร ความหิวโหยและโภชนาการ รวมถึงปัญหาด้านสุขภาพระดับโลก ความเท่าเทียมกันทางเพศ และความถูกต้องต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วเอเชีย

วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Championship) บริษัทผู้ผลิตสื่อรายการกีฬาที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกของเอเชีย ได้ประกาศร่วมเป็นพันธมิตรกับ โกลบอล ซิตี้เซ่น องค์กรที่มีเป้าหมายในการยุติความยากจนทั่วโลกให้ได้ภายในปี 2573

การร่วมมือครั้งนี้เริ่มขึ้นในงานแข่งขัน วัน แชมเปี้ยนชิพ ที่กำลังจะจัดขึ้นที่มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในวันที่ 26 มกราคม ซึ่งจะทำให้แฟนๆศิลปะการป้องกันตัวกว่าล้านคนได้มีโอกาสร่วมกันส่งเสริมและหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การศึกษา ความมั่นคงทางอาหาร ความหิวโหยและโภชนาการ รวมทั้งปัญหาด้านสุขภาพของโลก และความเท่าเทียมทางเพศ โดย โกลบอล ซิตี้เซ่น และ วัน แชมเปี้ยนชิพ จะร่วมมือกันจัดกิจกรรมนี้ตลอดอีเว้นท์การแข่งขัน 24 ครั้งทั่วเอเชียในปี 2561 นี้

ชาตรี ศิษย์ยอดธง ประธานและซีอีโอ ของ วัน แชมเปี้ยนชิพ ได้กล่าวว่า "เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะประกาศว่า วัน แชมเปี้ยนชิพ ได้เป็นพันธมิตรกับ โกลบอล ซิตี้เซ่น ซึ่งเป็นองค์กร เอ็นจีโอ ที่มีเป้าหมายในการยุติความยากจนทั่วโลกภายในปี 2573 วัน แชมเปี้ยนชิพ เองก็มีเป้าหมายเพื่อที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนทั่วโลกในการที่จะเข้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหาอันยิ่งใหญ่นี้ นักกีฬาของ วัน แชมเปี้ยนชิพ หลายคนที่ได้ใช้ความเพียรในการฝึกศิลปะการป้องกันตัวเพื่อก้าวข้ามความยากจน และนักกีฬาเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหลายล้านคนทั่วโลกผ่านเส้นทางการดำเนินชีวิต ของพวกเขา ทั้งนี้ การร่วมมือกันระหว่าง วัน แชมเปี้ยนชิพ และ โกลบอล ซิติเซ่น ตลอดการแข่งขัน 24 ครั้งในปี 2561 ก็มุ่งเป้าที่จะสร้างความเคลื่อนไหวที่ดี ให้กับสังคมของเรา"

เว่ย ซู ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ โกลบอล ซิติเซ่น ได้กล่าวว่า "เรามีความตื่นเต้น ที่จะได้ร่วมทำงานกับ วัน แชมเปี้ยนชิพ ในการนำ โกลบอล ซิติเซ่น มาสู่เอเชีย วัน แชมเปี้ยนชิพ เป็นช่องทางที่เข้าถึงคนหนุ่มสาวกว่าล้านคนทั่วภูมิภาคเอเชีย และเราจะร่วมมือกันเพื่อสื่อสารถึงพวกเค้าเกี่ยวกับปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก โดยตั้งแต่เราเริ่มโครงการ โกลบอล ซิติเซ่น ในปี 2555 มีกิจกรรมมากกว่า 13 ล้านครั้งได้ถูกจัดขึ้น และเราตื่นเต้นที่มันจะเพิ่มจำนวนขึ้น และส่งผลโดยตรงต่อโลกได้มากขึ้นผ่านพันธมิตรของเรา"

การดำเนินการครั้งแรกที่แฟนๆของ วัน จะสามารถทำได้จะเน้นไปที่การศึกษาทั่วโลก โดยแฟนๆจะสามารถเรียกร้องจากประเทศผู้ให้บริจาคเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินเดีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม ความร่วมมือเพื่อการศึกษา (Global Partnership for Education's หรือ GPE) ในเมืองดาการ์ ประเทศเซเนกัล ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 และให้ความสำคัญกับ GPE เพื่อสนับสนุนการศึกษาที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

ปัจจุบันเด็กๆ 264 ล้านคนทั่วโลกกำลังขาดการศึกษา กว่าครึ่งหนึ่งเป็นเด็กหญิงและกว่า 75 ล้านคนได้ขาดการศึกษาโดยมีผลจากความขัดแย้งหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในการประชุม GPE นั้นจะได้สามารถหาเงินทุนที่จำเป็นได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถสนับสนุนคุณภาพการศึกษาที่ครบถ้วนต่อไปสำหรับเด็กๆนับร้อยล้านคนทั่วโลก

สำนักงานใหญ่ของ โกลบอล ซิติเซ่น ตั้งอยู่ที่นิวยอร์ค และยังมีสาขาตามแต่ประเทศต่างๆเช่น แคนาดา ออสเตรเลีย เยอรมนี และ อังกฤษ โดย โกลบอล ซิติเซ่น ได้ก่อตั้งในปี 2555 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อการสร้างช่องทางที่ ผู้คนจะรับรู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ และช่วยกันทำกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา และร่วมกันที่จะยุติปัญหาความยากจนให้ได้ภายในปี 2573 นับตั้งแต่นั้นมา ผู้คนนับล้านทั่วโลกต่างก็ได้ร่วมทำกิจกรรมกว่าสิบล้านครั้ง โดยมีทั้งการส่งอีเมล์ ทวีต ร่วมลงนาม และ รวมถึงโทรศัพท์หาผู้นำของประเทศทั่วโลก เพื่อเป้าหมายในการหยุดความยากจนในปี 2573 ในปัจจุบัน กิจกรรมของ โกลบอล ซิติเซ่น ผ่านพันธมิตรต่างๆ ได้ทำให้เกิดโครงการมากกว่า 130 โครงการ ที่ร่วมผลักดันโดยผู้นำจากทั่วโลก ส่งผลให้เกิดยอดบริจาคมากกว่า สามหมื่นห้าพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่งผลต่อความเป็นอยู่ของคนกว่าหนึ่งพันสามร้อยล้านคนทั่วโลก
 
วัน แชมเปี้ยนชิพ (ONE Championship) บริษัทผู้ผลิตสื่อรายการกีฬาที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกของเอเชีย ที่มีจุดยืนในการเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรมศิลปะการป้องกันตัวของเอเชีย โดย วัน แชมเปี้ยนชิพ เข้าถึงกลุ่มแฟนคลับหลายล้านคนทั่วเอเชียด้วยการสร้างวีรบุรุษของชาติ ผ่านการเล่าเรื่องราวของความพากเพียร และชัยชนะของพวกเขาเพื่อที่สร้างแรงบันดาลใจแก่คนทั่วทวีปเอเชีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของศิลปะการป้องกันตัวมากว่า 5,000 ปี