เช็กบิลสิงโตคำราม...???

เช็กบิลสิงโตคำราม...???

เช็กบิลสิงโตคำราม...???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : เช็กผลงานทีม "สิงโตคำราม" อังกฤษ ในเกมอุ่นเครื่องกับ "ไวกิ้ง" สวีเดน

สตีเว่น เจอร์ราร์ด...

ฟอร์มยังคงโอเคเหมือนเดิม กับการลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ นัดที่ 100 เจอร์ราร์ด เล่นอยู่ในทีมชาติอังกฤษชุดที่เรียกกันว่าเป็นยุคทองที่สามารถลุ้นความสำเร็จได้ใกล้เคียงถ้าดูกันที่ตัวผู้เล่น แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งจนหายหน้าหายตากันไปแทบจะหมดแล้ว

จอห์น เทอร์รี่ ปิดฉากทีมชาติเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด โอกาสแทบจะไม่เหลือให้พิจารณา แค่ลุ้นลงเล่นให้กับเชลซีก็ยากเต็มที

ในยามนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จึงเป็นตัวเก๋าเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ เป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เป็นของคนรุ่นใหม่ 100 นัดที่ได้รับเกียรติจึงไม่ใช่เพราะการเป็นลูกรักของกุนซือหรือเพราะโชคช่วย แต่ได้มาเพราะฝีเท้า เพราะมาตรฐานของตัวเอง

ลองของใหม่...

รอย ฮอดจ์สัน กุนซือสิงโตคำราม ลองนักเตะใหม่หลายคน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเกมอุ่นเครื่องที่จะให้โอกาสนักเตะหน้าใหม่ๆ มีโอกาสที่จะลองแผนการเล่น วิธีการต่างๆ ไม่มีแมตช์แบบนี้ให้ลองกันบ้างก็ไม่รู้ว่าจะไปหาโอกาสจากที่ไหน แม้ว่าไม่เป็นที่พอใจของกุนซือต้นสังกัดของนักเตะแต่ละคน โดยเฉพาะ อาร์แซน เวนเกอร์

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง...

ตัวริมเส้นจากลิเวอร์พูลที่ใครต่อใครประทับใจกับฟอร์มการเล่นที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฤดูกาลนี้ หลายคนบอกว่าอย่าเร่งพวกดาวรุ่งจนเกินไป มีปัญหาเมื่อไหร่รับมือไม่ไหวเมื่อนั้น

ทว่ากับแมตช์อุ่นเครื่องที่มักจะเล่นแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่ใส่กันแบบเต็มร้อย เพราะฉะนั้นถ้ารอย ฮอดจ์สัน ต้องการลองของใหม่ก็เหมาะอย่างยิ่ง

สเตอร์ลิ่ง ไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง จังหวะเท้า ความเร็วและความมั่นใจ เป็นสเต็ปเล็กๆที่ก้าวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ความแข็งแกร่งพอใช้ได้อยู่ แต่ถ้ามีมากกว่านี้ก็จะเป็นเรื่องดีมากขึ้น

เชื่อกันว่าในเวลาอันสั้น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จะแซงหน้า 2 แข้งจากทีมปืนใหญ่ คือธีโอ วัลค็อตต์ กีบ อเล็กซ์ อ๊อกเหลด แชมเบอร์เลน ขึ้นมาเป็นหวานใจของ รอย ฮอดจ์สัน

ลีออน ออสแมน...

มิดฟิลด์จากกูดิสัน ปาร์ค สามารถที่จะพออกพอใจในผลงานของตัวเองกับการประเดิมทีมชาติอังกฤษ เกมในระดับทีมชาติ การครองบอล การเก็บบอลให้ได้เป็นเรื่องที่จะเป็นอย่างยิ่ง ออสแมนทำได้ในระดับที่เรียกว่านิ่งพอตัว

มีส่วนร่วมกับเกม เล่นด้วยความมั่นใจ นั่นทำให้ไม่เกร็งและได้ผลงานอย่างที่คาดหวังเอาไว้ หวังว่าไม่ได้มาแล้วจากไปด้วยความรวดเร็ว

สตีเว่น คัลเกอร์...

สตีเว่น คัลเกอร์ เป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่คาดหวังกันว่าจะเข้ามามีบทบาทในทีมชาติอังกฤษในอนาคต หลายคนเทใจให้บอกว่านี่คือคนที่น่าจับตามองในฤดูกาลนี้

มีโอกาสออกสตาร์ต มีสกอร์เป็นของแถมอีกด้วยกับประตูที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษขึ้นนำ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถือว่าเป็นโชคร้ายของเซ็นเตอร์แบ็กจากสเปอร์สก็คือคู่แข่งที่ต้องรับมือคือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

คัลเกอร์ ต้องเรียนรู้อีกเยอะกับการรับมือนักเตะระดับนี้ รวมทั้งเรียนรู้จากแมตช์พ่ายเรือใบที่โดน กุน อาเกโร่ ส่องประตู นักเตะคุณภาพต้องรับมือด้วยคุณภาพเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คัลเกอร์ เป็นนักเตะที่พัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว นั่นคงเป็นประโยชน์จากการได้ลงเล่นต่อเนื่องจากสัญญายืมตัวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

คัลเกอร์ ไปเล่นให้สวอนซีด้วยสัญญายืมตัว ในสายตาของสเปอร์สนาทีนั้นคัลเกอร์ยังคงเป็นเด็ก แต่ฤดูกาลเดียวกลับมาเป็นแมนเต็มตัวพร้อมกับการพัฒนาที่รวดเร็ว

แจ๊ค วิลเชียร์...

ไม่มีอะไรมากมาย เป็นตัวสำรองในนัดนี้ หลังจากที่ อาร์แซน เวนเกอร์ บ่นไว้เยอะและไม่ต้องการให้รอย ฮอดจ์สัน เร่งเรียกตัว แจ๊ค วิลเชียร์ ติดทีมชาติอีกครั้ง

ไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เรื่องของผลงานต้องไปคาดหวังในวันข้างหน้า นาทีนี้ยังไม่ใช่เวลาของ วิลเชียร์ แต่มีโอกาสที่อีก 2-3 เดือนข้างหน้าเขาจะกลับมาเป็นตัวเลือกแรกของ รอย ฮอดจ์สัน และเป็นตัวสเลือกแรกของ อาร์แซน เวนเกอร์ เช่นกัน ถึงวันนี้นค่อยห่วงเรื่องของฟอร์มการเล่น

โจ ฮาร์ท...

เป็นมือหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นมือหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ และสามารถที่จะโชว์ผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ทว่านั่นอาจจะทำให้ โจ ฮาร์ท ขาดแรงกระตุ้นไปบ้าง

ประตูที่ 3 และ 4 ที่สิงโตคำรามโดน ฮาร์ท คงต้องเก็บเอามาพิจารณา เหตุการณ์แบบนี้พร้อมที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา คงต้องกลับไปซุ่มซ้อมพร้อมกับยอมรับว่าไม่มีอะไรแน่นอน

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แสดงให้เห็นแล้วว่า ถ้าต้องการอยู่บนมาตรฐานสูงสุดแบบยาวๆ ต้องพร้อมและกระตือรือร้นขนาดไหน

ซลาตัน อิบราฮิโมวิช...

เรื่องราวของทีมชาติอังกฤษ ทั้งเรื่องของการลงเล่นนัดที่ 100 ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด การปล่อยนักเตะหลายคนได้ประเดิมทีมชาติพร้อมกันเป็นนัดแรกของ รอย ฮอดจ์สัน ก่อนเกมมีการร่ายยาวกันมาเรื่อยๆ และคาดหวังว่าหลังเกมคงมีการพุจากันอีกยกใหญ่

ทว่าหลากหลายเรื่องราวถูกบดบังไปด้วยฟอร์มการเหมายิงทั้ง 4 ประตู ให้กับทีมชาติสวีเดน ของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช จริงๆแล้วแมตช์แบบนี้ อิบราฮิโมวิช ไม่ต้องทำอะไรมากก็ได้ แค่เดินไปเดินมาในสนาม ทว่าเขาไม่ปล่อยผ่าน

แต่ละสกอร์ที่ทำได้ บ่งบอกชัดเจนศูนย์หน้าระดับโลกต้องเล่นแบบไหน ต้องยิงแบบไหนถึงจะไม่ธรรมดา หานักเตะสัญชาติอังกฤษที่เล่นได้แบบนี้ไม่มีเลย

ที่สำคัญประตูปิดท้าย ใครที่คิดจะลอกเลียนแบบคงต้องระมัดระวังกันหน่อย ดีไม่ดีหลังหักเอาได้ง่ายๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวหอกที่ชื่อ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ก็แล้วกัน

เรื่องโดย "ดามัน"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook