วิเคราะห์บอล (3) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - สเปอร์ส (6)
วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก
(3) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - สเปอร์ส (6)
เวลา: 20.30 น.
สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน: ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนฯ ซิตี้
6 พ.ย. 55 เสมอ ไอแอ็กซ์ 2-2 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
3 พ.ย. 55 เสมอ เวสต์แฮม 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
27 ต.ค. 55 ชนะ สวอนซี 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
24 ต.ค. 55 แพ้ ไอแอ๊กซ์ 1-3 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
20 ต.ค. 55 ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สเปอร์ส
8 พ.ย. 55 ชนะ มาริบอร์ 3-1 (เหย้า) ยูโรป้าลีก
3 พ.ย. 55 แพ้ วีแกน 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
31 ต.ค. 55 แพ้ นอริช 1-2 (เยือน) ลีกคัพ
28 ต.ค. 55 ชนะ เซาแธมป์ตัน 2-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
25 ต.ค. 55 เสมอ มาริบอร์ 1-1 (เยือน) ยูโรป้าลีก
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
22 ม.ค. 55 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 3-2 สเปอร์ส
28 ส.ค. 54 พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส 1-5 แมนฯ ซิตี้
10 พ.ค. 54 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 1 - 0 สเปอร์ส
14 ส.ค. 53 พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส 0 - 0 แมนฯ ซิตี้
5 พ.ค. 53 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 0 - 1 สเปอร์ส
16 ธ.ค. 52 พรีเมียร์ลีก สเปอร์ส 3 - 0 แมนฯ ซิตี้
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ซิตี้
ดาวิด ซิลบา ปีกตัวเก่ง น่าจะคัมแบ๊กกลัมาลงสนามได้ในเกมนี้ หลังพักไปหลายนัดเพราะเจ็บแฮมสตริงมาจากการไปเล่นให้สเปน แต่เจมส์ มิดฟิลด์และแจ๊ค ร็อดเวลล์ สองมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บแบบเดียวกันต่อไป
ส่วนโจลีออน เลสค็อตต์ เซ็นเตอร์แบ๊กทีมชาติอังกฤษ และไมคอน แบ๊กขวาตัวเก๋าชาวบราซิล ต้องรอลุ้นว่าจะสลัดปัญหาที่หลังและเท้าทันกลับมามีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ด้วยหรือไม่ แต่ไมกาห์ ริชาร์ดส์ อีกหนึ่งตัวเลือกในตำแหน่งแบ๊กขวา ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่าต่อไป
ขณะที่ฆาบี้ การ์เซีย มิดฟิลด์ชาวสเปน ฟิตกลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมลีกนัดที่แล้ว และลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกในนัดถัดมา แม้จะโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง แต่น่าจะเป็นเหตุผลด้านแท็คติกมากกว่า ทำให้เขาน่าจะพร้อมลงเล่นนัดนี้อีกครั้ง
ผู้เล่นบาดเจ็บ: เจมส์ มิลเนอร์, แจ๊ค ร็อดเวลล์ (แฮมสตริง), ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (เข่า)
ความพร้อม-สภาพทีม
สเปอร์ส
ซานโดร มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล น่าจะกลับมาลงสนามได้ตามเดิม หลังโดนเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ต้นเกมที่แล้วเพราะเจ็บน่อง และต้องพักไปในเกมยูโรป้าลีกเมื่อกลางสัปดาห์ แต่ก็คืนความฟิตกลับมาแล้ว
ขณะที่เจ๊ค ลิเวอร์มอร์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งอีกคน ซึ่งเจ็บข้อเท้าไปในเกมลีกคัพ ก็น่าจะกลับมาเป็นตัวเลือกได้เช่นกัน แต่ต้องรอลุ้นว่าจะถูกใช้งานหรือไม่
มุสซา เดมเบเล่ มิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยียม ยังต้องพักต่ออีกหนึ่งสัปดาห์จากปัญหาเจ็บสะโพก ส่วนสามตัวหลักที่เจ็บอยู่อย่างสก๊อตต์ ปาร์คเกอร์, ยูเนส กาบูล และเบอนัวต์ อัสซู-เอก๊อตโต้ยังไม่ฟิตเช่นเดิม
เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ อดีตหัวหอกแมนฯ ซิตี้ ฟิตกลับมาลงสนามได้แล้วในเกมยุโรปนัดล่าสุด หลังจากพักไปนาน แต่ยังต้องรอลุ้นว่าจะได้ลงเล่นในแนวรุกคู่กับเจอร์เมน เดโฟต่อหรือไม่ หรือคลินท์ เดมพ์ซี่ย์จะกลับมาเล่นเป็นหน้าต่ำแทนในระบบศูนย์หน้าตัวเดียวเหมือนกับที่ใช้มาเป็นส่วนใหญ่ในฤดูกาลนี้
ผู้เล่นบาดเจ็บ: มุสซา เดมเบเล่ (สะโพก), เบอนัวต์ อัสซู-เอก๊อตโต้, ยูเนส กาบูล (เข่า), สก๊อตต์ ปาร์คเกอร์ (เอ็นร้อยหวาย)
วิเคราะห์รูปเกม
แมนฯ ซิตี้ต้องกลับมาเน้นเต็มที่ในการป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังความหวังในแชมเปี้ยนส์ลีกริบหรี่จนเกือบมอดดับไปแล้ว เกมนี้แม้จะเจอกับทีมแกร่งอย่างสเปอร์ส แต่ก็เป็นการเล่นในรังเอติฮัด สเตเดี้ยม เรือใบสีฟ้าน่าจะยังครองบอลทำเกมบุกได้เหนือกว่า แถมได้พักมากกว่าถึงสองวันน่าจะทำให้ได้เปรียบเรื่องความสดด้วย ไก่เดือยทองที่ฟอร์มเริ่มมีเป๋ๆ ให้เห็นในนัดหลังๆ คงต้องเน้นเล่นให้แน่นอนในเกมนี้ โดยหวังพึ่งตัวทีเด็ดให้แผงฤทธิ์ได้ แต่ดูแล้วเจ้าถิ่นยังเด็ดกว่าและน่าจะคว้าชัยเรียกความมั่นใจกลับมาได้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1): โจ ฮาร์ท; ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซองต์ กอมปานี, มาติย่า เนสตาซิช, กาแอล กลิชี่; ฆาบี้ การ์เซีย, แกเร็ธ แบร์รี่; ซาเมียร์ นาสรี่, ยายา ตูเร่, คาร์ลอส เตเบซ; เอดิน เซโก้
ผู้จัดการทีม: โรแบร์โต้ มันชินี่
สเปอร์ส (4-2-3-1): แบรด ฟรีเดล; ไคล์ วอล์คเกอร์, สตีเว่น คอลเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, แยน แฟร์ท็องเกน; ซานโดร, ทอม ฮัดเดิลสตัน; อารอน เลนน่อน, คลินท์ เดมพ์ซี่ย์, แกเร็ธ เบล; เจอร์เมน เดโฟ
ผู้จัดการทีม: อังเดร วิลลาส โบอาส
ฮอตสกอร์: แมนฯ ซิตี้ชนะ 2-1
เกร็ดย่อย
*ซาเมียร์ นาสรี่ทำ 3 ประตูในการพบกับสเปอร์ส 4 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก และทำไป 3 แอสซิทในหนึ่งนัดที่เขาไม่ได้เป็นคนยิง
*สเปอร์สบุกมาชนะเกมพรีเมียร์ลีกที่บ้านแมนฯ ซิตี้ได้ถึง 9 ครั้ง เป็นรองเพียงเชลซีและอาร์เซนอลที่ทำได้ทีมละ 10 ครั้ง
*แมนฯ ซิตี้ชนะรวดใน 3 นัดหลังสุดที่พบกับสเปอร์สในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ชนะแค่ครั้งเดียวในการพบกัน 15 ครั้งก่อนหน้านั้น โดยแพ้ถึง 11 ครั้ง
*48% ของประตูที่เอดิน เซโก้ทำให้แมนฯ ซิตี้ได้ในพรีเมียร์ลีกมาจากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง (10 จาก 21 ลูก) และเขาเป็นเพียงหนึ่งใน 16 นักเตะที่ทำประตูได้ 10 ลูกขึ้นไปในพรีเมียร์ลีกจากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง
*เจอร์เมน เดโฟเป็นเจ้าของสถิติทำประตูได้สูงสุดในพรีเมียร์ลีกจากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง (20 ลูก)
*แมนฯ ซิตี้ไม่แพ้เกมพรีเมียร์ลีกในบ้านติดต่อกันมาแล้ว 34 นัด เป็นรองเพียงเชลซีและแมนฯ ยูไนเต็ดเท่านั้น
*สเปอร์สชนะเกมพรีเมียร์ลีกนอกบ้าน 3 นัดหลัง แต่พวกเขาไม่เคยชนะนอกบ้าน 4 เกมติดเลยนับตั้งแต่เมษายน 1989
*สเปอร์สเป็นทีมที่ใช้นักเตะมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (25 คน)
*แมนฯ ซิตี้มีอัตราส่วนการเสียประตูจากลูกตั้งเตะสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (56%)