"เป๊ป กวาร์ดิโอล่า" ยอดคนยอดโค้ช

"เป๊ป กวาร์ดิโอล่า" ยอดคนยอดโค้ช

"เป๊ป กวาร์ดิโอล่า" ยอดคนยอดโค้ช
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"Best ever!"… "Unstoppable!"... นานาคำชมที่เหล่าผู้สื่อข่าวไม่ว่าไทยหรือเทศยกขึ้นมาสดุดีฟอร์มการเล่นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ออกสตาร์ทฤดูกาลพรีเมียร์ลีกอย่างยิ่งใหญ่ สร้างสถิติชนะ 16 เกมติด แถมปราบยักษ์ใหญ่บิ๊ก 6 ด้วยกันราบเรียบครบทุกทีม

นับว่ายอดกุนซือผู้นี้ได้แปรความผิดหวังและความกดดันจากฤดูกาลที่แล้ว ให้กลายเป็นพลังขับดันอันน่ากลัว การจบฤดูกาลมือเปล่าสำหรับกุนซือผู้นี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานตัวเขาเอง หรือจากทีมผู้บริหารถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม

ในอดีตยอดโค้ชผู้นี้คุมบาร์เซโลน่าชุดใหญ่ 4 ฤดูกาล คว้าแชมป์ลาลีกาไป 3 สมัย และไม่เคยมือเปล่าแม้แต่ซีซั่นเดียว พอย้ายไปโค้ช "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เขาก็โชว์ฟอร์มกวาดถาดแชมป์บุนเดสลีกาไปครองอีก 3 ปีรวด

 895667968

ปีนี้ "เป๊ป" ยกมาตรฐานของ "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นมาอย่างน่ากลัว ด้วยแทคติคการเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นการ "รุกทั้งทีม รับทั้งทีม" ใครที่เคยว่าตัวเขาสนใจแต่เกมรุกนั้น "เป๊ป" ยืนยันแล้วว่า "ไม่จริง" เขาใช้เวลาฝึกฝนลูกทีมในสนามซ้อมเกี่ยวกับการตั้งรับค่อนข้างมาก มากกว่าเกมบุกเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นการป้องกันแบบ "ตั้งรับตั้งแต่ในแดนคู่ต่อสู้" หรือ "การเพรสซิ่ง" นั่นเอง

ถ้าดูจากสถิติซีซั่นนี้ 18 นัด "เรือใบสีฟ้า" เสียเพียง 12 ลูก น้อยที่สุดเท่ากับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เบิร์นลี่ย์ นั่นเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่า "เป๊ป" ไม่ได้ทอดทิ้งเกมป้องกันของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

นอกเหนือจากนั้น หากใครคิดจะกล่าวหาว่าเขาเลือกคุมแต่ทีมใหญ่ เอาแต่ทีมที่มีน้ำเลี้ยงดี ผมมองในทางกลับกันว่า ยิ่งคุมทีมใหญ่ความกดดันยิ่งมาก เวลายิ่งน้อย เป้าหมายยิ่งต้องชัดเจน ที่ผ่านมาก็มีตัวอย่างโค้ชเก่งๆที่พอได้โอกาสคุมทีมใหญ่แล้วไปไม่รอดให้เห็นนักต่อนัก

 881996632

ถ้าให้มองจุดเด่นของ "เป๊ป" นอกเหนือจากความเข้าใจแทคติคฟุตบอลสมัยใหม่อย่างทะลุถึงกึ๋นแล้ว กุนซือผู้นี้ไม่เคยประนีประนอมกับนักเตะที่เขาไม่แน่ใจ เปลี่ยนเป็นเปลี่ยน ไม่เคยยื้อหรือรออะไร

ถึงเวลานี้ "เรือใบสีฟ้า" ของเขาเริ่มกางใบออกสู้ลมทะเลอย่างคึกคะนอง แม้จะยัง "พีค" ไม่ถึงขั้น บาร์ซ่า ยุคที่เขาเคยคุม แต่ผู้เล่นของแมนฯ ซิตี้ ชุดนี้อายุยังน้อยกันทั้งนั้น ยังมีเวลาพัฒนาขึ้นไปได้อีก แถมยังมีผู้เล่นที่มีความรวดเร็วความดุดันอย่าง เควิน เดอ บรอยน์, เลอรอย ซาเน่, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ กาเบรียล เชซุส แตกต่างจากบาร์เซโลน่าชุดนั้นด้วย

ตัวเป๊ปเองอายุอานามก็เพิ่งจะ 46 หากเถลิงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ในเวลาอีกไม่นาน ยามที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ เริ่มโรยราจริงๆ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะมีโอกาสได้ขึ้นไปท้าทายบัลลังก์เจ้ายุโรปอย่างเต็มตัวด้วยฝีมือยอดโค้ชผู้นี้

เมื่อถึงวันนั้น จักรวรรดิเป๊ปจะยิ่งรุ่งเรืองอย่างแท้จริง!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook