1. ไม่มีใครทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ครึ่งแรกฤดูกาลนี้มากกว่า หงส์แดง
โดยในครึ่งแรก หงส์แดง บุกไปนำ บอร์นมัธ อยู่ 3-0 ด้วยกัน ทำให้พวกเขามีสถิติเทียบเคียงกับ เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำประตูในครึ่งแรกกับเกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ มากที่สุด
2. เป็นทีมแรกที่ชนะนอกบ้านติดต่อกันด้วยประตูเยอะที่สุด
หงส์แดง ทำสถิติชนะในเกมนอกบ้านติดต่อกันสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก (4 เกม) ด้วยการทำประตูอย่างน้อย 3 ลูก
บอร์นมัธ 0-4
ไบรท์ตัน 1-5
สโต็ค 0-3
เวสต์แฮม 1-4
3. เกมรับวันนี้เล่นได้สุดยอดกล้วยทอดจริงๆ !
หากใครได้ดูเกมเมื่อคืนก็ต้องคิดเหมือนกันล่ะว่า 'นี่หงส์แดงจริงใช่ไหม' เรียกว่าเกมนี้พวกเขาถอดรูปกองหลังสุดย่ำแย่อันเลื่องลือออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แบ็คโฟร์มีการเล่นเกมรับที่มีวินัยอย่างมาก อีกทั้งแผงมิดฟิดล์ยังช่วยกันตั้งรับได้เป็นอย่างดีด้วย
คลาวาน จัดการกับลูกกลางอากาศได้เยี่ยม บวกกับ ลอฟเรน ที่ดูจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลังทำประตูได้ แม้ว่าจะมีลูกที่ เดโฟ หลุดไปเกือบทำประตูได้ก็ตาม แต่นั่นก็เป็นแค่จังหวะเดียวจะจะ ในเกมของเจ้าบ้าน เกมนี้ต้องขอบคุณผู้ปิดทองหลังพระในเกมรับทั้งหมดด้วยเหมือนกัน
4. เกมอย่างนี้แหละที่แฟนบอลอยากเห็น
ไม่ใช่แค่ 3 แต้มเท่านั้นที่ แฟนหงส์ แดงต้องการ แต่เป็นการจัดการคู่ต่อสู้อย่างเด็ดขาด ซึ่งกลายเกมที่ผ่าน ๆ มาจะเห็นได้ว่าหาก ลิเวอร์พูล มีประตูนำคู่แข่ง 45 นาทีแรก ในครึ่งหลังนั้นพวกเขาจะเล่นตั้งรับเพื่อเน้นความชัวร์ในการคว้าชัยชนะทันที
แต่มาในเกมนี้ คล็อปป์ สั่งผู้เล่นในสนามทุกคนให้เดินหน้ากดดันเจ้าบ้านด้วยการเล่นเพรสซิ่งเกือบตลอดทั้งเกม ทำให้ บอร์นมัธ ไม่ได้มีโอกาสปั้นเกมมากนักทำให้แผงหลังไม่ต้องกดดันอะไรมากมายและยังมีส่วนได้ประตูที่ 4 ในครึ่งหลัง อีกด้วย
แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าแผนการเล่นแบบนี้ มันใช้ได้เฉพาะบางทีมเท่านั้น !
5. เฮนโด้ ดูมีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น
เฮนเดอร์สัน มีส่วนร่วมกับเกมทั้งรุกและรับมากขึ้นกว่าเดิม ดูเหมือนเขาจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะไม่มีชื่อผู้ทำประตูหรือแอสซิสต์ แต่เขาก็เป็นคนเก็บบอลกลางสนาม ผ่านบอลไปมา วิ่งทำทางและพยายามผ่านบอลแบบมีลุ้นสร้างโอกาสทำประตูมากขึ้น
ในส่วนของเกมรับเองจะเห็นได้หลาย ๆ ครั้งว่ากัปตัน หงส์แดง นี้จะคอยลงไปซัพพอร์ตแบ็คโฟร์อยู่ตลอดเวลาด้วย ฟอร์มเก่งของเขาได้กลับมาแล้วล่ะ
6. เดยัน ลอฟเรน ทำประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
หลังจากเกมเมื่อคืนในครึ่งแรก เดยัน ลอฟเรน มีชื่อผู้ทำประตูให้ หงส์แดง ในลูกที่ 2 ด้วยเหมือนกัน ซึ่งถือว่าเป็นประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ของเขาเลย
7. โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน มีส่วนร่วมกับประตูเยอะเหมือนกันนะเนี่ย !!!
เกมกับ บอร์นมัธ เขามีชื่อในการแอสซิสต์และยิงประตูอย่างละ 1 ครั้ง โดย ฟีโน่ ของ หงส์แดง มีส่วนร่วมกับประตูทั้งในลีกและบนเวทียุโรปในฤดูกาลนี้ไป 20 ลูก จากการลงสนามทั้งหมด 23 เกม (13 ประตู, 7 แอสซิสต์)
ไม่ได้ดีแค่การยิงประตูอย่างเดียวนะ !!!
8. คูตี้ ไม่พูดถึงไม่ได้
แม้ว่าช่วงต้นเกมของเมื่อคืน คูตี้ จะยิงฟรีคิกไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย แต่เขาก็พยายามอย่างหนักเพื่อทำประตูให้ทีมเพิ่ม โดยก็ได้มา 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์ ด้วยกัน โดยมีส่วนร่วมถึง 17 ประตูจากการลงสนามเป็นตัวจริง 13 เกม ด้วยกัน (10 ประตู, 7 แอสซิสต์)
9. ซาลาห์ ยิงอีกแล้วและทำสถิติใหม่ด้วยเลข 20ตอนนี้เขานำเป็นดาวซัลโวของทีมด้วยจำนวนประตู 20 ลูกในทุก ๆ รายการเข้าไปแล้ว ซึ่งเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรกที่ทำประตูทั้งในลีกและบอลถ้วยรายการอื่น ๆ ครบ 20 ลูกในหนึ่งฤดูกาลนับตั้งแต่ หลุยซ์ ซัวเรซ (31 ลูก) และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (24 ลูก) เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 2013/14 และยังเป็นนักเตะคนแรกที่ทำประตูถึง 20 ลูกก่อนวันคริสต์มาสอีก
10. กลับคืนสู่ท็อปโฟร์แล้วนะ !
หลังเกมที่โชว์ฟอร์มร้อนแรงเมื่อคืน หงส์แดง เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ โดยมี 34 คะแนน แซง อาร์เซนอล ที่มี 33 คะแนนขึ้นไปรั้งอันดับที่ 4 แล้ว โดยในเกมต่อไปนั้น ลิเวอร์พูล ต้องออกไปเยือน ปืนใหญ่ หากสามารถทำได้อย่างน้อยเสมอที่ เอมิเรตส์ สเตเดียม จะทำให้อยู่ในอันดับที่ 4 ต่อไป
ต้องมาลุ้นกันว่าเกมกับ ปืนใหญ่ จะทำได้ดีเหมือนวันนี้หรือเปล่า !!!?
สรุปการทำประตูของ 3 ประสานแนวรุกเกมนี้
ซาลาห์ : มีส่วนกับประตู 24 ลูก; ยิง 20 ประตู, แอสซสิต์ 4 ครั้ง
ฟิร์มิโน : มีส่วนกับประตู 20 ลูก; ยิง 13 ประตู, แอสซสิต์ 7 ครั้ง
คูตินโญ : มีส่วนกับประตู 17 ลูก; ยิง 10 ประตู, แอสซสิต์ 7 ครั้ง