ถกไร้ผล!บังยีไม่สนค้านยันเลือกตั้งใช้72เสียง

นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ดึง ฟีฟ่า ร่วมไขข้อข้องใจเกี่ยวกับธรรมนูญฉบับใหม่ รอสมาชิกร่วมโหวตรับรอง 15 มิ.ย.นี้

วันที่ 14 มิ.ย. ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย 2 ผู้แทนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ "ฟีฟ่า" มร.เธียรี เลอ-เกอเนส ผู้อำนวยการฝ่ายดูแลและพัฒนาชาติสมาชิกฟีฟ่า และ มร.เจมส์ จอห์นสัน ผู้จัดการอาวุโสจากแผนกเดียวกันของฟีฟ่า แถลงข่าว งานการตอบข้อซักถามข้อบังคับ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฉบับมาตรฐาน โดยสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ท่ามกลางสมาชิกสโมสรและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

มร.เธียรี กล่าวว่า หลังจากประชุมใหญ่ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่เกาะเมอริเชียส ทางฟีฟ่าเอง ก็ได้มีมติว่า สมาชิกทั้ง 209 ชาติ ควรอยู่ภายใต้ธรรมนูญ มาตรฐานฉบับใหม่ให้เป็นไปทางเดียวกัน ซึ่งทางฟีฟ่าจะประกาศใช้จริง หลังจากวันที่ 31 ก.ค. 2556 พร้อมกันนี้ ทางสมาคมฟุตบอลฯ ได้ทำเรื่องเข้าไปทางฟีฟ่าที่พร้อมจะเปลี่ยนข้อบังคับเดิมให้เป็นแบบใหม่ เนื่องจากใกล้วันเลือกตั้ง ซึ่ง ฟีฟ่าเห็นว่า ธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่สอดคล้องกับที่ฟีฟ่ากำหนดไว้ เช่น ระบบการเลือกตั้งที่เลือกนายกคนเดียว โดยไม่มีการเลือกสภากรรมการ และไม่มีการแบ่งความชัดเจนในเรื่องสภากรรมการอาจส่งผลให้การทำงานต่อจากนี้มีปัญหาได้ ทางฟีฟ่าจึงมีความเห็นว่า
ต้องมีการเปลี่ยนแปลงก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ขึ้น เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในอนาคต ซึ่งเชื่อว่า ทางประเทศไทย จะจัดเลือกตั้ง ก่อน 30 ก.ย.นี้ และการมาชี้แจงของฟีฟ่าในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นประโยชน์ ซึ่งหากสมาชิกไม่รับรองธรรมนูญใหม่ ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าส่งผลกระทบอะไร

ส่วนในเรื่อง 72 เสียงนั้น ทางสมาคมฟุตบอล เป็นคนเสนอเรื่องออกไป ทางฟีฟ่า มองว่า ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์แต่อย่างใด แต่อยากให้มองว่า อย่าเอาอนาคตของฟุตบอลไทย ไปฝากไว้กับทีมสมัครเล่น ส่วนทีมในลีกภูมิภาค จะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งจะคัดหาจากที่ประชุมใหญ่ โดยทาง กลุ่มฉลามชล นายอรรณพ สิงห์โตทอง กลับมองว่า ทางฟีฟ่า ยังไม่เข้าใจระบบการเป็นสมาชิกของไทย ซึ่งหลายทีมที่ถูกตัดไปนั้น จะถูกรับรองจากสมาคม ขณะที่ทีมที่เข้ามา กลับไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคม และข้อยืนยันว่า ในพรุ่งนี้ ผมจะไม่โหวตรับรองแน่นอน เพราะการตัดสิทธิ์สโมสรสมาชิก 72 เสียง ไม่เป็นธรรม ส่วนเรื่องใบมอบอำนาจนั้น ก็อยากให้ทาง กกท. เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด

ด้าน นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการแถลงเสร็จสิ้นว่า "ทางฟีฟ่า ก็มาชี้แจงชัดเจนแล้ว หวังว่าในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ที่จะลงมติรับรองนั้น คงไม่มีใครมาถามคำถามซ้ำซากอีกนะ เพราะทางฟีฟ่า ก็ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว ทุกอย่างเคลียร์แล้ว เราเป็นสมาชิกของฟีฟ่า เพราะฉะนั้นต้องทำตามที่ฟีฟ่ากำหนดไว้ เพราะไม่งั้นจะโดนตัดสิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของใบมอบอำนาจนั้น ต้องใช้ตามที่สมาคมกำหนด ผมไม่รู้หรอกว่า ทาง นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย จะพูดอย่างไร ผมไม่รับรู้ โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่า จะให้ใช้ใบมอบอำนาจแบบไหนก็ได้ และถ้ามีสโมสรซ้ำซ้อนหล่ะ ใครจะรับผิดชอบ ผู้ว่าฯ กกท. จะรับผิดชอบหรือเปล่า "

ส่วน นายสมพร ไชยสงคราม ผู้อำนวยการกองนิติการ กกท. กล่าวว่า สมาคมฟุตบอล ต้องทำตามข้อบังคับ ซึ่งข้อ 20.5 ประธานสโมสรสามารถมอบอำนาจให้กับสมาชิกเพียงเท่านั้น โดยไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นผู้ใด รวมถึงแบบฟอร์มในการยื่นก็ไม่ได้ระบุเช่นกันว่าจะต้องใช้รูปแบบใด