เมื่อ"คากาวะ"มาผี!

เมื่อ"คากาวะ"มาผี!

เมื่อ"คากาวะ"มาผี!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่ปล่อยเวลาให้มันล่วงเลย

ไม่เคยคิดที่จะตั้งท่าดูบอลยูโร เพียงอย่างเดียว เพราะปีที่ผ่านมาต้องบอกได้ว่า นี่คือความผิดหวัง รวมไปถึงความเสียหน้า

การเสียมงกุฎแชมป์ให้กับคู่ปรับร่วมเมืองแบบสุดแสนจะดราม่าให้กับ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ส่งผลให้ท่านเซอร์น่าจะนอนไม่หลับไปหลายวัน

เช่นเดียวกันกับการไม่ได้แชมป์อะไรติดมือเลย เมื่อเทียบกับ 4 รายการที่ลงเล่น แถมยังถูกเตะร่วงต้องไปเล่นยูโรป้า ลีก อีกต่างหาก

ยิ่งเมื่อเห็น เชลซี กระชากดับเบิลแชมป์ โดยเฉพาะถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ท่านเซอร์หมายมั่นปั้นมือว่าจะฟอร์มทีมมาสู้กับ บาร์เซโลน่า หลังจากแพ้หมดรูปในนัดชิง 2011

ก็ไม่ได้แม้แต่จะคิดสู้

รวมไปถึงได้เห็น ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลที่มีซีซั่นที่สุดแสนจะเอียงกระเท่เร่ ก็ยังอุตส่าห์ไปสอยแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ มาเก็บเป็นทำเนียบความสำเร็จ

แน่นอนว่า คนที่กระหายความสำเร็จอยู่ตลอดเวลาอย่าง เซอร์เฟอร์กี้ ย่อมไม่ยอมให้มันเกิดบ่อย ๆ แน่

ไม่แปลกที่เขาจะโหยหาผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก เพราะนับตั้งแต่ไปเรียก พอล สโคลส์ กลับมาลงเล่นอีกครั้ง

มันบ่งบอกอะไรได้เป็นอย่างดี

ในทีแรกกะจะได้ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ มาเติมความฉูดฉาด แต่พอเห็นฟอร์มของ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ กับ อันแดร์สัน ในช่วงต้นฤดูกาล ก็ต้องพับฐานเรื่องนี้ไป

แต่พอสองคนนี้มีอันต้องพับฐานตัวเองจากอาการบาดเจ็บ การไปเรียก สโคลส์ กลับมาลงเล่นอีกครั้ง คือการ "ปิดปากแผล" อันใหญ่เบิ้ม ที่พวกเขาจะต้องรักษามันให้หาย

ใจจริง เซอร์ ก็ต้องการ เอด็อง อาซาร์ แต่สุดท้าย ดาวรุ่งเบลเยียมเลือกที่จะไปนอนอ้าซ่าอยู่กับ เชลซี ทำให้เป้าหมายของพวกเขาต้องกลับไปล็อกเข้าที่จุดเดิม

ก่อนจะสามารถทำได้สำเร็จกับการคว้าตัว ชินจิ คากาวะ


พ่อค้าแข้งชาวญี่ปุ่นรายนี้ตกเป็นข่าวกับทีมของ "เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน" มานานกว่า 1 ปี แล้ว ล่าสุดเว็บไซต์สโมสรปิศาจแดง แถลงอย่างเป็นทางการว่า บรรลุข้อตกลงกับทีมเสือเหลือง ต้นสังกัดของเจ้าตัวได้แล้ว

เหลือแค่ขั้นตอนของการตรวจร่างกาย และขอใบอนุญาตทำงาน หรือเวิร์กเพอร์มิตเท่านั้น

ส่วนค่าตัวตกลงกันได้ที่ราคา 12 ล้านปอนด์ และจะเพิ่มเป็น 17 ล้านปอนด์ถ้าหากเล่นได้ตามกำหนดที่วางเอาไว้

ถือเป็นการ "เกาถูกที่คัน" เป็นอย่างยิ่ง

คากาวะ กลับจากอาการบาดเจ็บจากเอเชี่ยน คัพ เมื่อต้นปี 2011 กลับมาลงเล่นทั้งซีซั่นได้อย่างเริ่ดหรู และแสดงให้เห็นต่อหน้าต่อตา เซอร์อเล็กซ์ ในเกมนัดชิงเดเอฟเบ โพคาล ที่ คากาวะ เล่นได้อย่างมาสเตอร์พีซ ก่อนพาทีมไล่ต้อน บาเยิร์น มิวนิค ขาดกระจุย

ตำแหน่งนี้สำคัญมาก และเมื่อได้ ชินจิ มาเดินเกมตรงนี้ และได้ เคลฟเวอร์ลี่ย์ กลับมา พร้อมกับประสานกับ แอชลี่ย์ ยัง ทางด้านซ้าย และอันโตนิโอ วาเลนเซีย ด้านขวา

"สปีดบอล" แบบเมื่อต้นซีซั่นที่ผ่านมา น่าจะเกิดขึ้นอีกครากับ ยูไนเต็ด

เพียงแต่ว่า พวกที่เหลืออยู่นั้น อาจจะต้องดูว่า จะสามารถรองรับกับสไตล์การเล่นแบบนี้ได้นานแค่ไหน เพราะอย่าไปหวังกับ ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริค กระทั่ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์

พวกนี้เล่นในสไตล์แบบใหม่ที่ เซอร์ หวังเอาไว้ไม่ได้

ไม่อย่างนั้นคงไม่นอนจมน้ำตาแบบนี้อย่างแน่นอน

ดังนั้น หากว่ากันตามจริงการได้ คากาวะ เข้ามาเสริมทัพนั้น ถือว่าดีมาก แต่ไม่พอแน่ หากองค์ประกอบรอบข้างนั้นเป็นพวกเฒ่าชะแลแก่ชรา ต้องมาอีกสัก 2-3 หน่อ

ไม่จำเป็นต้องคีย์เพลเยอร์ แต่สามารถเล่นได้ในรูปแบบที่ต้องการ

เมื่อนั้นแหละ ยูไนเต็ด จะคืนบัลลังก์..........

บี แหลมสิงห์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook