เช็กบิลพรีเมียร์ลีก (นัดที่35)...???

เช็กบิลพรีเมียร์ลีก (นัดที่35)...???

เช็กบิลพรีเมียร์ลีก (นัดที่35)...???
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปผลงานทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สัปดาห์ที่ผ่านมา โดย..ดามัน

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่...

นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมนักเตะอาชีพ เป็นรางวัลที่ใครได้ไปภูมิใจกันสุดๆ เพราะนี่คือการเลือกของนักเตะอาชีพด้วยกัน นักเตะที่ดวลแข้งกันทุกสัปดาห์นั่นแหละ ยกเว้นตัวเองและเพื่อนร่วมทีมที่เลือกกันเองไม่ได้ นั่นทำให้รางวัลนี้มีคุณค่ามากขึ้นไปอีกเพราะคนที่ได้รับรางวัลมาจากการเลือกของนักเตะคู่แข่งทั้งสิ้น

นาทีนี้ 27 ประตู คือผลงานของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และอาจจะมีเพิ่มเข้ามาอีกกับแมตช์การแข่งขันที่เหลืออยู่ในฤดูกาลนี้ อาจจะเป็นรางวัลส่วนตัวอีกหนึ่งรางวัลนั่นคือดาวซัลโวฤดูกาล2011-2012 โดยมีเวย์น รูนี่ย์ หายใจรดต้นคออยู่

 

โบกมือลา...

เป็นการเช็กบิลของจริงสำหรับวูล์ฟแฮมป์ตัน โบกมือลาพรีเมียร์ ลีกเป็นทีมแรกหลังจากพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นเรื่องยากจริงๆที่วูล์ฟส์จะรับมือกับเรือใบได้ไหว เพราะเป้าหมายชัดเจนทั้งคู่

วูล์ฟส์ต้องการชัยชนะเพื่อยืดการมีชีวิตรอดในพรีเมียร์ ลีก ออกไปอีก ในขณะที่เรือใบต้อง 3 แต้มเพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ที่มีความหวังแจ่มใสขึ้นมา

2 ประตูจากกุน อาเกโร่และซามีร์ นาสรี่ นั่นคือการเซฟความหวังของเรือใบ แต่เป็นการส่งวูล์ฟส์ลงไปสู่เดอะ แชมเปี้ยนชิพในฤดูกาลหน้า

สนุกสนานเบิกบานใจ...

เกมยิงกัน 8 ประตูใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดที่ผีแดงรับมือเอฟเวอร์ตัน สร้างความสนุกสนานอย่างยิ่ง ซึ่งคงจะยกเว้นแฟนผีแดงที่ได้เห็นการยิงประตูแต่ไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง

ใครจะไปคาดคิดว่าผีแดงที่เริ่มจากสกอร์ตามหลังจนแซงขึ้นไปนำถึง 2 ประตู 2 ครั้ง 2 ครา จะโดนเอฟเวอร์ตันตามตีเสมอได้โดยยิง 2 ประตูจาก 2 นาที

ในขณะที่อีกมุมหนึ่งนั้นมันก็คาดหวังยากเช่นกันว่าเอฟเวอร์ตันจะสามารถตามตีเสมอแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่นำห่างอยู่ 2 ประตูได้ในช่วงท้ายเกม

ผีแดงทำแต้มหล่นเรี่ยราดได้อย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆกับเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันและลูกทีม แต่ก็เกิดขึ้นแล้ว และนั่นคือความสนุกสนานอีกเช่นกันกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีกระหว่างผีแดงกับเรือใบ ที่จะต้องดวลกันเองปลายเดือนนี้

 

ได้ใจไปเต็มๆ...

เอฟเวอร์ตันของเดวิด มอยส์ ไปเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด ของผีแดงด้วยอาการที่เพิ่งจะพ่ายลิเวอร์พูลในนัดตัดเชือกเอฟเอ คัพ อาจจะมีบ้างที่ความกระหายและความมุ่งมั่นในเกมจะหายไปบ้างซึ่งให้อภัยกันได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง นักเตะเอฟเวอร์ตันเล่นกันด้วยความทุ่มเทเกินร้อย

ในเมื่อถ้วยต่างๆมันไม่มีให้ลุ้นก็ขอจบฤดูกาลด้วยอันดับที่เหนือกว่าลิเวอร์พูลให้ได้ นั่นอาจจะมีความหมายขึ้นมาทันตาเห็น ไม่มีการปล่อยผ่านเกม ไม่ยอมสารภาพกันง่ายๆ

ตามหลังทีมอย่างผีแดงในโอลด์ แทรฟฟอร์ด 2 ประตู ดูเหมือนจะมืดมนสำหรับทีมอื่น แต่เดวิด มอยส์ และลูกทีมทำได้โดยเฉพาะ มารูยัน เฟลไลนี่ ที่พยายามอย่างโดดเด่น ทั้งไล่บอล ทั้งพยายามพักบอลให้เพื่อนได้หายใจหายคอ ทั้งมีสกอร์ให้กับทีม แถมส่งรอยยิ้มไปเติมแต่งใบหน้าให้นักเตะเรือใบซ้ำเข้าไปอีก งานนี้แฟนผีแดงเซ็งไปตามๆกัน

เรือใบชัดเจนอีกครั้ง...

หลังจากอาศัยทีมอื่นแบ่งแต้มผีแดงไปเรื่อย นาทีนี้ความหวังของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาอยู่ที่ตัวพวกเขาเองอีกครั้งหนึ่ง ความกดดันบวกกับนักเตะหลายคนฟอร์มแผ่วลงไปจนทำให้การลุ้นแชมป์แทบจะปิดฉากอย่างเป็นทางการในช่วงเวลาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแต้มในตารางนำห่างถึง 8 แต้ม

นาทีนั้นมันชินี่และลูกทีมเหมือนยอมรับชะตากรรมกันไปแล้ว เมื่อความรู้สึกต่างๆมันไปในทิศทางที่ว่าก็ไม่มีความกดดันอะไรอีกต่อไป ผลงานของทีมเรือใบกลับฟื้นคืนชีพพอดิบพอดีกับที่ผีแดงแต้มหล่นหาย

อย่างไรก็ตามแม้ความชัดเจนมีมากขึ้น แต่ผีแดงก็ยังคงมีแต้มนำอยู่ดี ใช่ว่านัดดาร์บี้แมตช์เมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งน่าจะตัดสินแชมป์กันนั้น มันยังคงมีภาพอื่นที่เกี่ยวข้องอยู่ด้วย

เรือใบอาจจะพ่ายในบ้านตัวเองแล้วชวดแชมป์ก็เป็นทางเลือกที่พร้อมจะเกิดขึ้นเช่นกัน...

 

เสียใจไปเต็มๆ...

ถ้าเอฟเวอร์ตันได้ใจแฟนบอลไปเต็มๆกับการทุ่มเทในการเล่น ลิเวอร์พูลคงเป็นทีมที่สร้างความเสียใจให้แฟนบอลได้เรื่อยเปื่อยไม่สิ้นสุด คำพูดหลังเกมของเคนนี่ ดัลกลิช เหมือนจะยอมรับเช่นกันว่าไม่รู้จำทำอย่างไรดี เพราะเป็นเรื่องที่ซ้ำซาก

ความผิดพลาดต่างๆ จุดที่ต้องแก้ไขในนัดต่อไปล้วนแล้วแต่พูดจากันเหมือนเดิมทุกอย่างจนแทบจะไม่ต้องพูดเองเปิดเทปให้ฟังกันได้เลยเพราะต้องบ่นต้องด่ากันเหมือนเดิม และความผิดพลาดก็ยังคงเกิดขึ้นเหมือนเดิม

สาลิกาก้างอีกชิ้นของเรือใบ...

ทุกสายตา ทุกความรู้สึกพุ่งเป้าไปที่พรีเมียร์ ลีก นัดดาร์บี้แมตช์ระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในคืนวันที่ 30 เมษายน มองกันแล้วว่าน่าจะตัดสินแชมป์กันในวันนั้น

อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจกับโปรแกรม เพราะเรือใบต้องเจอกับนิวคาสเซิลหลังจากนั้น ทีมของอลัน พาร์ดิว กำลังเล่นด้วยความมั่นใจสุดๆ

แน่นนอนว่าหลังจากเกมวันอาทิตย์จบลงไป โมเมนตั้มมันแกว่งมาทางเรือใบมากทีเดียว แต่ต้องเอาชนะให้ได้ทั้งหมดในแมตช์ที่เหลืออยู่ โปรแกรมที่สาลิกาเจอเรือใบที่ซ่อนอยู่หลังดาร์บี้แมตช์นั้นไม่ธรรมดาแน่นอน

โยฮัน กาบาย...

ฟอร์มสุดๆอีกครั้งสำหรับมิดฟิลด์ฝรั่งเศสค่าตัวแค่ 4 ล้านปอนด์คนนี้ พิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่านิวคาสเซิลซื้อตัวได้ผลดีมากๆ ฟอร์มของนักเตะและอันดับในตารางน่าจะฟ้องเรื่องราวทั้งหมดได้ดี

2 ประตู กับอีกแอสซิสต์ให้ปาปิส ซิสเซ่ สะสมสกอร์ และจังหวะแอสซิสต์นั้น ต้องบอกว่าเหนือชั้น สวยงามหยาดเยิ้มทีเดียว ไหลบอลเข้าช่องตัดแนวรับทั้งหมดให้ปิส ซิสเซ่ วิ่งเข้าไปยิงประตู

คุ้ม...คุ้มเกินคุ้มจริงๆ นาทีนี้นิวคาสเซิลอาจจะใจใหญ่มองไปถึงอันดับ 3 ของตารางกันเลยทีเดียว แม้ว่าโปรแกรมที่เหลือยังต้องเจอกับเชลซี,แมนเชสเตอร์ ซิตี้และเอฟเวอร์ตันก็ตาม

รับแล้วอย่าลืมรุกด้วย...

เชลซีของกุนซือโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ พยายามพิสูจน์แนวรับกันเต็มที่ใน 2 นัดล่าสุดที่ผ่านมา ทั้งเจอกับบาร์ซ่าและอาร์เซนอล คลีนชีตเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทีม และการครองบอลเป็นส่วนใหญ่ก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ชนะเสมอไปเชลซีทำให้เห็นกันมาแล้ว

เกมไปเยือนบาร์ซ่าที่คัมป์ นู ในเลกที่ 2 ของนัดตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ ลีก โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ คงไม่เปลี่ยนแปลงสไตล์การเล่นแน่นอน ทว่าการเล่นด้วยสไตล์รับให้เหนียวแน่นเข้าไว้เพียงอย่างเดียว คงรับมือกับบาร์ซ่าได้ยากอย่างยิ่ง

งานนี้ดิ มัตเตโอและลูกทีมคงต้องมองหาสกอร์ด้วย เพราะยิงไป 1 ประตูนั่นหมายความว่าบีบให้บาร์ซ่าต้องยิงอีก 3 ประตูถึงจะเข้าไปป้องกันแชมป์ได้

การรับอย่างเดียวเพื่อยันสกอร์ที่มีมาจากนัดแรกนั้น ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่อันตรายอย่างยิ่งยวด

อาเดล ทารับต์...

นักเตะที่แฮร์รี่ เรดแนปป์ กุนซือสเปอร์สเขี่ยทิ้งจากทีมเมื่อ 2 ปีก่อนกลับมาทำให้ช้ำใจกันได้ อาเดลบ ทารับต์ ย้ายไปร่วมงานกับคิวพีอาร์เมื่อ 2 ปีที่แล้วหลังจากแฮร์รี่ เรดแนปป์ ไม่ค่อยพอใจผลงานและพฤติกรรมสักเท่าไหร่

เมื่อมีโอกาสดวลกันมันคงต้องแสดงออกกันบ้าง ประตูชัยของทารับต์ เพิ่มโอกาสในการอยู่รอดของคิวพีอาร์ได้เป็นอย่างดี แต่นั่นก็บั่นทอนโอกาสลุ้นอับดับ 4 ในตารางของสเปอร์สไปด้วย

ล็อฟตัส โร้ด เป็นสนามเล็กๆ แคบๆ เมื่อเทียบกับทีมอื่นๆในพรีเมียร์ ลีก แต่แฟนบอลมีผลต่อเกมได้มากเช่นกันและผลงานของแฟนบอลสร้างแรงจูงใจให้นักเตะเพิ่มความพยายามจนสามารถเอาชนะลิเวอร์พูล,เชลซีและอาร์เซนอลมาแล้ว

สเปอร์สเป็นทีมล่าสุดที่คิวพีอาร์จัดการและแน่นอนว่าแรงดันแรงกระตุ้นมาจากข้างสนามนั่นเอง

ดามัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook