''แชมป์" โชว์! เซฟ 3 จุดโทษ พาบุรีรัมย์เชือด บริสเบน ฉลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์

''แชมป์" โชว์! เซฟ 3 จุดโทษ พาบุรีรัมย์เชือด บริสเบน ฉลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์

''แชมป์" โชว์! เซฟ 3 จุดโทษ พาบุรีรัมย์เชือด บริสเบน ฉลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยส์ ลีก 2013

(รอบเพลย์ออฟ)

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) 3-0 บริสเบน โรอาห์ (ออสเตรเลีย)

ณ สนาม ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม

เวลา 18.00 น.

 

 

 

ฟุตบอล : ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบเพลย์ออฟ ประจำวันที่ 13 ก.พ.56 ตัวแทนจากเมืองไทย “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งปีที่แล้วได้เข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ เปิดสนาม ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ลงทำศึกกับ บริสเบน โรอาห์ ที่จากประเทศออสเตรเลีย
 



ก่อนเกมนัดนี้จะเริ่มขึ้น เวลา 15.57 น.ทัพนักเตะ “แชมป์เซราะกราว”ได้เดินทางไปสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดบุรีรัมย์ ก่อนที่เวลา 16.09 น. จะไปสักการะพระบรมราชานุเสาวรีย์ ร.1 จากนั้นได้มุ่งหน้าไปที่สนาม ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม




 
"แข้งเซราะกราว" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เดินทางถึงสนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม พร้อมทำศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2013 รอบเพลย์ออฟ กับ "บริสเบน โรอาห์ ในเวลา 18.00 น.




 

สำหรับ11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้ของ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทาง “โค้ชแต๊ก”อรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ของทีม วาง ศิวรักษณ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา มี ธีราทร บุญมาทัน เติมเกมรุกทางแบ็กซ้าย ให้ สุรีย์ สุขะ อยู่ฝั่งขวา ส่วน ประทุม ชูทอง ทำหน้าที่เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ออสมาร์ อิบาเนซ ที่สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม

กองกลางใช้ สุรัตน์ สุขะ ทำเกมร่วมกับ ชาริล ชัปปุยส์ นักเตะลูกครึ่งไทย-สวิสเซอร์แลนด์ วาง แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ เป็นปีกซ้าย ส่วนฟากขวาเป็นหน้าที่ของ อนาวิน จูจีน และกองหน้าเป็นการจับคูกันของ เอกชัย สำเร กับ ไค ฮิราโนะ

ด้าน มิชาเอล มัลเวย์ เฮดโค้ชของ บริสเบน โรอาห์ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย 3 แข้งต่างชาติ ทั้ง สเตฟาน ไนจ์แลนด์ หัวหอกที่ยืมมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น พร้อมด้วย เบซาร์ต เบอริชาร์ ตัวรุกทีมชาติแอลเบเนีย และ โทมัส บรอยซ์ อดีตกองหน้าทีมชาติเยอรมันชุด ยู 21

ออกสตาร์ทในครึ่งแรก เกมรุกของ “ปราสาทสายฟ้า”พยายามหาจังหวะเข้าทำสกอร์ แต่ น.5 บริสเบน โรอาห์ ได้ทักทายก่อน จากการสับไกลของ เบนจามิน ฮอลโลแรน บอลยังหลุดกรอบออกหลังไป

 น.7 อาคันตุกะจากแดนจิงโจ้ มีโอกาสได้ซัดอีกครั้ง คราวนี้เป็น สเตฟาน ไนจ์แลนด์ หัวหอกที่ยืมมาจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แต่บอลไปติดบล็อกของ ออสมาร์ อิบาเนซ ก่อนจะเคลียร์ทิ้งออกไปได้
 
นาทีต่อมา “แชมป์เซราะกราว”สวนกลับเร็ว ชาริล ชัปปุยส์ โยนมาทางฝั่งขวาให้ อนาวิน จูจีน ควบบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนล็อกบอลแล้วหาจังหวะยิงทันที บอลพุ่งไปที่เสาแรกแต่ถูก มิชาเอล ธีโอ ล้มตัวปัดไว้ได้

 น.9 เกมหยุดลงไปชั่วขณะ จากจังหวะต่อเนื่องที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในเขตโทษ ทว่า อิวาน ฟรานยิส กองหลังของทีมเยือนพุ่งไปโดนศอกของ มิชาเอล ธีโอ อย่างจัง จนแพทย์ของทีมต้องเข้ามาปฐมพยาบาล

 
น.12 เจมส์ โดนาชี่ แนวรับของ บริสเบน โรอาห์ รับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกม หลังจากไปทำฟล์ว ไค ฮิราโนะ นาทีต่อมา ชาริล ชัปปุยส์ แทงบอลทะลุช่องไปให้ เอกชัย สำเร หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่บอลแรงจึงไปเข้ามือ มิชาเอล ธีโอ


 

น.19 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา ธีราทร บุญมาทัน โยนบอลเข้าไปแต่ไปเข้ามือของ มิชาเอล ธีโอ และ น.27 ธีราทร เปิดลูกเตะมุมเลียดมาให้ ชาริล ชัปปุยส์ ซัดแบบไม่ต้องจับ บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
 
น.34 สเตฟาน ไนจ์แลนด์ รับใบเหลืองไปอีกคน หลังจากไปพุ่งเสียบเปิดปุ่มใส่สุรีย์ สุขะ แบบน่าเกลียด ก่อนที่ 2 นาทีต่อมาทีมเยือนจะเปลี่ยนตัวครั้งแรก ด้วยการส่ง แจ็ค ฮินเกิร์ต ลงมาแทน อิวาน ฟรานยิส ที่มีอาการบาดเจ็บ
 
น.39 “แชมป์เซราะกราว”มาได้ฟรีคิกนอกเขตโทษ ออสมาร์ อิบาเนซ วิ่งมาตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่บอลไปติดบล็อกของผู้เล่น บริสเบน โฑรอาห์ ก่อนถูกเคลียร์ออกมาได้
 
น.44 จากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษแต่ ประทุม ชูทอง ยังขึ้นโหม่งไม่ถึง บอลจึงไปเข้ามือ มิชาเอล ธีโอ จังหวะต่อมา แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ มีโอกาสได้ยิงทว่าบอลยังหลุดกรอบออกหลังไปอีก

ท้ายครึ่งแรก บริสเบน โรอาห์ พยายามโหมบุกอย่างหนัก แต่จังหวะสุดท้ายพ่อค้าแข้ง “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังป้องกันไว้ได้ หมด 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัว และ น.48 ธีราทร บุญมาทัน เปิดฟรีคิกเข้ามาในเขตโทษ และเป็น ออสมาร์ อิบาเนซ ที่เติมมาโหม่ง ทว่าบอลยังหลุดกรอบออกไปอีกครั้ง

 น.57 เกมรุกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเดินเครื่องต่อไป คราวนี้ ชาริล ชัปปุยส์ เปิดบอลเข้าไปในเขตโทษ หวังให้ ไค ฮิราโนะ โหม่งจ่อๆ แต่ มิชาเอล ธีโอ ยังปัดบอลออกมาได้
 

 

น.61 ทีมเยือนจากแดนออสซี่ได้โอกาสแบบต่อเนื่อง คราวนี้เป็น สเตฟาน ไนจ์แลนด์ ที่ได้หลุดไปยิงบริเวณเสาแรก แต่บอลพุ่งไปเข้าข้างตาข่าย

น.67 เป็นอีกครั้งที่เกมรุกของ บริสเบน โรอาห์ หาโอกาสทำสกอร์แบบต่อเนื่อง โดย สเตฟาน เบอริชาร์ ได้โถมโหม่งในเขตโทษ บอลยังข้ามคานออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

น.72 ออสมาร์ อิบาเนซ ตัดเกมได้จากกลางสนาม ก่อนจ่ายยบอลออกมาทางซ้ายให้ เอกชัย สำเร พาบอลขึ้นไป ก่อนจะจ่ายกลับเข้ามาในเขตโทษ หวังให้ปราการหลังชาวสเปนที่เติมขึ้นมาเข้าชาร์จ ทว่าบอลกลับเลยออกหลังไป

น.81 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกือบเสียประตู จากจังหวะที่ เบนจามิน ฮอลโลแรน ได้ยิงจ่อในเขตโทษ แต่ ศฺวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังปัดออกหลังไปได้ หลังจากนั้นเจ้าบ้าน แก้เกมครั้งแรก ด้วยการส่ง โกรัน เยอร์โควิช หัวหอกร่างยักษ์ลงไปเล่นแทน ไค ฮิราโนะ ที่มีอาการบาดเจ็บ

น.88 ทีมเยือนมาได้เตะมุมทางฝั่งขวา ลุค แบรตตัน เปิดเข้ามาในเขตโทษ แต่ยังโดน โกรัน เยอร์โควิช ที่ลงมาช่วยสกัดบอลออกไปได้อีกครั้ง ก่อนที่ น.90 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะส่ง สุเชาว์ นุชนุ่ม ลงมาเล่นแทน เอกชัย สำเร

หลังจกานั้นทั้ง 2 ทีมไม่สามารถทำสกอร์เพิ่มได้ จบเกมเสมอกันไป 0-0 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 2 ครึ่ง ครึ่งละ 15 นาที

มาเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษของครึ่งแรก น.91 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้โอกาสก่อน จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เตะมุมทางฝั่งขวาเข้ามาที่เสาแรก แต่ มิชาเอล ธีโอ ยังออกมารับไว้ได้

น.93 เจ้าถิ่นหวิดพลาด เมื่อ สเตฟาน ไนจ์แลนด์ กระดกบอลออกไปทางซ้ายให้กับ โทมัส บรอยส์ กระชากบอลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่จะกึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาที่ปากประตู ยังดีที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ทุบบอลทิ้งไปได้

น.94 โอกาสของ “แชมป์เซราะกราว”ยังมีอย่างต่อเนื่อง คราวนี้ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลมาให้ ชาริล ชัปปุยส์ ได้วอลเล่ย์ในเขตโทษ แต่วืดไปจึงถูกแผงหลังทีมเยือนสกัดออกมา ทว่ากลับมาเข้าทาง ประทุม ชูทอง ที่วิ่งเข้ามาซัดแบบไม่ต้องจับ บอลยังหลุดกรอบออกไป

น.98 ชาริล ชัปปุยส์ ได้รับใบเหลือง จากการที่เจ้าตัวไปเสียบแบบเปิดปุ่มใส่ เบนจามิน ฮอลโลแรน และจังหวะต่อมา โทมัส บรอยส์ กระชากบอลมาจากฝั่งซ้ายตัดเข้ามาหน้าเขตโทษ แล้วตัดสินใจยิงทันที แต่เป็น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่ล้มตัวปัดบอลออกไปได้

น.102 “ปราสาทสายฟ้า”แก้เกมเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยการส่ง จิรวัฒน์ มัครมย์ ลงไปเล่นแทน แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์ ก่อนที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม จะได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่เจ้าตัวกลับยิงผ่านเสาแรกหลุดออกไป และจังหวะต่อมา โกรัน เยอร์โควิช ได้ซัดหน้าเขตโทษ ยังโดน มิชาเอล ธีโอ ทุบบอลทิ้งออกมา และหมดช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกไปด้วยการเสมอกันอยู่ 0-0

กลับมาสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง น.107 ขุนพล “แชมป์เซราะกราว”มาได้ฟรีคิกฝั่งซ้าย จิรวัฒน์ มัครมย์ กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้ามาในเขตโทษ แต่กลับไม่มีเพื่อนเข้าชาร์จ บอลจึงไปเข้ามือ มิชาเอล ธีโอ

น.111 เกมรุกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเดินหน้าหาโอกาสทำสกอร์อย่างต่อเนื่อง คราวนี้เป็น สุเชาว์ นุชนุ่ม ลองสับไกลจากนอกเขต แต่บอลยังเหินข้ามคานออกไป อีก 2 นาทีต่อมา บริสเบน โรอาห์ มาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ แต่ สเตฟาน ไนจ์แลนด์ กลับยิงไม่ตรงกรอบ

ช่วงท้ายเกม น.119 สุเชาว์ นุชนุ่ม ปาดบอลจากซ้ายมาให้ ชาริล ชัปปุยส์ ได้ล้มตัวยิงในเขตโทษ แต่บอลยังออกหลัง ก่อนที่จะจบเกมทั้ง 2 ทีม เสมอกันไป 0-0 ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ 

ซึ่งช่วงของการยิงจุดโทษ “ปราสาทสายฟ้า”บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 จากการยิงของ ออสมาร์ อิบาเนซ, ชาริล ชัปปุยส์ ก่อนที่จะปิดท้ายด้วยจิรวัฒน์ มัครมย์ นอกจากนี้ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ยังได้เซฟลูกยิงของ โทมัส บรอยส์, เบซาร์ท เบอริชาร์ และ เจมส์ เมเยอร์ ทำให้ “แชมป์เซราะกราว”สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการทะลุผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มของศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
 
สำหรับการผ่านเข้ารอบครั้งนี้ของ “นักรบปราสาทสายฟ้า”จะทำให้พวกเขาผ่านเข้าไปเล่นในกลุ่ม อี ซึ่งมี เอฟซี โซล แชมป์เคลีกจากเกาหลี, เวกัลตะ เซนได รองแชมป์เจลีกจากญี่ปุ่น และ เจียงซู เซียนตี้ รองแชมป์ไชน่า ซุปเปอร์ลีก จากจีน รออยู่

เครดิต : ภาพ-ข่าว จากเว็บ http://www.buriramunited.co.th


บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ บริสเบน โรอาห์

นาทีดวลจุดโทษ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ ''แชมป์" โชว์! เซฟ 3 จุดโทษ พาบุรีรัมย์เชือด บริสเบน ฉลุยศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook