เช็กบิลพรีเมียร์ ลีกนัดที่ 24

เช็กบิลพรีเมียร์ ลีกนัดที่ 24

เช็กบิลพรีเมียร์ ลีกนัดที่ 24
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สรุปผลงานทีมจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย..ดามัน

อาร์เซนอล...

ประเดิมเช็กบิลกันที่ปืนโตในฐานะเล่นเปิดหัวเป็นคู่แรกในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับการถล่มแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 7-1 จุดประกายความหวังลุ้นไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้สว่างไสวขึ้นมาอีกครั้ง

11 คนเท่ากันแบล็คเบิร์น โรเวอร์สก็แทบจะไม่รู้ว่าจะไปหาปัญญาที่ไหนมารับมือ และนั่นทำให้กุหลาบไฟถูกตรึงแน่นอยู่ในอันดับรองบ๊วยของตาราง

อาร์แซน เวนเกอร์บอกว่าแม้จะยิงกระจาย แต่มันก็เป็นเพียงชัยชนะนัดหนึ่งเท่านั้น แต่ที่สำคัญฟอร์มต้องอยู่กับร่องกับรอย หลังจากได้ชัยชนะนัดแรกหลังจากขึ้นปีใหม่มา ในขณะที่สตีฟ คีน กุนซือแบล็คเบิร์นยังมั่นใจว่านัดหน้าเจอคิวพีอาร์ทีมจะกลับมาได้อีกครั้ง แค่คิดเท่านั้นของจริงเป็นอย่างไรอีกเรื่องหนึ่ง

โรบิน ฟาน เพอร์ซี่...

ไม่เพียงแค่กดแฮตทริกได้ในนัดปืนโตถล่มแบล็คเบิร์นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่าโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยังทำสถิติยิงไป 22 ประตูหลังจากผ่านไป 24 นัดในฤดูกาลนี้ เรียกได้ว่าเซ็นชื่อจับจองรางวัลดาวซัลโวเอาไว้แล้ว

ส่วนการตอกย้ำเรื่องราวพื้นฐานของทีมในฤดูกาลนี้คือโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ยังคงเป็นเจ้าเก่าเจ้าเดิมกับความคาดหวังเรื่องของการปิดสกอร์ให้กับทีม

ปีก...ปีก...ปีก...

ตัวริมเส้นที่จะเป็นตัวรุกสร้างความวูบวาบให้กับเกมของทีมชาติอังกฤษค่อนข้างมีชื่อให้ฟาบิโอ คาเปลโล่ เลือกอยู่หลายชื่อไม่ว่าจะเป็นสจ๊วร์ต ดาวนิ่ง,แอชลีย์ ยัง,อารอน เลนน่อน,ธีโอ วัลค็อตต์หรืออดัม จอห์นสัน

ทว่าชื่อของอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน กำลังสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลที่ได้เห็นฟอร์มการเล่น รวมไปถึงแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ของเชลซี เข้าตาจริงๆ ถ้าพิสูจน์ได้ชัดเจนกับโปรแกรมที่เหลืออยู่ว่าสามารถสร้างความแตกต่างให้กับเกมได้ดีกว่ามีลุ้นยูโร 2012 ทันที

สุดยอดแมตช์ประจำสัปดาห์...

น่าจะต้องยกให้กับเกมที่เชลซีเสมอกับผีแดง 3-3 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากที่เชลซีขึ้นนำก่อนถึง 3 ประตู จากการทำเข้าประตูตัวเองของจอนนี่ อีแวนส์ ตามด้วยการวอลเลย์ของฆวน มาตาและดาวิด หลุยซ์ โหม่งให้นำห่าง 3 ประตู

ทว่าผีแดงไม่ยอมตายซ้ำสอง จุดโทษ 2 ประตูของเวย์น รูนี่ย์ โดยปาทริซ เอวร่าและแดนนี่ เวลเบ็ค โดนทำฟาวล์ ก่อนที่ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ จะโขกแบ่งแต้มได้ในที่สุด

หลังเกมกุนซือบ่นกันไปคนละทางตามประสาของทีมที่เสียประโยชน์และได้ประโยชน์ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับจุดโทษ ว่ากันไปแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้

ดาวิด เด เกอา...

ยังคงมีความผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของการตัดลูกโด่งความมั่นใจก็เป็นปัญหาเหมือนเดิมเช่นกัน เป็นเส้นทางที่ยาวไกลและขรุขระไม่น้อยสำหรับคนเฝ้าเสาชาวสเปนของผีแดงคนนี้

อย่างไรก็ตามที การปฏิเสธลูกฟรีคิกของ ฆวน มาตา ในช่วงทดเจ็บนั้นสุดยอดมากๆ ทำให้ทีมสามารถลุกขึ้นมาแบ่งแต้มได้ เรียกขวัญและกำลังใจของดาวิด เด เกอา กลับมาไม่น้อย

ฆวน มาตา...

ต้องหยิบยกเอาจังหวะวอลเลย์ตุงตาข่ายของฆวน มาตา มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกมของเชลซีมายกย่องกันหน่อย สวยงามทีเดียว ยิงยากคอนโทรลบอลให้มันลิ่วเข้ากรอบไม่ใช่เรื่องธรรมดา

โดยคนที่เปิดมาให้ก็คือเฟร์นานโด ตอร์เรส น่าเสียดายที่จังหวะยิงฟรีคิกช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่แทบจะใส่สกอร์รอได้เลยถูกดาวิด เด เกอา พุ่งเซฟด้วยปลายนิ้วเอาไว้ได้

แดเนียล สเตอร์ริดจ์...

นอกจากจังหวะที่เฟร์นานโด ตอร์เรส แทงบอลผ่านจอนนี่ อีแวนส์ ได้แล้วแต่ไม่ตัดสินใจยิง เลือกที่จะล็อกอีกหนึ่งจังหวะโดยไม่รู้ว่าตัวหลังตามมาช่วยประกบอีกคนเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งแล้ว

อีกประเด็นสำคัญที่แฟนบอลเชลซีอดกังขาไม่ได้นั่นก็คืออังเดร วิลลาส โบอาส เปลี่ยนตัวแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ออกจากสนามโดยส่งออริโอล โรเมอู ลงไปแทน เหมือนจะเด่นชัดว่าขอเซฟสกอร์ที่เป็นอยู่และนั่นก็เปิดไฟเขียวให้กับเฟอร์กี้และลูกทีมเต็มที่

ปาทริซ เอฟร่า ซึ่งได้ใบเหลืองอยู่แล้ว ต้องมีปัญหาต่อเนื่องแน่ถ้าสเตอร์ริดจ์ยังคงอยู่ในสนาม การตัดสินใจของกุนซือบางครั้งมันก็คือดาบสองคม ทำได้อย่างใจก็ดีไป แต่ถ้าไม่เดือดร้อนได้เช่นกันเฟอร์กี้ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสผ่านไปเด็ดขาด

จังหวะนั้นโบอาสต้องการปิดตรงกลางอย่างเดียว ปล่อยให้เกมริมเส้นของผีแดงกดดันได้ทั้ง 2 ข้างเพราะไม่มีใครคอยกดดันการเติมของแบ็กทั้ง 2 ข้างเอาไว้เมื่อไม่มีสเตอร์ริดจ์อยู่ในทีมไรอัน กิ๊กส์ และปาทริซ เอฟร่า เติมเกมริมเส้นกันอย่างสบายใจ

ขณะที่อีกฟากหนึ่งนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว มาลูด้าหมดสภาพที่จะสร้างความกดดันให้เกมรับของผีแดงได้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ถอยไปเล่นแบ็กขวาตอนที่เฟอร์กี้เปลี่ยนเอาพอล สโคลส์ ลงมา ทว่าวาเลนเซียก็เติมเกมริมเส้นทางฝั่งของมาลูด้าได้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

พอล สโคลส์และไรอัน กิ๊กส์...

อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า ถ้าช่วงเวลาที่เชลซีนำอยู่ 3 ประตูนั้น มีดิดิเยร์ ดร็อกบา,จอห์น เทอร์รี่และแฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งประสบการณ์เพียบอยู่ในทีมอย่างพร้อมหน้าแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ในทางกลับกัน ถ้าผีแดงไม่มีไรอัน กิ๊กส์และพอล สโคลส์ ที่เปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง คอยสร้างจังหวะการโหมเข้าใส่ให้กับรุ่นน้องๆ จะสามารถตามเชลซีได้ทันหรือเปล่า ประสบการณ์ของทั้ง 2 คน ยังคงช่วยทีมได้อยู่

เดมบ้า บา...

หัวหอกของนิวคาสเซิลกลับมาใส่ชื่อตัวเองเป็นคนปิดสกอร์ให้กับทีมอีกครั้งหลังจากเสร็จภารกิจของตัวเองในทีมชาติ มีกังวลกันเล็กๆก่อนเกมว่า เดมบ้า บา จะเสียจังหวะการยิงประตูไปหรือเปล่า เพราะต้องหยุดการรับใช้สโมสรเพื่อไปเล่นให้ทีมชาติในช่วงที่ฟอร์มการยิงประตูกำลังต่อเนื่อง

ยังไงก็ยังคงอยู่กับประตูของเดมบ้า บา ศูนย์หน้าที่ทำประตูได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการโหม่ง การยิงจุดโทษ ยิงไกลนอกกรอบเขตโทษ หรือการชาร์จบอลจ่อๆหน้าประตู ชื่อของบาน่าจะสร้างความปวดกบาลให้กับบรรดากองหลังทีมอื่นๆได้เป็นอย่างดี

บ็อบบี้ ซาโมร่า...

แม้ว่าคิวพีอาร์ จะพ่ายในบ้านตัวเองให้กับวูล์ฟส์ แต่การดึงตัวบ็อบบี้ ซาโมร่า มาร่วมทีมของมาร์ค ฮิวจ์ส สามารถตอบสนองความต้องการได้ทันที นั่นคือสกอร์แม้จะไม่เพียงพอต่อการมีแต้มก็ตาม

ซาโมร่า พิสูจน์อีกครั้งหนึ่งว่ายังคงมีความหมาย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม มาร์ติน โยล กุนซือฟูแล่ม ถึงยอมปล่อยศูนย์หน้าของทีมออกมา แถมยังปล่อยให้กับคู่แข่งที่จะต้องแย่งกันอยู่ให้พ้นพื้นที่อันตรายเบื้องล่าง

แต่ในอีกนัยหนึ่งก็คงบอกได้ว่าปัญหาระหว่างมาร์ติน โยลกับบ็อบบี้ ซาโมร่า เกินกว่าจะเยียวยาได้

ฌิบริล ซิสเซ่...

การโดนไล่ออกจากสนามของ ฌิบริล ซิสเซ่ ในครึ่งแรกของการแข่งขัน ส่งผลกระทบต่อเกมของคิวพีอาร์ที่ขึ้นนำวูล์ฟส์ไปก่อนแบบเต็มๆ เพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ หลังจากโดนโรเจอร์ จอห์นสัน กองหลังวูล์ฟส์เข้าเสียบแบบน่ากลัว

ซิสเซ่พุ่งเข้าไปกระชากคอเสื้อบีบคอจอห์นสันจนทำให้ผู้ตัดสินต้องควักใบแดงออกมาแจ้งโทษ ที่แสดงพฤติกรรมแบบนั้น ผลสุดท้ายคิวพีอาร์พ่ายไปอย่างน่าเสียดายในบ้านตัวเอง

ส่วนอาการเบรกแตกของซิสเซ่ คำขอโทษของแกก็มีเหตุมีผลเช่นกัน เพราะเคยผ่านนาทีแห่งความเจ็บปวดแข้งขาหักกันมาแล้ว ย่อมแหยงและกังวลกับการเข้าบอลที่รุนแรงของคู่ต่อสู้จนต้องออกอารมณ์เดือดแบบนั้น

นอริช...

เป็นผลงานที่พอล แลมเบิร์ต และลูกทีมนอริช ควรได้รับคำชมอีกครั้ง หลังจากต้องเสีย 2 เซ็นเตอร์แบ็กไปในครึ่งแรกของเกม แต่ก็ยังสามารถรับมือโบลตันผ่านมาได้แบบสวยงาม ฝีมือของแลมเบิร์ตเหมือนกับคุ้นเคยและคลุกคลีอยู่ในพรีเมียร์ ลีก มานาน

ฤดูกาลนี้ทีมน้องใหม่ต่างเดินหน้าได้ดี โดยเฉพาะนอริชที่มีพอล แลมเบิร์ต เป็นกุนซือ รวมทั้งสวอนซีที่เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ได้รับคำชมมากมายกับสไตล์การทำทีม นาทีนี้ 2 น้องใหม่ติดแน่นอยู่กลางตาราง ในขณะที่คิวพีอาร์อาจจะต้องดิ้นรนมากกว่าหน่อย

อย่างไรก็ตามที ฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่าความเป็นไปได้ที่ทีมเพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาทั้ง 3 ทีม จะอยู่รอดในพรีเมียร์ ลีก ได้ทั้งหมด โอกาสมันเป็นแบบนั้นจริงๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook