ศึกผ่าเมือง! เมื่อ "แมนเชสเตอร์" ลุ้นท็อปโฟร์!

ศึกผ่าเมือง! เมื่อ "แมนเชสเตอร์" ลุ้นท็อปโฟร์!

ศึกผ่าเมือง! เมื่อ "แมนเชสเตอร์" ลุ้นท็อปโฟร์!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คืนวันพฤหัสบดีนี้ ศึก “แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้” ถือเป็นเกมสำคัญของการลุ้นตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า

สถานการณ์ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีแต้มมากกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด 1 คะแนน จากการลงแข่งเท่ากัน 32 นัด และผลแข่งเกมนี้ มันกระทบถึงลิเวอร์พูลด้วย

เชื่อว่าพลพรรคเดอะ ค็อป ต่างก็เชียร์ให้ “เรือใบสีฟ้า” เป็นผู้ชนะ เพื่อหยุดแต้ม “ปีศาจแดง” ไม่ให้ทำแต้มไล่จี้ “หงส์แดง” อย่างกระชั้นชิด

แต่ตรงกันข้าม ถ้าทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกิดเสมอ หรือแพ้ขึ้นมา ทีมสีแดงแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์นี่แหละครับที่จะเดือดร้อน

เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมของโจเซ่ มูรินโญ่ ทำแต้มแซงขึ้นไป ด้วยเกมตกค้างที่อยู่ในมืออีก 1 นัด ช่วงประมาณกลางเดือนพฤษภาคม

ซึ่งในวันนี้ ผมจะนำ 2 ทีมคู่แค้นแห่งแมนเชสเตอร์ มาเปรียบมวยกันแบบ “ปอนด์ต่อปอนด์” ว่า ใครจะเหนือกว่าใคร ไปติดตามกันได้เลย

ผู้รักษาประตู

 aa

ซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ “เรือใบสีฟ้า” สั่งซื้อ เคลาดิโอ บราโว่ เข้ามา ด้วยเหตุผลที่ว่า สามารถเล่นบอลด้วยเท้าได้ดี แต่เอาเข้าจริงๆ อดีตจอมหนึบบาร์ซ่า กลับทำผิดพลาด สร้างความครื้นเครงให้กองเชียร์คู่แข่งแบบไม่น่าเชื่อ

ยูไนเต็ด

มีบางคนบอกว่า ฤดูกาลนี้อาจจะไม่ใช่ฤดูกาลที่ดีนักของ ดาบิด เด เคอา แต่การทำคลีนชีตครบ 100 นัด ด้วยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก ก็แสดงให้เห็นว่า เขายังเป็นหนึ่งในจอมหนึบที่ดีที่สุดคนหนึ่งของวงการ

เทียบฟอร์มกันแล้ว เด เคอา ดูดีกว่า ได้คะแนนไปในตำแหน่งนายทวาร : สีฟ้า 0-1 สีแดง

กองหลัง

 n

ซิตี้

วิงแบ็กฝั่งขวา เฆซุส นาบาส โดดเด่นทั้งการป้องกัน และการทำเกมรุก ทำได้ดีเหมือนสมัยอยู่กับเซบีญ่า ส่วนด้านซ้ายอย่าง กาแอล กลิชี่ ฟอร์มปีนี้ดร็อปลงไปบ้าง ด้วยอายุที่มากขึ้น

ด้านปราการหลังคู่กลาง นิโคลัส โอตาเมนดี้ ซีซั่นนี้ โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าซีซั่นที่แล้วมาก แต่จุดอ่อนคือเชื่องช้า ส่วน แว็งซองต์ กอมปานี ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน น่าสงสัยว่าจะรับมือกับกองหน้าคู่แข่งไหวหรือไม่

ยูไนเต็ด

ในตำแหน่งฟูลแบ็ก ด้านขวาอย่าง อันโตนิโอ วาเลนเซีย ทำได้ดีทั้งรุกและรับ ยึดตำแหน่งตัวจริงได้แน่นอน ขณะที่ฝั่งซ้าย มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน เป็นตัวเลือกที่ดูดีกว่าลุค ชอว์ แค่เล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่เซ็นเตอร์แบ็ก เอริก ไบยี่ มาร่วมทีมฤดูกาลแรก ถือว่าฟอร์มดีทีเดียว แม้ว่าจะประสบปัญหาบาดเจ็บ และต้องไปช่วยชาติในแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ส่วนคู่หูอย่าง ดาลี่ย์ บลินด์ มีทีเด็ดตรงที่สามารถอ่านเกมคู่แข่งได้เป็นอย่างดี

ด้วยแท็กติกที่รัดกุม เสียประตูยาก ของโจเซ่ มูรินโญ่ ทีมเยือนจึงได้คะแนนส่วนนี้ไป : สีฟ้า 0-2 สีแดง

กองกลาง

 hh

ซิตี้

ผู้เล่นปีกอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ฟอร์มปีนี้ อาจจะตกลงไปบ้าง แต่ก็ยังมีส่วนกับเกมรุกของทีมอยู่ ขณะที่อีกข้าง เลรอย ซาเน่ ถูกดึงเข้ามาช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้หลากหลายมากขึ้น

มาดูมิดฟิลด์ตัวกลาง เฟอร์นันดินโญ่ เป็นห้องเครื่องคนสำคัญที่ทีมขาดไม่ได้ คนต่อมา ยาย่า ตูเร่ มักจะเล่นได้ดีเวลาเจอกับเกมใหญ่ และ ดาบิด ซิลบา ที่มักจะสร้างความปั่นป่วนให้เกมรับคู่แข่งได้ไม่น้อย

ยูไนเต็ด

ในตำแหน่งปีก อ็องโตนี่ มาร์กซิยัล ผลงานปีนี้ผีเข้าผีออก ไม่ค่อยสม่ำเสมอ อาจจะต้องใช้เจสซี่ ลินการ์ดแทน ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เฮนริค มคิทาร์ยาน ปีนี้โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น และมักจะยิงประตูสำคัญๆให้ทีมอยู่บ่อยครั้ง

ขณะที่มิดฟิลด์ตัวกลาง ปอล ป็อกบา ถ้าตัดประเด็นเรื่องค่าตัวแพงออกไป เขาเป็นนักเตะที่สร้างโอกาสให้เพื่อนยิงประตูได้มากมาย คนต่อมา อันเดร เอร์เรร่า ครบเครื่องแถมมีลูกขยัน และ มารูยาน เฟลไลนี่ มีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศ

แผงกองกลางของทั้งสองทีม สูสีสุดๆ น่าให้เสมอกัน แต่ฝั่งเจ้าบ้านดูดีกว่าเล็กน้อย : สีฟ้า 1-2 สีแดง

กองหน้า

 v

ซิตี้

เซร์คิโอ อเกวโร่ นับเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลกของวงการลูกหนัง ถึงแม้ว่าในฤดูกาลนี้ ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า อาจจะไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด แต่กองหลังเร้ด เดวิลส์ ก็ไม่ควรประมาทด้วยประการทั้งปวง

ยูไนเต็ด

มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูได้ใน 2 นัดหลังสุด กับเชลซี และอันเดอร์เลชท์ ถือว่าเรียกความมั่นใจกลับมาได้ในระดับหนึ่ง และเป็นผู้ยิงประตูชัยที่เอติฮัดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งแฟนผีต่างหวังว่า จะทำแบบนั้นให้ได้อีกครั้งในคืนนี้

เรื่องการยิงประตู กุน อเกวโร่ เนี้ยบกว่าหนูแรชอยู่พอสมควร เป็นคะแนนของเจ้าบ้าน : สีฟ้า 2-2 สีแดง

ผู้จัดการทีม

 vv

ซิตี้

จากผู้คิดค้นการเล่นแบบ Tiki-Taka สร้างชื่อโด่งดังให้กับบาร์เซโลน่า แต่ผลงานในการคุมทีม “เรือใบสีฟ้า” ในฤดูกาลแรก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คงจะรู้ซึ้งในรสพระธรรมแล้วว่า ที่นี่คืออังกฤษ ไม่แกร่งจริง อยู่ไม่ได้

และด้วยความที่นิสัยของเขา เป็นคนที่หัวดื้อ มั่นใจในตัวเองสูงเกินไป แถมเป็นคนที่ยึดติดกับความสมบูรณ์แบบอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลย ที่เขาจะพาทีมล้มเหลวในซีซั่นนี้

ยูไนเต็ด

ฤดูกาลแรกกับ “ปีศาจแดง” ของ โจเซ่ มูรินโญ่ ในการกู้ซากปรักหักพัง หลังจากหมดยุคของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถือว่ายังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าจะพยายามปรับปรุงทีมอย่างถึงที่สุดแล้วก็ตาม

แต่เขาเป็นโค้ชที่มีความยืดหยุ่น พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนแท็กติกตามสถานการณ์ ซึ่งการทำทีมเน้นความรัดกุม เสียประตูยาก คืองานถนัดของเขาเลย

ด้วยประสบการณ์ที่คลุกคลีกับสไตล์ลูกหนังเมืองผู้ดีที่มากกว่า มูรินโญ่จึงได้คะแนนนี้ไป : สีฟ้า 2-3 สีแดง

สรุปคะแนน ฝ่ายแดง เฉือนชนะฝั่งฟ้า หวุดหวิด 3-2 แต่นี่คือการวิเคราะห์บนหน้ากระดาษเท่านั้น ส่วนเมืองแมนเชสเตอร์ในคืนนี้ จะเป็นสีอะไร ไปลุ้นกันเอาเองครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook