เกือบตาย!! มุ้ยโขกตีเจ๊าไทยเสมอมาเล 1-1

ทีมชาติไทย เกือบสิ้นชื่อในแดนเสือเหลือง แต่ยังได้ ธีรศิลป์ แดงดา โขกตีเสมอ มาเลเซีย 1-1 ในช่วงท้ายเกม ต้องไปลุ้นกันต่อนัดที่ 2 วันที่ 13 ธ.ค. ที่สนามศุภฯ

มาเลเซีย  1 - 1  ทีมชาติไทย

ศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2555 เวลา 19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย ที่สนามบูกิต จาลิล สเตเดี้ยม ประเทศมาเลเซีย เป็นการพบกันระหว่าง "เสือเหลือง" มาเลเซีย ทีมอันดับ 2 ของสายบี พบกับ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 1 ของสายเอ

ก่อนเกมในช่วงค่ำก่อนวันแข่งขัน ทัพนักเตะทีมชาติโดนป่วนอย่างหนัก โดยทุกคนโดนโทรศัพท์ลึกลับโทรไปป่วนที่ห้องพักตั้งแต่ตี 3 แถมในช่วงเช้ามืดยังโดนมือตีบุกไปเคาะประตูห้องเกือบทุกคน ทำให้นักเตะไทยหลายคนพักผ่อนไม่เพียงพอ

ในช่วงเย็น เอกอัคราชฑูตไทยประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ "กฤต ไกรจิตติ" ได้เดินทางเข้าให้กำลังทัพนักเตะทีมชาติไทยที่โรงแรมที่พัก โดยท่านทูตบอกให้เล่นเต็มที่เพื่อคน ไทยทั้งชาติ ส่วน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่ก่อนหน้านี้ประกาศอัดฉีด 2 ล้านบาทหากไทยได้เข้าชิงฯ ก็รุดให้กำไลังใจนักเตะ เช่นเดียวกับ ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผจก.ทีมชาติไทย ที่บอกให้นักเตะทุกคนเล่นกันอย่างสุดความสามารถและเป็นห่วงเรื่องฝนตกจะทำให้รูปเกมที่วางแผนมาต้องเปลี่ยนไป

โดยสภาพอากาศที่ประเทศมาเลเซียในวันแข่งขัน ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักตลอดตั้งแต่เที่ยง จนถึงเวลาแข่งขันก็ยังคงตกอยุ่แต่เพลาลงไป ทำให้สภาพสนามค่อนข้างแฉะไปด้วยน้ำขัง ส่วนบรรยากาศแฟนบอล กองเชียร์มาเลเซียหลายหมื่นคนได้เข้ามามาชมเกมนัดนี้จนเกือบเต็มความจุ 8 หมื่นที่นั่ง ทำให้เสียงเชียร์ที่สนามบูกิต จาลิล สเตเดี้ยม ดังกึงก้องกังวานไปไกลหลายกิโลเมตร ส่วนกองเชียร์ชาวไทยก็มีเดินทางตามมาให้กำลังใจจากประเทศหลายสิบคน เมื่อรวมกับคนไทยในมาเลเซียก็มีประมาณเกือบ 2 ร้อยคน

เกมนี้ ราชาโกปาล กุนซือจอมเก๋าของมาเลเซีย ส่งทีมชุดใหญ่ลงสนาม นำโดย มูด บุนยามิน, โมฮาหมัด ซาฟูน, ซาฟี่ ราฮิม กัปตันทีม, และ นอร์ชารุล อิดลาน กองหน้าตัวเก่ง ส่วนทางด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกัน โดยมี กวิน ธรรมสัจจานันท์ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง 4 คนจากขวา ปิยพล บรรเทา, ชลทิตย์ จันทคาม, ภานุพงษ์ วงศ์ษา กัปตันทีม, ธีรทร บุญมาทัน, กองกลาง 3 คน อดุล หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดัสกร ทองเหลา, ปีกขวา จักรพันธ์ พรใส, ปีกซ้าย อนุชา กิจพงษ์ศรี, กองหน้าตัวเป้า ธีรศิลป์ แดงดา

เริ่มเกม มาเลเซีย ทำได้ดีกว่า และพับสนามบุกเข้าใส่ ทีมชาติไทย แต่จังหวะสุดท้ายยังหาโอกาสยิงไม่ได้ จนมาถึง น.11 กลับเป็นทีมชาติไทยที่ได้เสียวก่อนเมื่อ อดุล หละโสะ ได้จังหวะยิงไกลเกือบ 30 หลา บอลพุ่งแรงทำท่าจะเสียบเสาสอง แต่ มูด ฟาริซัล นายทวารเจ้าถิ่นยังกระโดดไปปัดทิ้งออกหลังไว้ได้ทัน

เกมดำเนินมาถึงน.20 มาเลเซียเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ  มูด บุนยามิน โยนบอลจากแดนของตัวเองมาในเขตโทษของไทย มูด อคิล วิ่งทะลุขึ้นมาโหม่งที่เสาสอง แต่โดนบอลไม่ภนัด ทำให้ลูกหลุดออกหลังไป

น.26 ทีมไทยเกือบขึ้นนำเมื่อ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ได้จังหวะสับไกบริเวณหัวกะโหลก บอลพุ่งไปแฉลบขากองหลังมาเลเซียก่อนเปลี่ยนทาง แต่สุดท้ายดันเฉี่ยวเสาสองออกหลังนิดเดียว ทว่ากรรมการชาวอิหร่านกลับไม่ให้ลูกเตะมุมกับทีมไทย ทำให้ วินฟรีด เชเฟอร์ หัวเสียพอสมควร

น.30 ทีมชาติไทยยังเป็นฝ่ายได้ลุ้นเมื่อ ดัสกร ทองเหลา จ่ายบอลตามช่องให้ ธีรศิลป์ แดงดา หลุดเข้าถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนที่ "เจ้ามุ้ย" จะเปิดเข้ากลางหวังให้ จักรพันธ์ พรใส เข้าชาจจ์ แต่ มูด ฟาริซัล นายทวารมาเลเซีย ยังพุ่งมาตัดบอลได้ทัน

น.34 มาเลเซียได้ลุ้นบ้างเมื่อมาได้ฟรีคิกริมเส้น ฝั่งซ้าย ซาฟี ราฮิม วิ่งมากดเต็มหลังเท้า บอลพุ่งแรงปานจรวด ทำท่าจะเสียบเสาแรก แต่ทีมไทยได้ กวิน ธรรมสัจจานันท์ บินไปเซฟไว้ด้วยปลายนิ้วช่วยชีวิตไว้ได้

ท้ายครึ่งแรก น.45 มาเลเซียเกือบขึ้นนำเมื่อ บัดโดรล บัคเทียร์ โยนบอลจากฝั่งซ้ายไปหน้าประตูทีมไทย นอร์ชารุล อิดลาน กองหน้าตัวเก่งวิ่งเข้าเข้าชาจจ์ แต่ถูก ชลทิตย์ จันทคาม กองหลังทีมไทย เข้าบล็อคไว้ได้ในจังหวะสุดท้าย จบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังเสมอกัน 0-0

เริ่มครึ่งหลัง ทีมชาติไทย เปลี่ยนตัว 1 คน โดยถอด ธีรทร บุญมาทัน ที่มีใบเหลืองออก และส่ง สมปอง สอเหลบ ลงมาแทน โดยเริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที สนามบูกิต จาลิล ก็แทบแตกเมื่อ มาเลเซีย มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ มาฮาลลิ จาซุลี กระชากบอลไปทางกราบขวา ก่อนจะเปิดเข้ามาหน้าประตู และเป็น นอร์ชารุล อิดลาน กองหน้าตัวเก่งของเจ้าถิ่น ที่โฉบมาโหม่งบอลตกพื้นลอดมือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ เข้าไป มาเลเซีย ขึ้นนำ 1-0

หลังโดนยิง ทีมชาติไทย แก้เกมโดยส่ง อภิภู สุนทรพนาเวศ ลงมาแทน อดุล หละโสะ เพื่อเน้นเกมรุกมากขึ้น และในน.66 อภิภู ก็เกือบทำให้ทีมชาติไทยได้เฮเมื่อได้จังหวะหวดไกลกว่า 30 หลา บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่ มูด ฟาริซัล นายทวารเจ้าถิ่นยังปัดทิ้งออกไปได้

ทีมชาติไทยยังบุกต่อเนื่อง น.76 "วินนี่" ส่ง กีรติ เขียวสมบัติ ลงมาแทน ดัสกร ทองเหลา และเมื่อเกมมาถึง น.79 ความพยายามของทีมไทยก็เป็นผลเมื่อ ปิยพล บรรเทา โยนบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษ ธีรศิลป์ แดงดา กระโดดขึ้นโหม่งเหนือเต็มศีรษะ บอลพุ่งเสียบหน้าต่างเสาสองเข้าประตูไป ทีมชาติไทย ตามตีเสมอ 1-1

น.81 วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยต้องถูกไล่ให้ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ เนื่องจากกรรมการชาวอิหร่านมองว่าออกมาเขตเทคนิคบ่อยครั้ง

มาเลเซียพยายามบุกหนักหวังยิงขึ้นนำ อีกครั้ง น.88 มูด ซาฟี ได้จังหวะโหม่งจ่อๆ แต่ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ยังเซฟไว้ได้ จากนั้น น.90 นอร์ชารุล อิดลาน ได้บอลหลุดเดี่ยว แต่จังหวะยิงถูก ภานุพงษ์ วงศ์ษา ตามมาสกัดได้ทัน ทำให้ จบเกม มาเลเซีย เสมอ ทีมชาติไทย 1-1 ต้องไปลุ้นกันต่อนัดที่ 2 ในประเทศไทย วันที่ 13 ธันวาคม 2555 สนามศุภชลาสัย เวลา 19.00 น.

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
มาเลเซีย : มูด ฟาริซัล(GK), มาฮาลลิ จาซุลี, มูด บุนยามิน(โมฮัมเหม้ด ซูเบีย น.86), โมฮาหมัด ซาฟูน, ซาฟี ราฮิม, นอร์ชารุล อิดลาน, อมาร์ โรฮิดาน(มูด ซาฟี่ น.74), แกรี่ สตีเฟ่น, มูด อคิล, บัดโดรล บัคเทียร์(คุนานลาน ซับรามาเนียม น.74), โมฮาหมัด ฟัดลี

ทีมชาติไทย : กวิน ธรรมสัจจานันท์(GK), ปิยพล บรรเทา, ชลทิตย์ จันทคาม, ภานุพงษ์ วงศ์ษา, ธีรทร บุญมาทัน(สมปอง สอเหลบ น.46), อดุล หละโสะ(อภิภู สุนทรพนาเวศ น.60), พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ดัสกร ทองเหลา(กีรติ เขียวสมบัติ น.76), จักรพันธ์ พรใส, อนุชา กิจพงษ์ศรี, ธีรศิลป์ แดงดา


หลังเกมการแข่งขัน
วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ออกมากล่าวว่า “ครึ่งแรกเราเสียบอลง่ายไปหน่อยแต่ครึ่งหลังเราแก้เกมกลับมาแล้วทำผลงานได้ ดีขึ้น จนมาได้ประตูตีเสมอซึ่งถือเป็นผลดี เนื่องจากเกมนัดหน้าเราจะได้กลับมาเล่นในบ้าน จึงอยากจะฝากแฟนบอลชาวไทยทุกคนเข้ามาชมเกมในนัดที่สอง เพื่อที่จะก้าวไปสู่นัดชิงและคว้าแชมป์ให้ได้ตามเป้าหมาย ส่วนในเรื่องผู้ตัดสินไม่ขอพูดถึง”

ราชาโกลปาล กุนซือใหญ่ทีมชาติมาเลเซีย ออกมากล่าวว่า “ผลเสมอนัดนี้ไม่เสียหาย แต่ขอติเหล่านักเตะที่เสียสมาธิง่ายจนเกินไปจนโดนตีเสมอแบบไม่น่าเสีย ซึ่งผมยังมั่นใจว่าเกมหน้าเราจะบุกไปชนะทีมชาติไทยพร้อมกับผ่านเข้าชิงได้ สำเร็จ”

แฟนไทยโดนพลุเจ้าถิ่นหล่นใส่ โชคดีเจ็บเล็กน้อย
นอกจากนี้หลังเกมการแข่งขันยังเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน โดยผู้สื่อข่าวภาคสนามรายงานว่ามีแฟนฟุตบอลชาวไทยรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บจากการโดนพลุของกองเชียร์ฝั่งเจ้าถิ่นที่ตกลงมาจากอัฒจันทร์ แต่ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว