พรีเมียร์ลีกสุดพิลึก

ปกติฟุตบอลอังกฤษมักจะมีอะไรให้พูดถึงเสมอ ๆ อยู่แล้ว
           
ยิ่งเกมจากวันเสาร์ที่ผ่านมา มีให้พูดถึงอีกมากมาย โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นของแต่ละทีมที่เป็นทีมใหญ่ที่ลงสนามพร้อมๆ กันทั้งหมด

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประคองสถานการณ์และประคองรูปร่างจนผ่านเข้าเส้นชัยได้สำเร็จ ทั้งที่เล่นได้ไม่ดีอีกนัด แต่สำหรับ 3 คะแนนแล้ว
           
พวกเขาทำได้ดีเสมอๆ
           
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูฝืดๆ ลงไปบ้าง แต่สุดท้ายก็เอาชนะไปได้ ทั้งที่ถูกท้าทายสมาธิและความสามารถในช่วงท้ายเกม
           
ลิเวอร์พูล บุกไปชนะถิ่นที่เคยๆ อย่าง เดอะ ฮอว์ธอร์น หลังจากหลายคนห่วงจากผลงานที่นี่เมื่อปีที่แล้ว แต่ก็มีจุดโทษปริศนา กับ เรื่องราวของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ให้ได้ขบคิดกัน
           
ยิ่งไปกว่านั้น ชัยชนะท่ามกลางการยิงประตูกันแบบไฟแลบ ในเกมที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พังคาบ้านให้กับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ถึง 3-5
         
มองจากสกอร์ที่เกิดขึ้นจากคู่นี้ น่าจะเห็นอะไรบางอย่างในเกมรับไม่ใช่ เชลซี เท่านั้น อาร์เซนอล ก็เหมือนกัน
           
อาร์เซนอล น่าสนใจอย่างมากว่า อาร์แซน เวนเกอร์ พูดอะไรกับลูกทีมในช่วงพักครึ่ง และกลับมาอย่างห้าวหาญ พลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 1-2 กลับมาคว้าชัยได้สำเร็จ ทั้งที่เกมรับของทีมนั้นมีปัญหา
           
โยฮัน ฌูรู บ่อน้ำมันตัวจริงถูกส่งมาเล่นเป็นแบ็กขวา และโดนไล่ขยี้ตลอดทั้งเกมกระทั่งต้องส่ง คาร์ล เจนกินสัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้เรื่องอยู่แล้ว ลงมาเล่นดีกว่า
           
แล้วมันก็ดีกว่าจริง ๆ
           
ขณะที่ เชลซี ตอนนี้ต้องถามแล้วว่า แบ็กโฟร์ของพวกเขานั้นดีพอหรือไม่ และ ปีเตอร์ เช็ก กับ จอห์น โอบี มิเกล ทำอะไรอยู่ในเกมนี้
           
โอบี มิเกล เชื่องช้าและไม่สามารถเบรกเกมหรือว่าจะดีเลย์เกมใครได้เลย ทำให้บอลถึงกองหลังโดยตลอด
           
ขณะที่ ปีเตอร์ เช็ก อาจจะโดนยิงแบบล่อเป้าบ้าง แต่เกมนี้อย่างน้อย ๆ การยืนตำแหน่งของเขานั้นเห็นชัดเลยว่า แย่ลงไปมาก
         
ก่อนที่ “ซีน”ทั้งหมดของเกมจะถูกขโมยไปโดย จอห์น เทอร์รี่ ที่รีบกลับตัวจนหัวทิ่ม เมื่อ ฟลอร็องต์ มาลูด้า จ่ายบอลแบบงี่เง่าที่สุดอีกครั้งในชีวิตของเขา ทำให้เสียประตูที่ 4 และประตูที่ 7 ของเกมนี้เป็นการตัดสินเกม
           
สุดท้ายแฮตทริกของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำให้ อาร์เซนอล ชนะและถูกยกย่องว่า พวกเขาสามารถกลับมาได้แล้ว หลังจากเริ่มต้นซีซั่นอย่างเลวร้าย

ใช่ครับตอนนี้หลายต่อหลายทีมชื่อดัง ต่างเจอกับเกมและช่วงที่แสนจะเลวร้ายมาแล้วแทบจะทั้งนั้น
           
อาร์เซนอล โดนยิงกระจุยถึง 8 ลูกในการเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด ห่วยสุดในรอบกว่าครึ่งศตวรรษ
         
แมนฯยูไนเต็ด พ่ายยับให้กับ แมนฯซิตี้ 1-6 ยับสุดในบ้านรอบ 85 ปี
           
ลิเวอร์พูล หมดสภาพในการแพ้ให้กับ สเปอร์ส 4 ลูก
           
สเปอร์ส สตาร์ตด้วยการโดนยิงไส้แตกถึง 8 ลูกด้วยพิษแข้งจากสองทีมแห่งแมนเชสเตอร์
           
ล่าสุดเป็น เชลซี ที่แหลกละเอียดเหลือเชื่อในถิ่นของตัวเอง
           
ไม่รู้ว่า “โควตา”อันนี้ถูกแบ่งสันปันส่วนไปครบแล้วหรือยัง ถ้ายังก็จะเหลือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยังไม่โดนสถานการณ์หรือเกมอันเลวร้ายเล่นงาน
           
ไม่รู้จะโดนวันไหนเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ พรีเมียร์ลีกปีนี้มันเหลือเชื่อจริงๆ และมั่นใจเหลือเกินว่า เชลซี จะไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย
           
กับเกมอันเลวร้ายแห่งซีซั่น!

เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"

คอลัมน์ may i come in please นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์