กิเลนขายมุ้ยหลังจบซีซั่นหากได้ค่าตัว 200 ล.เจลีกร่วมแจมด้วย

ความเคลื่อนไหวของทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับกรณี ทีมแทร็ปซอนสปอร์ สโมสรในลีกสูงสุดของตุรกี สนใจดึงตัว “เจ้ามุ้ย” ไปค้าแข้งกับทีม ล่าสุดทางด้าน “บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ทางสโมสรยอมรับว่า มีการติดต่อทาบทามกับตัวนักเตะจริง

โดยนอกจากทีมจากตุรกีแล้ว ยังมีทีมในเจลีก ญี่ปุ่น  สนใจคว้าตัวยอดกองหน้าอันดับหนึ่งของเมืองไทย ไปร่วมทีม แต่คงเป็นไปได้ยากที่จะปล่อยตัวไปในฤดูกาลนี้

พร้อมไม่ปิดโอกาส เพื่อความก้าวหน้าของตัวนักเตะในอนาคต ก็ยินดีรับข้อเสนอจากทีมต่างๆ ซึ่งคงต้องพิจารณาให้ดีที่สุดเพื่อเจ้าตัว เชื่อนักเตะฝีเท้าระดับ “มุ้ย” ค่าตัวไม่น่าต่ำกว่า  7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงค่าเหนื่อย ซึ่งไม่น่าน้อยกว่า 30,000 เหรียญสหรัฐ ต่อเดือน

“สโมสรยอมรับว่ามีหลายๆ ทีม นอกจากทีมจากตุรกีแล้ว ยังมี ทีมในญี่ปุ่น และยุโรป สนใจในตัวมุ้ยจริง มันเป็นเรื่องยากที่จะปล่อยตัวนักเตะฝีเท้าระดับ ธีรศิลป์ ออกไป ธีรศิลป์จะอยู่ค้าแข้งกับเราจนจบฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน

แต่ถ้าในอนาคตเพื่อความก้าวหน้าของนักเตะ สโมสรก็ยินดีรับข้อเสนอจากทีมอื่น คิดว่านักเตะฝีเท้าระดับธีรศิลป์ ที่โชว์ฟอร์มทั้งในสโมสรและในทีมชาติได้อย่างสุดยอด น่าจะมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และค่าเหนื่อยไม่น่าจะต่ำกว่า 30,000 เหรียญต่อเดือน เพราะอยู่ที่เมืองไทยเจ้าตัวก็รับกับทีมไม่น้อยกว่า 6-7 แสนบาทต่อเดือนอยู่แล้ว”

“ถ้าในอนาคตสโมสรเสียมุ้ยไปจริง ทางทีมก็จะหาศูนย์หน้าที่มีฝีเท้าระดับเดียวกับมุ้ยมาแทนอย่างแน่นอน  ก็มุ่งเป้าหมายในทีมแถบยุโรป และอเมริกาใต้ ซึ่งค่าตัวในการนำเข้ามาไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ล้านบาท ที่ตั้งงบประมาณไว้ โดยถ้ามีการย้ายทีมเกิดขึ้น ค่าตัวส่วนหนึ่งของมุ้ยจาก 200 ล้านบาท

ทางสโมสรได้มีการหารือในบอร์ดโดยคุณปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล บอสใหญ่จากเอสซีจี ซิเมนต์ อนุมัติที่ จะมอบ 20% มูลค่า 40 ล้าน ให้กับครอบครัวของมุ้ย 10%  20 ล้านบาท  รวมถึง 10% 20 ล้านบาท ให้กับโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี ผ่าน ภารดา ชำนาญ เหล่ารักผล และคุณณรงค์วิทย์ อุ่นแสงจันทร์ ที่มีส่วนในการปลุกปั้นสร้าง มุ้ย ขึ้นมา และมีส่วนผลักดันเยาวชนไทยฝีเท้าดีสู่ระดับนักฟุตบอลอาชีพ ซึ่งก็อยากให้เกิดขึ้นกับทีมโรงเรียนอื่นๆด้วยเช่นกัน” “บิ๊กเป้” ทิ้งท้าย