ส.ส.ภูมิใจไทยยื่นกมธ.ป.ช.ป.ตรวจส.บอล

ส.ส.ภูมิใจไทยยื่นกมธ.ป.ช.ป.ตรวจส.บอล

ส.ส.ภูมิใจไทยยื่นกมธ.ป.ช.ป.ตรวจส.บอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้ยื่นญัตติต่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการ ให้ตรวจสอบสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย กรณีสมาคมฟุตบอลภายใต้การควบคุมของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตาม พ.ร.บ. การกีฬาแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย ซึ่งสมาคมถือว่ามีรายได้นอกเหนือจากเงินบริจาคในรูปแบบค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และค่าสิทธิประโยชน์จากการบริหารจัดแบ่งรายได้ให้กับทีมสโมสร ดังนั้นจะต้องยื่นแบบเสียภาษี ภ.ง.ด.55 ต่อกรมสรรพกรนายศุภชัย กล่าวว่า แต่สมาคมฟุตบอลได้แยกการบริหารการจัดการเรื่องสิทธิประโยชน์ โดยตั้งบริษัทเอกชน ชื่อบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ซึ่งมีบุคคลภายนอกถือหุ้น แต่มีข้อสงสัยว่า ไปใช้อำนาจอะไรในการจดทะเบียน เป็นการใช้อำนาจโดยพลการและมีการโอนอำนาจการบริหารทั้งหมดให้กับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) แต่ไม่เปิดโอกาสให้เอกชนรายอื่นเข้ามาแข็งขัน อาจขัดต่อหลักธรรมภิบาลเป็นการใช้หลักกูตามแบบของ นายวรวีร์ มะกูดี ดังนั้นข้อให้กมธ.ป.ช.ป. เรียก กรมสรรพกร และ กกท. มาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะตั้งแต่ นายวรวีร์ มาเป็นนายกสมาคม ไม่เคยเสียภาษีเลย ซึ่งกกท.จะมีการดำเนินการอย่างไร และทราบว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้บรรจุเข้าสู่วาระแล้ว และคาดว่าสัปดาห์หน้าจะเรียกตัวแทนของ 2 หน่วยงานดังกล่าว มาตรวจสอบข้อเท็จจริงนายศุภชัย กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนทำในนาม ส.ส.ที่เห็นเรื่องความไม่โปร่งใส ไม่เกี่ยวกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งถ้าหาก นายเนวิน จะยื่นเรื่องนี้เองก็สามารถกระทำได้ วันนี้ทางสมาคมต้องอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ได้ ปีที่แล้วบริษัทสยามสปอร์ต ได้บอกว่ามีรายได้ 200 ล้าน เป็นค่าใช้จ่าย 190 ล้านบาท และเหลือ 8 ล้านบาท โดยแบ่งให้สมาคม 4 ล้าน และบริษัท ได้ 4 ล้านบาท ซึ่งตนอยากทราบว่าเป็นความจริงหรือไม่ เพราะวันนี้ยังไม่ได้ยินเสียงจาก กกท.เลย และขอให้ กมธ. ป.ป.ช.ตรวจสอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook