HBD Jack Wilshere

ย้อนกลับไป 2 วันก่อนหน้านี้ในวันปีใหม่ที่ใครหลายคนกำลังเริงร่า วันที่เราต่างสรวลเฮฮาไปกับเทศกาลวันหยุด วันนั้นเป็นอีกวันที่ประวัติศาสตร์ได้ถูกจารึก...

1 มกราคมที่ผ่านมานี่คือวันเกิดของเจ้าหนุ่ม "แจ็ค วิลเชียร์" ซูเปอร์สตาร์ผู้มี "กูนเนอร์ส" อยู่เต็มหัวใจ!

"มันเป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกันที่ผมนั้นเกิดในวันศักราชใหม่" หนุ่มแจ็ค กล่าวเอาไว้เมื่อครั้งจัดงานวันเกิดเมื่อ 2 ปีก่อน "ในขณะที่ผู้คนนั้นเฉลิมฉลองให้กับปีใหม่ที่คืบคลานเข้ามา ผมกลับต้องฉลองทั้งวันเกิด และ ปีใหม่ในเวลาเดียวกัน"

ตลอดเวลาที่ผ่านมาถ้าให้เอ่ยชื่อนักเตะที่มิดฟิลด์ขวัญใจหากเป็นสาวกรุ่นใหม่หน่อยแฟน "ปืนโต" ย่อมจิ้มเลือกไปที่ เมซุต โอซิล หรือ เชส ฟาเบรกาส สำหรับคนรุ่นเก่าอาจชื่นชอบในบทบาทจอมทัพของ ปาทริค วิเอร่า

แต่เชื่อได้เลยครับว่าไม่ว่าใครจะเข้า-จะออกจากทีม หรือ กาลเวลาจะเปลี่ยนผ่านไปกี่ยุคสมัย...

ถ้าจะมีมิดฟิลด์คนใดที่มีหัวใจ "ปืนใหญ่" พันธุ์แท้และรักทีมสุดหัวใจ...คนๆนั้นคงไม่มีใครเกิน "แจ็ค วิลเชียร์"

ไม่เคยมีซักครั้งที่ "เจ้าแจ็ค" เอ่ยปากอยากย้ายทีมไม่เคยมีซักหนที่ วิลเชียร์ จะอิดออดไม่อยากลงช่วยทีมรัก

ในหัวอกข้างซ้ายของเจ้าตัวล้วนมีแต่ "กูนเนอร์ส" อยู่เต็มใบดังเช่นวลีคลาสสิกที่เจ้าตัวได้เคยกล่าวเอาไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่มันยังตราตรึงในหัวใจของสาวก "กันเนอร์ส" อยู่ร่ำไป

"ผมคงเจ็บปวดถ้าวันหนึ่ง อาร์เซน่อล ตัดสินใจขายผมทิ้ง ผมต้องการให้สโมสรนั้นต้องการผม ถ้าวันหนึ่งพวกเขาไม่ต้องการผมอีกต่อไปแล้วผมคงรู้สึกจี๊ดที่หัวอกข้างซ้ายของหัวใจ"

เช่น เดียวกับครั้งหนึ่งที่ วิลเชียร์ เคยก่อเรื่องได้ใจแฟน "ไอปืนใหญ่" ไปเต็มๆเมื่อกลางปี 2014 ในครั้งนั้น อาร์เซน่อล กำลังแห่ขบวนพาเหรดฉลองแชมป์ เอฟเอ คัพ รอบกรุงลอนดอนหลังคว้าแชมป์แรกในรอบ 10 ปี

ทว่าจู่ๆมิดฟิลด์ตัวแสบก็สวมบทแกนนำม็อบด้วยการสั่งให้แฟนบอลร่วมร้องเพลง "We hate tottenham" และ "It's Happen Again" กันสนั่นลั่นกรุงลอนดอน!

"หลังจากนั้นวันนั้นผมถูกแฟน สเปอร์ส ด่าทอไล่สาปส่งกันทางทวิตเตอร์ใหญ่เลยล่ะ" วิลเชียร์ เปิดเผยเบื้องหลังด้วยความฮา

"แต่เชื่อไหมว่าที่จริงแล้วผมไม่ได้เกลียดพวกเขาอะไรจริงจังขนาดนั้นหรอก เชื่อหรือไม่ว่ามีญาติของผมคนหนี่งเป็นแฟนบอล สเปอร์ส เต็มขั้น ดังนั้นผมจึงแค่ยิงมุขสนุกๆขำขันกับพวกเขาเท่านั้น!"

แต่กว่าจะมาเป็น กันเนอร์ส ในทุกวันนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ย้อนกลับไปในวัยเด็ก วิลเชียร์ นั้นเติบโตกับครอบครัวที่เป็นแฟน "เวสต์แฮม" เต็มขั้น พ่อแม่ของเจ้าตัวมักจะพาเจ้าตัวไปรับชมทีม "ขุนค้อน" และนั่นทำให้แข้งจอมห้าวเติบโตมาด้วยการมี "โจ โคล" และ "เปาโล ดิ คานิโอ" เป็นขวัญใจ

"ผมเติบโตมาในฐานะแฟนบอล เวสต์แฮม มีอยู่ 2 คนที่ผมชื่นชอบในตอนนั้นนั่นก็คือ โจ โคล เขาเริ่มเล่นบอลอาชีพตั้งแต่ยังเด็ก และ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์มาก"

"อีก หนึ่งรายแน่นอนว่าต้องเป็น เปาโล ดิ คานิโอ! ผมว่าสำหรับ ดิ คานิโอ แล้วผมคงไม่ต้องพูดอะไรมากเพราะ แฟน เวสต์แฮม ทุกคนล้วนรักเขา เขาทำประตูสวยๆมากมาย และ เมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็กผมจะมีแต่ภาพเขาในความทรงจำ"

อย่างไรก็ตามกับชีวิตในทุกวันนี้ วิลเชียร์ ยืนยันว่าตนเองได้ "ทุ่มทั้งใจ" ให้ อาร์เซน่อล ไปหมดแล้ว เพราะ นับตั้งแต่เข้าร่วมทีมเมื่ออายุตั้งแต่ 11 ขวบ "หนุ่มแจ๊ค" ก็มีสโมสรแห่งนี้อยู่ในหัวใจ

ซึ่งถ้าให้เลือกระหว่าง เวสต์แฮม และ ไอปืนใหญ่... วิลเชียร์ ตอบทันทีเลยว่าทีมที่อยู่ในหัวใจนั้นต้องเป็น "อาร์เซน่อล" อย่างแน่นอน!

"กับ เวสต์แฮม มันเป็นอดีตไปแล้ว ผมเชียร์เพราะครอบครัวผมพาเข้าชมสนามบ่อยๆในวัยเด็ก"

"แต่ตอนนี้หัวใจผมนั้นเป็น อาร์เซน่อล หนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังเด็ก และ ผมก็รักแฟนๆและสโมสรมากซึ่งผมจะไม่มีวันแปรพักตร์ทีมแน่.

กับซีซั่นนี้หลังจากที่เจ็บไปนานและเมื่อกลับมาก็ไร้ตำแหน่งตัวจริงกับสโมสร ทำให้สุดท้ายแล้ว วิลเชียร์ ได้เดินเข้าไปพบกับ อาร์แซน เวนเกอร์ เพื่อยื่นเรื่องขอร้องให้ปล่อยตนเองออกจากทีมแบบยืมตัวเพื่อเรียกความฟิตกลับคืนมา

และนั่นทำให้"เจ้าแจ็ค" ต้องพบกับหนึ่งในวันที่ "แปลกประหลาด" ที่สุดในชีวิต

บอร์นมัธ บุกมาเยือน อาร์เซน่อล ที่้เป็นเจ้าถิ่นก่อนจะเป็นทีม "ปืนโต" ที่เอาชนะไปได้ 3-1 ผลการแข่งขันในเกมนี้ไม่สำคัญเท่ากับ 'ความรู้สึก' ของ วิลเชียร์ ที่เจ้าตัวยอมรับว่าตนเองไม่รู้จะว่าตัวอย่างไรดี

"มันเป็นความรู้สึกที่แปลกจริงๆผมไม่เคยเจอกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต" วิลเชียร์ กล่าว "ผมไม่ได้ลงสนามก็จริง (เนื่องจากติดกฏห้ามลงเจอสโมสรแม่) แต่ทันทีที่ผมเดินเข้าอุโมงค์ห้องแต่งตัวผมก็ทำตัวไม่ถูก"

"ผมคิดในใจว่า "นี่ฉันควรไปที่ไหนก่อนดีระหว่างห้องแต่งตัวอาร์เซน่อล กับ บอร์นมัธ!?? มันคงไม่ถูกที่ผมนั้นจะไปทักทายเพื่อนเก่าก่อนพร้อมเมินเฉยเพื่อนร่วมทีมปัจจุบัน ดังนั้นผมจึงเลือกไปห้องแต่งตัว บอร์นมัธ ก่อนแทน"

หากใครได้ชมเกมนัดนี้คงจำภาพได้หลังจากที่จังหวะ 1-0 ที่ อเล็กซิส ซานเชซ นั้นยิง ทันใดนั้นกล้องโทรทัศน์ได้จับภาพไปที่ แดนนี่ เวลเบ็ค ที่กำลังหยอกล้อกับ แจ็ค วิลเชียร์ หลังจากที่ บอร์นมัธ โดนขึ้นนำ...

ซึ่ง วิลเชียร์ ก็ได้เผยว่า ในตอนนั้น วิลเชียร์ ได้ถามตนเองว่านายรู้สึกอย่างไรบ้าง งานนี้เล่นเอาตนเองไปไม่ถูกเลยทีเดียว!

"เขาถามผมว่า 'เฮ้ เป็นไงแจ็ค! นายรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ!? แล้วนายอยากให้ใครชนะกันแน่!?' ซึ่งผมยอมรับเลยว่าผมไม่เป็นเลยทีเดียว"

"มันเป็นความรู้สึกที่แแปลกจริงๆ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกมนั้นผมอยากให้ใครชนะกันแน่ เพราะ ผมไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเลย"

วันนี้...ในวันขึ้นปีใหม่ที่สุดแล้วมิดฟิลด์จอมลากเลื้อยก็มีอายุครบ 25 ปีบริบูรณ์ ในฐานะสาวก "กันเนอร์ส" คนหนึ่ง ผมคงไม่มีอะไรจะพูดนอกจากขออวยพรให้แข้งรายนี้หายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง...

ไม่ว่าจะหลงใหลในแข้งต่างชาติคน อื่นของทีมมากขนาดไหน แต่เชื่อได้เลยครับว่ากว่า 80 เปอร์เซนต์แฟนบอลล้วนแอบหวัง และ เอาใจช่วยให้ วิลเชียร์ กลับมาเกิดกับทีมได้ในซักวัน

เบิร์ดเดย์อีกครั้งสำหรับ "หนุ่มแจ็ค วิลเชียร์" ... หวังว่าอนาคตนายจะได้เป็น "กัปตัน" ให้พวกเรา