สมาคมฯยันคำเดิม กูปรี เป็นอีสาน เตะอุบล ไม่เปลี่ยนแปลง

สมาคมฯยันคำเดิม กูปรี เป็นอีสาน เตะอุบล ไม่เปลี่ยนแปลง

สมาคมฯยันคำเดิม กูปรี เป็นอีสาน เตะอุบล ไม่เปลี่ยนแปลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง แถลงบทสรุปในที่ประชุมสมาคมฯ วันนี้ ยืนยันกรณีศรีสะเกษ เปลี่ยนเป็นอีสาน ยูไนเต็ด และลงเล่นอุบลเหมือนเดิม ส่วนรังเหย้าวัวชน ยังไม่สรุป เพื่อนตำรวจให้เตะ สพล.ชล ในเลกแรกไปก่อน ไฟส่องสว่างจะเพิ่มเป็น 800 ลักซ์ และอนาคตอาจจำกัดโควต้าทีมในจังหวัดเดียวกัน

หลังจากที่แกนนำกูปรีพลัดถิ่น แฟนบอลของทีมศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ได้เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องความเป็นธรรมกับสมาคมฟุตบอลฯ และ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ในกรณีที่ทีมศรีสะเกษ ขอเปลี่ยนชื่อไปเป็น อีสาน ยูไนเต็ด และย้ายสนามไปเตะที่อุบลราชธานี ด้านสมาคมฟุตบอลฯ และไทยพรีเมียร์ลีก จึงได้มีการหารือและประชุมร่วมกันเพื่อหาข้อสรุปทุกอย่างก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้นสุดสัปดาห์นี้

 
สำหรับการประชุมในวันนี้ (12 มี.ค.) มีขึ้นที่ห้องประชุมใหญ่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ผ่านมา โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีก และ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสามคมฯ ร่วมหารือกับสภากรรมการของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
 
ยันคำเดิมอีสาน ยูไนเต็ด เตะอุบล
 
หลังใช้เวลาในการหารือกว่า 3ชม.ครึ่งถึง 4 ชม.ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ก็รับหน้าที่ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนสำหรับข้อสรุปในที่ประชุมวันนี้ กรณีของทีมศรีสะเกษ ดร.วิชิต กล่าวว่า "เรื่องนี้เราได้ให้คำตอบไปนานแล้วและขอยืนยันคำเดิมอีกครั้งคือศรีสะเกษ จะเปลี่ยนชื่อเป็นอีสาน ยูไนเต็ด และลงเล่นที่จังหวัดอุบลราชธานี ตามที่ได้ยื่นเรื่องมา โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ส่วนที่มีแฟนบอลมาร้องเรียนในวันนี้ทางสมาคมฯ และทีพีแอล นั้นเห็นใจและจะรับเรื่องไว้พิจารณา แต่ก็คงจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะทุกอย่างได้เป็นไปตามขั้นตอนและดำเนินการไปเรียบร้อยแล้ว"
 
สนามวัวชนยังไม่สรุปรอสภากรรมการชี้แจง
 
ส่วนกรณีของสนามเหย้าทีมวัวชน ยูไนเต็ด ที่จะเตะบุรีรัมย์ หรือสงขลา นั้น ดร.วิชิต เผยว่า "ถึงตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ เนื่องจากเรื่องนี้ได้ขึ้นไปอยู่ในกระบวนการของสภากรรมการสมาคมฯ แล้ว ดังนั้นต้องรอให้สภากรรมการออกมาชี้แจ้งอีกครั้ง คาดว่าก่อนเปิดฤดูกาลคงได้ข้อสรุปแน่นอน โดยแนวโน้มอาจจะไปเล่นที่บุรีรัมย์ก่อนนัดหรือ 2 นัด หากไม่มีแฟนบอลหรือไม่ประสบความสำเร็จด้านคนดูก็อาจจะอนุญาตให้มาเตะที่สงขลาได้"
 
ให้ตำรวจเตะที่ สพล.ชลเลกแรก
 
ในขณะที่กรณีของสนามเหย้าทีมอินทรีเพื่อนตำรวจ ที่ไม่สามารถใช้งานที่สนามธรรมศาสตร์ รังสิต ได้ในเลกแรก เนื่องจากถูกน้ำท่วมเมื่อปลายปีนั้น ประธานไทยลีก ชี้แจงว่า "สำหรับกรณีของเพื่อนตำรวจถือเป็นกรณีพิเศษที่สนามเหย้าไม่พร้อมใช้งาน ซึ่งเราก็อนุญาติให้สามารถใช้สนาม สพล.ชลบุรี เป็นรังเหย้าชั่วคราวได้ จนกว่าสนามธรรมศาสตร์ รังสิต จะกลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอีกครั้งในช่วงเดือนมิถุนายน"
 
ปรับมาตรฐานไฟส่องสว่างเป็น 800 ลักซ์
 
พร้อมกันนี้ ดร.วิชิต ยังได้เผยถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในฤดูกาลนี้ อย่างในเรื่องของไฟส่องสว่างในสนามแข่งขันนั้น จากเดิมมาตรฐานของไทยพรีเมียร์ลีกอยู่ที่ 600 ลักซ์ แต่ในฤดูกาลนี้อาจจะเปลี่ยนมาเป็น 800 ลักซ์ ซึ่งทีมไหนพร้อมที่จะดำเนินการปรับไฟส่องสว่างของสนามตัวเองให้เป็น 800 ลักซ์ ก็สามารถทำได้เลย ส่วนทีมไหนยังไม่พร้อมก็อนุโลมให้ใช้เป็น 600 ลักซ์ตามเดิมไปก่อน"
 
อนาคตอาจจำกัดโควต้าทีมจังหวัดเดียวกัน
 
สุดท้ายในเรื่องของทีมต่างๆ ที่มาจากจังหวัดเดียวกัน ดร.วิชิต เผยว่า "ในอนาคตข้างหน้าหากเป็นไปได้อาจจะมีการจำกัดโควต้าทีมที่มาจากจังหวัดเดียวกันให้เหลือไม่เกินจังหวัดละ 2-3 ทีม ส่วนทีมเดิมที่มีอยู้แล้วก็ให้คงเดิมเอาไว้ โดยจะไม่มีการยุบทีมแต่อย่างใด อย่างเช่นในกรุงเทพ ที่มีทีมองค์กรหลายทีม หรือชลบุรีที่มี 3 ทีมอยู่แล้วก็จะยกเป็นกรณีพิเศษ ส่วนทีมที่เกิดขึ้นมาใหม่ หากจังหวัดนั้นๆ มีทีมอยู่แล้ว 2-3 ทีม ก็จะไม่อนุญาตให้เพิ่มทีมได้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการทับซ้อนเรื่องสนามแข่งขันจนต้องมีทีมใดทีมหนึ่งเปลี่ยนชื่อและย้ายสนามไปเหมือนศรีสะเกษ แต่เรื่องนี้ยังคงเป็นแค่แนวความคิดในอนาคตเท่านั้น ยังไม่มีการนำมาใช้หรือสรุปแต่อย่างใด"
 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook