จากเปเล่ถึงเมสซี่.. "นายก็แค่เจ้าชาย ส่วนฉันน่ะราชา!"

จากเปเล่ถึงเมสซี่.. "นายก็แค่เจ้าชาย ส่วนฉันน่ะราชา!"

จากเปเล่ถึงเมสซี่.. "นายก็แค่เจ้าชาย ส่วนฉันน่ะราชา!"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ตามความเห็นของข้าพเจ้าแล้วเมสซี่เก่งกว่า มาราโดน่า และ เปเล่ นะ"

- วลีสะท้านโลกของประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก หรือ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่ออกมากล่าวเอาไว้เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ไม่ใช่เรื่องบ่อยที่ "สมเด็จโป๊ป" จะออกมาแสดงความเห็นบนโลกลูกหนัง ก็แน่ล่ะว่า การทิ้งระเบิดในครั้งนี้ทำให้แฟนบอลทั่วโลกต่างแบ่งความเห็นออกเป็นสองฝ่าย บ้างก็ยกยอเมสซี่ ขณะที่บางส่วนยังคงซูฮกให้เปเล่เป็นยอดแข้งที่ดีที่สุดในโลก ราวกับปัญหาโลกแตกที่ไร้ซึ่งคำตอบอย่างไม่มีสิ้นสุด

กระนั้นบนเส้นทางที่พบกับความผันเปลี่ยน และไม่ได้ถูกยกให้เป็นราชาเหมือนแต่ก่อน เนื่องด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทว่าลุงคนหนึ่งยังคงยืนหยัดเชื่อมั่นในฝีเท้าของตนเองไม่มีเปลี่ยน

แม้แฟนรุ่นหลังจะจดจำชื่อของ เมสซี่ และ โรนัลโด้ มากกว่าตนเอง บางคนถึงขั้นจำเจ้าตัวไม่ได้ หรือไม่ยักจะรู้ด้วยซ้ำว่าอดีตยอดแข้งรายนี้เป็นใครหากเดินสวนทางกันกลางถนน

ทว่าในทรรศนะส่วนตัว "ไข่มุกดำ" หรือ เปเล่ ก็ยังคงเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าว่า ไม่ว่าจะถูกแฟนรุ่นใหม่จดจำในลักษณะไหน แต่ลึกๆแล้ว..

ตนเองก็ยังคงเป็น "สุดยอดแข้งเบอร์หนึ่ง" ของโลกอยู่ดี!

"ผมไม่สามารถเรียกเขาว่าเดอะ คิง ได้ เพราะราชาน่ะมีอยู่แค่คนเดียว" เปเล่เริ่มเปิดการสนทนา

"ผมไม่ได้พูดเอง แต่ว่านี่คือความจริงที่ใครก็ไม่กล้าปฏิเสธ ผมคือราชาของโลก ส่วนเมสซี่น่ะเป็นเจ้าชายแห่งวงการลูกหนังตลอด 15 ปีหลังสุด"

อันที่จริง เปเล่ นั้นไม่คิดว่า ลีโอเนล เมสซี่ คือสุดยอดสตาร์เบอร์หนึ่งของอาร์เจนติน่าซะด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับ ดิเอโก้ มาราโดน่า ที่ถูกยกย่องให้คับเคี่ยวการเป็น "ราชันแห่งโลกลูกหนัง" กับตนเองมาอย่างยาวนาน
เพราะในทรรศนะส่วนตัว..

"ไข่มุกดำ" นั้นคิดว่า อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ อดีตยอดดาวยิง และเป็นตำนานของเรอัล มาดริดที่เกิดในยุคสมัยของตนต่างหากที่เป็น "ราชาแห่งประเทศฟ้า-ขาว" ที่แท้จริง

"ผมเชื่อว่า อัลเฟรโด ดิ สเตฟาโน่ นั้นถูกประเมินค่าต่ำไป เขาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดของอาร์เจนติน่า"

"เขานั้นสุดครบเครื่องและสมบูรณ์แบบ ในความเห็นของผมแล้วเขาเจ๋งกว่าทั้ง มาราโดน่า และ เมสซี่ เสียอีก"

ไม่เพียงเท่านั้น หากแต่ "ลุงเล่" ของใครหลายคนยังคิดว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่ทั้งตน และ ดิ สเตฟาโน่ ไม่ได้รับการยกย่องเท่าที่ควรในปัจจุบัน

แม้ตนเองจะกดกระจายไปร่วมพันลูก เช่นเดียวกับ ดิ สเตฟาโน่ ที่ซัดให้เรอัล มาดริดถึง 216 ตุงจากการลงสนามทั้งหมด 282 นัด กระนั้นแฟนบอลรุ่นใหม่กลับหลงลืมพร้อมให้ความสำคัญกับดาวเตะในยุคตนเองมากกว่า

ซึ่งยอดตำนานรายนี้ได้กล่าวว่า หากในยุคของตนมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย บางทีสาวกอาจได้ดูคลิปที่น่าตื่นตะลึงยิ่งกว่านี้

"ผมดีใจนะที่ได้เล่นในยุคของตนเอง ถึงแม้ว่าทุกๆสิ่งจะเปลี่ยนไปมากแล้วในตอนนี้ และดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น"

"มันน่าน้อยใจอยู่เหมือนกันที่ผู้เล่นอย่างผม และ ดิ สเตฟาโน่ ไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าที่ควรในปัจจุบัน เพราะสมัยก่อนมีเทคโนโลยีที่บันทึกฟอร์มการเล่นของพวกเราไม่มากนัก"

สุดท้ายนี้ "สุดยอดดาวยิงตลอดกาล" ของบราซิลก็ยังคงยืนกรานว่า ถ้าหากตนเองได้เกิดมาเล่นในยุคนี้

ตนเองก็จะยังคงเป็น "ผู้เล่นที่ดีสุดในโลก" อยู่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน

"อย่าลืมว่าคนยุคก่อนไม่ได้มีรองเท้าหรือสนามที่สุดไฮเทคแบบในตอนนี้ ถ้าผมได้เล่นยุคนี้ ผมก็จะต้องมีความฟิตเท่ากับนักบอลในยุคปัจจุบัน"

"แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ผมก็จะยังคงเป็น "แข้งที่ดีที่สุด" ของโลกอยู่ดี เพราะนั่นคือสิ่งที่พระเจ้าทรงประทานมาให้ หาก "บีโธเฟ่น" เกิดมาบรรเลงเพลงในยุคนี้ บางทีเขาอาจจะไม่เล่นเพลงคลาสสิก แต่ถึงอย่างไรเขาก็จะยังคงเป็นที่สุดของโลกเหมือนเดิม"

"และแน่นอนกรณีของผมก็คงไม่ต่างกัน"

และนี่ก็คือคำประกาศกร้าวของ "เปเล่" จากคำให้สัมภาษณ์ล่าสุด อาจฟังดู "ขี้โว" ตามสไตล์จอมโม้แบบฉบับเจ้าตัวไปบ้าง กระนั้นก็ไม่มีใครสามารถปฏิเสธความจริงได้ครับว่า..

แม้สุดยอดตำนานรายนี้จะขี้คุย และชอบทำตัวเหมือนกลัวโลกจะลืมความยิ่งใหญ่ตนเอง ทว่านี่ก็คือสุดยอดตำนานที่ว่ากันว่ามีฝีเท้าที่ดีที่สุดในโลกนับตั้งแต่กำเนิด "ลูกกลมกลม" ขึ้นมา

ว่าแต่เดี๋ยวนี้..

เล่นอวยและเจิมตนเองกันดื้อๆเลยนะลุง!??

มาสเตอร์ ริท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook