สกู๊ป : "ยูโรนี้เพื่อกรีซมันน์"

สกู๊ป : "ยูโรนี้เพื่อกรีซมันน์"

สกู๊ป : "ยูโรนี้เพื่อกรีซมันน์"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"ผมยังคงหลอนจากจุดโทษนัดชิง ชปล. ที่ผมซัดพลาดเป้า ในตอนนั้นผมได้แต่ภาวนาให้มันไม่ซ้ำรอยเดิม ขอบคุณพระเจ้าที่ครั้งนี้ผมทำสำเร็จ"

อองตวน กรีซมันน์ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยความโล่งอก ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีด ณ ค่ำคืนที่สต๊าด เวโลโดรม ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์ชื่อของ ปอล ป็อกบา คือตัวชูโรง แต่ใครจะคิดว่า ณ ตอนนี้ กรีซมันน์ จะมาแรงแซงโค้ง พร้อมกับก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นสตาร์แห่งความหวัง

จากหนุ่มน้อยผู้ไม่เคยผ่านเส้นทางอาชีพกับสโมสรในฝรั่งเศส บัดนี้เส้นทางชีวิตของเจ้าตัวช่างพลิกผัน..

ไม่ว่าเกมนัดชิงที่จะถึงนี้จะจบลงเช่นไร ทว่าเชื่อเหลือเกินว่าสำหรับแฟนบอลชาติเจ้าภาพแล้ว

ชื่อของ ‘กรีซมันน์’ จะกลายเป็นหนึ่งในขวัญใจของประเทศที่คอลูกหนังในเจเนเรชั่น 16 ‘ไม่น่ามีวันลืมเลือน’

 

กรีซมันน์ คือ ซิซู คนใหม่ของเรา, กรีซมันน์ คือ ซิซู คนใหม่ของเรา” สาวก “เลส์ เบลอส์” ร่วมพันที่เดินทางกลับบ้าน ณ ถนนคนเดินเมืองมาร์กเซย์ต่างร้องเรียกชื่อฮีโร่คนใหม่อย่างไม่อายปาก

ก่อนเกมนัดที่ผ่านมา แม้จะถูกยกให้เป็นต่อจากการเป็นชาติเจ้าภาพ ทว่าการที่ต้องทะลุไปฟาดฟันกับแชมป์โลกอย่างเยอรมนี ก็ทำให้หนทางของฝรั่งเศสที่ทำท่าว่าจะเขียวขจีราวกับต้องพบกับขวากหนาม

สื่อหลายสำนักเชื่อครับว่า มองเหลี่ยมไหน “ฝรั่งเศส” ก็ไม่น่ารอด กระทั่งเลอ กิ๊ป สำนักข่าวเบอร์หนึ่งในประเทศยังวิเคราะห์ว่า เต็มที่ให้เสมอ ที่เหลือคงเป็นเรื่องของโชคชะตาที่ต้องไปวัดดวงเอาในช่วงต่อเวลา

ทว่าโลกของฟุตบอลไม่เคยมีคำว่า ‘สคริปต์’ ..แม้จะเป็นรองตั้งแต่ต้น เช่นเดียวกับรูปเกมที่เป็นฝ่ายตั้งรับตั้งแต่เสียงนกหวีดเริ่ม แต่จนแล้วจนรอด เยอรมนีก็ไม่อาจเจาะภูผาหินของฝรั่งเศสได้

แดนกลางการดร็อป เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไปอาจทำให้แผงมิดฟิลด์ของทีมดูยวบ กระนั้นในวันที่ต้องเจอกับสารพันบททดสอบ สองคู่เซนเตอร์อย่าง โลร็องต์ กอสเซียลนี่ และ ซามูเอล อุมติตี้ ก็ยังแกร่งพอที่จะเอาตัวรอดได้

กระทั่ง ‘จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่’ ก็มาถึง..

ในห้วงเวลาที่ “อินทรีเหล็ก” กำลังหลงระเริง และเพลิดเพลินไปกับเกมรุก แต่แล้วฉับพลันที่เป็นฝ่ายตั้งรับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กัปตันตัวเก๋ากลับพลาดท่า กางมือจนลูกบอลเจ้ากรรมดันไปโดนขณะกำลังเบียดแย่งโหม่งกับเอฟร่า

และจุดโทษนี้ก็ไม่ต่างกับ ‘เปลี่ยนชะตาชีวิต’ และ ‘พลิกโฉมหน้า’ ของรูปเกม!

จากที่เกมรุกของเมืองเบียร์กำลังมา ให้หลังจากนั้นพลพรรค “อินทรีเหล็ก” ราวกับเสียขวัญ ช่วงชีวิตหลังทำพลาดของ ชไวนี่ ไม่ต่างกับฝันร้าย บ่อยครั้งในเกมนี้ที่ความเชื่องช้าของเจ้าตัวทำให้เกมรุกเยอรมันเสียจังหวะ มิหนำซ้ำยังโดนไล่บี้กดดันจนออกบอลผิดพลาดหลายครั้ง

กลายเป็น “ตราไก่” ในวันที่ไม่น่ารอดกลับคืนชีพ เข้าสู่ครึ่งหลังกลายเป็นฝรั่งเศสที่คุมเกมอยู่หมัด ก็มีบ้างที่แดนกลางของ “เลส์ เบลอส์” จะยังคงระส่ำระส่าย ปอล ป็อกบา กับสเต็ปการเลี้ยงที่มากเกินจนออกบอลเสียให้กับแข้งเยอรมันอยู่บ่อย แต่ถึงกระนั้น โดยรวมแล้วดอกแรกที่พวกเขาได้อานิสงส์ ก็ทำให้ความมั่นใจของฝรั่งเศสสูงปรี๊ดขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ดีครับ ในวันที่หลายคนโทษฟ้าโทษดินว่าจุดโทษเปลี่ยนชะตาชีวิต ในวันที่บางคนกล่าวหาเชิ้ตดำว่า ทำลายอรรถรสของเกม มีชายหนุ่มนายหนึ่งที่เปรียบดั่งแสงสว่างพลิกชะตาชีวิตของแมตช์นี้โดยสิ้นเชิง..

อันที่จริงแม้เกมนี้จะเต็มไปด้วยข้อกังขาทว่านั่นก็คือมุมมองของผู้ตัดสิน ตามทรรศนะส่วนตัวจุดโทษหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละหน่อ ทว่าที่ทำให้รูปเกมนั้นเปลี่ยน และเห็นแน่ๆว่าฟอร์มสุดเด็ดดวง..

นั่นก็คือ ‘อองตวน กรีซมันน์’ ของใครๆต่างหาก

นี่คือวันที่เยอรมันเล่นได้ย่ำแย่ ขณะเดียวกันนี่ก็ไม่ใช่เกมที่ขุนพลฝรั่งเศสเล่นได้อย่างโดดเด่น ตรงกันข้ามในครึ่งเวลาแรกมีอยู่หลายครั้งที่พวกเขาออกบอลเสีย และทำให้เกมไม่เดินหน้าอย่างที่ควรจะเป็น..

แต่ที่ทำให้สกอร์ออกมาแตกต่าง และอาจรวมถึงหลายแมตช์ในทัวร์นาเมนต์นี้...

นั่นก็คือ ‘สตาร์จากทีมตราหมี’ ผู้นี้นั่นแหละ

ขุนพลฝรั่งเศสชุดนี้จะว่าไปไม่ได้โดดเด่น และเล่นกันอย่างมีระบบระเบียบ หรือเปี่ยมไปด้วยทีมเวิร์ค ตรงกันข้ามด้วยซ้ำที่เปอร์เซนต์ต่อบอลในแต่ละครั้งแทบจะไม่เข้าเป้า

ทว่าที่พาทีมอยู่รอดจนเกือบถึงฝั่งฝันยันปัจจุบัน เกือบทุกโมเมนต์ล้วนมาจาก ‘ความสามารถส่วนตัว’ ของกรีซมันน์

 

ประตูที่สองที่เก็บตกจากความผิดพลาดของ นอยเออร์ ที่ออกมาตัดบอลไม่ขาด ทำให้สตาร์แอต.มาดริด บรรจงแปลอดดากนายทวารตัวเก๋าพร้อมส่งแชมป์โลกต้องกลับบ้านด้วยน้ำตาอย่างเป็นทางการ

ดอกนี้ดูเหมือนง่ายทว่าเอาเข้าจริง ณ โมเมนต์นั้นใจต้องนิ่ง และหัวต้องไวจริงๆ

จบเกมนี้ในที่สุด ชาติเจ้าภาพก็ผ่านเข้าสู่แมตช์ชิงดำได้ตามเป้า ต่อให้ใครจะค่อนขอดว่า ไม่นับเยอรมนีที่ผ่านมาเส้นทางของพวกเขาล้วนง่ายราวกับปลอกกล้วยเข้าปากทั้ง แอลเบเนีย, โรมาเนีย, สวิตเซอร์แลนด์ รวมถึงไอร์แลนด์ และ ไอซ์แลนด์ แต่ผมเชื่อว่า ถึงตรงนี้ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องป์ส คงยักไหล่พร้อมไม่ใส่ใจ

นี่คือทัวร์นาเม้นต์ที่สำคัญยิ่งยวดของพวกเขา เพราะ ‘แชมป์เท่านั้นที่จะถูกจดจำ’.. การประกาศศักดาชูถ้วยต่อหน้าแฟนๆคือสิ่งเดียวที่ เดส์ช็องป์ส และลูกทีมต้องการ

นัดถัดไปที่จะพบกับโปรตุเกสคงไม่ต่างกับ ‘ศึกแห่งชีวิต’ สำหรับทุกคน ทว่ามีอยู่คนหนึ่งที่เกมนัดนี้น่าจะมีความหมายมากยิ่งกว่าใครหน้าไหน

นั่นก็คือชายที่เปรียบดั่ง ‘ฮีโร่’ ณ เวลานี้นั่นแหละ

น้อยคนที่จะล่วงรู้ครับว่า นอกจากสัญชาติฝรั่งเศสที่ถือมาแต่กำเนิดแล้ว เจ้าตัวยังมีอีกหนึ่งเชื้อสายที่สืบสายเลือดมาจากสกุลมารดาเช่นกัน

และเชื้อชาตินั้นก็ไม่ใช่ตาสีตาสาที่ไหน คือชาติที่พวกเขาจะต้องลงปะทะในการเกมชิงนั้นแหละ

จากอกหักนัดชิงชปล. สู่การพาชาติบ้านเกิดเป็นแชมป์, ปราบชาติแท้ๆของแม่ตนเองในนัดตัดเชือกพร้อมกับคว้าดาวซัลโว-แข้งยอดเยี่ยมได้อย่างยิ่งใหญ่

หากเป็นเช่นนั้นราวกับทัวร์นาเมนต์นี้ถูกกำหนดมาเพื่อปลอบใจ กรีซมันน์ โดยแท้..

แค่คิดก็สนุกพิลึกกึ๊กกื๋อแล้ว!

ตุงตาข่าย by มาสเตอร์ ริท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook