สมาคมฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี​ 2559

สมาคมฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี​ 2559

สมาคมฯ จัดประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี​ 2559
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยพล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ และสภากรรมการสมาคมฯ พร้อมทั้งสโมสรสมาชิกจากทุกระดับลีกเข้าร่วม ณ ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2559 โดยมี

โดยที่วาระสำคัญในการประชุมแบ่งออกเป็น 13 วาระ ดังนี้ วาระที่ 1 ชี้แจ้งการจัดประชุมตามระเบียบข้อบังคับลักษณะการปกครองของสมาคมฯ ข้อที่ 27, วาระที่ 2 การกล่าวสุนทรพจน์ของนายกฯ , วาระที่ 3 การแนะนำคณะกรรมการบริหารของสมาคมฯ ชุดใหม่, วาระที่ 4 การเสนอชื่อพล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เป็นเลขาธิการสมาคมฯ, นายชนินทร์ แก่นหิรัญ เป็นรองเลขาธิการฯ ฝ่ายกฎหมาย และ นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เป็นรองเลขาธิการฯ ฝ่ายต่างประเทศ , วาระที่ 5 การแต่งตั้งสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อตรวจสอบรายงานการประชุม

วาระที่ 6 รายงานผลการดำเนินกิจการของสมาคมฯ นับตั้งแต่มีการจดทะเบียบรับรองฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา, วาระที่ 7 การนำเสนองบดุลที่ได้รับการตรวจรับรองแล้ว และรายงานแสดงรายรับ-รายจ่ายเพื่อขอรับมติการประชุมฯ , วาระที่ 8 การรับฐานะการเงินของสมาคมฯ ซึ่งอยู่ระหว่างให้ผู้ตรวจสอบบัญชีตรวจสอบรับรอง , วาระที่ 9 นายกสมาคมฯ นำเสนอแผนการดำเนินประจำปี และงบประมาณ/แผนการเงินสำหรับทีมชาติในการลงแข่งขันทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ประจำปีนี้ให้ที่ประชุมใหญ่พิจารณาอนุมัติ


วาระที่ 10 คณะกรรมการบริหารสมาคมฯ นำเสนอที่ประชุมขอมติเลื่อการเสนอการแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ ในการประชุมสามัญพิเศษ 60 วันข้างหน้า , วาระที่ 11 การแต่งตั้งนายเมธี แสงมณี เลขทะเบียน 5061 เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระฯ และวาระที่ 12 การเสนอชื่อ ประธาน และ รองประธาน ในองค์การคณะตุลาการ มาทำหน้าที่คณะกรรมการวินัยมารยาท และ คณะกรรมการอุทธรณ์

ทั้งนี้ หลังจากปิดการประชุมพล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับวื่อมวลชนว่า "วันนี้เป็นการประชุมสามัญประจำปีของสมาคมฯ เป็นไปตามกฏหมายที่ทุกปีจะต้องจัดประชุมอยู่แล้ว การประชุมวันนี้เป็นเรื่องที่ทางสมาคมจะต้องขออนุมัติจากสโมสรสมาชิกเพื่อไปดำเนินการในทุกกรณี"

"มีเรื่องสำคัญๆ ที่สมาคมได้ขออนุมัติทางสโมสรสมาชิก เรื่องแรกคือ การจัดให้มีผู้ตรวจสอบ การเงินของสมาคมที่มีมาในอดีตว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่สมาคมฯ ชุดปัจจุบัน จะได้เข้าไปดำเนินการตามระเบียบข้อกฎหมายและข้อบังคับต่อไป"

"เรื่องที่สองการที่ผู้บริหารสมาคมฯ ขอมติที่ประชุมเลื่อนการเสนอการแก้ไขข้อบังคับต่างๆ ซึ่งตามระเบียบ สมาคมฯ จะต้องส่งเอกสารให้สโมสรสมาชิกก่อนที่จะมีการประชุม 55 วัน ฉะนั้นหลังจากผมได้รับการแต่งตั้งและได้รับการรับรองวันที่ 17 จนถึงปัจจุบัน ระยะเวลามันไม่เพียงพอที่จะจัดการแก้ไขและเตรียมแก้ไขระเบียบข้อบังคับ และก็ไม่เพียงพอกับที่จะต้องส่งเอกสารให้สโมสรสมาชิกได้ทำการตรวจสอบ 55 วัน จึงต้องขอมติที่ประชุมขยายออกไป ซึ่งคงต้องมีประชุมสามัญพิเศษในอีก 60 วันข้างหน้า นี่คือ 2 ประเด็นหลักในวันนี้"


ทั้งนี้ หลังปิดการประชุม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังได้เป็นตัวแทนของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มอบเงินสนับสนุนแก่สโมสรสมาชิกโดยแบ่งออกมาเป็น 3 ลีก คือ ไทยลีก จำนวน 126 ล้านบาท , ลีก ดิวิชั่น 1 จำนวน 16 ล้านบาท และ ลีก ดิวิชั่น 2 จำนวน 28.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ หลังการประชุม นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยถึงการหารือกับ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปีสมาคมฯ เมื่อวานนี้ถึงนโยบายที่จะสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์หรือศูนย์ฝึกกีฬาครบวงจรที่ใหญ่สุดในอาเซียนเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการพัฒนากีฬาฟุตบอล โดยมีสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่บินไปศึกษาดูงานเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาเป็นแม่แบบของการก่อสร้าง

ก่อนหน้านี้ในวันที่ 28 เมษายน 2559จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และคณะได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และเพื่อประชุมหารือถึงแนวทางการสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งมีสองประเด็นสำคัญ ได้แก่การพูดคุยเพื่อหารือแนวทางในการจัดตั้งให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนากีฬาฟุตบอล ฟุตซอล และฟุตบอลชายหาด ประจำภูมิภาคอาเซียน และเพื่อหารือความเป็นไปได้ในการสนับสนุนงบประมาณเพื่อก่อสร้างที่ทำการถาวรของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งสองประเด็นดังกล่าวก็ได้มีการพูดคุยกันในระหว่างที่เข้าเยี่ยมคารวะพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งทุกฝ่ายต่างก็เห็นชอบและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่

ทั้งนี้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า "งบประมาณเท่าที่ผมไปดูงานกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ ที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้าเอาแบบฟูลออฟชั่นแบบนั้นเลย เนรมิตและใช้พื้นที่มหาศาลในนั้นมี 16 สนามซ้อม ไม่รวมสนามแข่งขัน โมเดลของเขามีที่พัก โรงแรม โรงพยาบาล แล้วก็โรงเรียนเขาใช้เงินมหาศาลมาก แต่เขาก็มีศึกษาให้ประเทศไทยแล้วว่าร้อยละ 80 หรือร้อยละ 60 ของเขาใช้งบประมาณกี่พันล้าน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแผนงานของเรา ผมก็ถามเขาว่าถึงเวลาหรือยังที่ไทยควรมีสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ศูนย์กลางอาเซียน เขาก็บอกว่าถ้าไทยไม่ทำ ประเทศใกล้ๆ ก็ทำ เมื่อประเทศอื่นเขาทำก็ฉกฉวยโอกาสนั้นไป"


"สปอร์ตคอมเพล็กซ์ไม่ได้มีประโยชน์กับฟุตบอลไทยเท่านั้น เพราะทีมชาติเพื่อนบ้านเราก็สามารถเดินทางมาเก็บตัวได้ ซึ่งหลายท่านอาจไม่ทราบว่าหน้าหนาว ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แอบเอาทีมฟุตบอลมาเก็บตัวที่เชียงราย เชียงใหม่เป็นเดือนๆ เลย อย่างเช่นที่หนองจอกตอนนี้ก็มีนักธุรกิจ มาเช่าช่วงต่อกับสมาคมฯ ชุดเก่า เป็นที่เก็บตัวของทีมชาติกัมพูชา ลาว หรือ พม่า ซึ่งรูปแบบก็คล้ายกัน"

"แต่ถ้าเรามีศูนย์ฝึกกีฬาครบถ้วนเอง ทีมชาติเพื่อนบ้านก็อาจมาใช้ของเรา ก็เป็นเรื่องจริงนะครับที่ว่าถ้าเราไม่สร้าง เพื่อนบ้านเราก็ทำ และทำที่หลังก็คงไม่เกิดประโยชน์แล้ว ผมได้คุยกับภาคเอกชนหลายๆ ท่าน ซึ่งก็คิดว่าข้อสรุปคงจะมีการคุยกันเร็วๆ นี้จะเป็นที่ไหนอย่างไร สถานที่เรามีแล้วแต่ต้องสอบถามผู้ลงทุนด้วยคิดว่าที่ไหนจะเหมาะที่สุด"

นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังได้กล่าวถึงประเด็นความร่วมมือระหว่างสมาคมฯ และฟีฟ่าว่า "ล่าสุดทางฟีฟ่าก็บอกว่าในการประชุมใหญ่ฟีฟ่าคองเกรส ที่เม็กซิโก ก็เตรียมที่จะผลักดันให้เงินสนับสนุนกับชาติสมาชิกทั้งหมด 209 ชาติปีละ 5 ล้านเหรียญสหรัฐ (200 ล้านบาท) ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงในโอกาสข้างหน้า ไทยเราก็จะได้รับการสนับสนุนด้วย"

"ซึ่งเราก็คิดว่าการสร้างสปอร์ตคอมเพล็กซ์แม้จะใช้เงินเป็นพันๆ ล้าน หรือ 2 พันล้าน แต่การจ่ายเงินก็ไม่ได้จ่ายทีเดียวนะครับ เขาวางแผนแล้วว่าปีนึงเราจ่ายเท่าไหร่ กี่ปี และการก่อสร้างก็รวดเร็วเพราะเรามีเทคโนโลยีช่วย ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ" นายกสมาคมฯ กล่าวปิดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook