สกู๊ป : 6 ตำ (ไม่สุด) นาน ที่ลงเอยด้วยความเศร้า

สกู๊ป : 6 ตำ (ไม่สุด) นาน ที่ลงเอยด้วยความเศร้า

สกู๊ป : 6 ตำ (ไม่สุด) นาน ที่ลงเอยด้วยความเศร้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เพราะฟุตบอลไม่ใช่นิยายที่จุดจบต้อง “แฮปปี้ เอนดิ้ง” เสมอ ไม่แปลกที่กรณีล่าสุดระหว่าง ฟรานเชสโก้ ต็อตติ กับ โรม่า ทำท่าถึงทีขาดสะบั้น..

ต่อให้กว่า 20 ปีที่จมทุกข์และสุขกับทีมมา แข้งวัย 39 ปีจะไม่ต่างกับ “เจ้าชาย” ของสาวก “หมาป่า” ทว่าด้วยคำวิจารณ์ที่เจ้าตัวไปวิพากษ์ทีมต่อหน้าสื่อมวลชน ก็ทำให้ ลูเซียโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือของทีมสวมบทโหด ตัดชื่อ ต็อตติ ออกจากทีมพร้อมเตรียมเฉดหัวทิ้งทันทีที่สิ้นสุดฤดูกาล

อย่างไรก็ดี ต็อตติ มิใช่แข้งเพียงรายเดียวแต่อย่างใดที่ต้องลาจากต้นสังกัดที่รัก มีตำนานอีกเพียงมากมายที่เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของสโมสร แต่ผลสุดท้ายพวกเขาเหล่านี้กลับมิใช่ “One Man Club” อย่างพวก เปาโล มัลดินี่, ไรอัน กิ๊กส์, พอล สโคลล์ หรือ แบบที่ควรจะเป็น..

วันนี้ผมจะขอพาทุกท่านไปพบกับ ‘6 ตำนาน’ ที่บทสรุปสุดท้ายต้องลาจากต้นสังกัดในวัยเยาว์กันครับ :

จอห์น เทอร์รี่ (เชลซี)

เชื่อว่าสาวกลูกหนังหลายคนต่างจินตนาการภาพ จอห์น เทอร์รี่ ในวันที่ต้องสวมสีเสื้ออื่นนอกจาก “น้ำเงิน” อันเป็นเอกลักษณ์ไม่ออกแต่อย่างใด ตลอดเวลากว่า 18 ปี เทอร์รี่เปรียบดั่งสัญลักษณ์ของ “สิงห์บลูส์” หากเอ่ยถึงเชลซีต้องปรากฏภาพของกัปตันผู้ทรนงในมาดชี้นิ้วสั่งการลอยเข้ามาในหัวเป็นอันดับแรก

ช่างน่าเศร้าที่เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ทางสโมสรก็ได้แจ้งกับเซนเตอร์วัย 35 ปีเรียบร้อยว่า จะไม่มีการต่อสัญญาฉบับใหม่ที่จะหมดลงในช่วงเดือน มิ.ย. นี้แต่อย่างใด..

และนั่นทำให้บทสรุปของ “ตำนานแห่งเดอะบลูส์” เตรียมสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ..

สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล)

ไม่ต่างกับเทอร์รี่ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจอร์ราร์ด ผ่านร้อนผ่านหนาวกับเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” มานับครั้งไม่ถ้วน แม้ในวันที่ทีมต้องพบกับมรสุม “สตีวี่ จี” ก็ยังเลือกที่จะฝากอนาคตไว้กับทีมแทนที่จะเป็นบิ๊กทีมอย่าง เชลซี, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส ที่พร้อมจ้องสอยร่วมทัพชนิดตาเป็นมันส์

เปรียบดั่งตลกร้ายที่ในวันซึ่งเจ้าตัวโรยราบ้าง “หงส์แดง” กลับมิเคยเหลียวแล อีกทั้งยังลอยแพอย่างไม่ใยดี ทำให้กัปตันผู้ลมหายใจเข้า-ออกเป็น “เร้ด แมชีนส์” ตัดสินใจโบกมือลาทีมทันทีที่สิ้นสุดฤดูกาล 2014-15 พร้อมออกไปหาความท้าทายใหม่กับ แอลเอ กาแล็กซี่ ต่อไป..

อิเคร์ กาซิยาส (เรอัล มาดริด)

ในวันที่ประสบความสำเร็จ กาซิยาส เป็นดั่งราชา ทว่าในวันที่ล้มลุกคลุกคลาน กระทั่งม้านั่งข้างสนามก็ยังแทบหมางเมิน กัปตันแห่ง “ราชันชุดขาว” ผู้ผ่านความเกรียงไกรกับทีมมาร่วมทศวรรษต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ เคย์เลอร์ นาบาส ไป ก่อนจะโดนดองต่อเนื่องมาหลายยุคสมัยทั้งกับ โชเซ่ มูรินโญ่ รวมถึง คาร์โล อันเชล็อตติ

สถานการณ์เดินมาถึงจุดแตกหักในช่วงซัมเมอร์ 2015 ที่ผ่านมา โกลมือกาวจำต้องโบกมือลาพร้อมย้ายไปเล่นให้กับ ปอร์โต้ ในโปรตุเกสแทน ซึ่งในวันแถลงข่าวย้ายทีม ใบหน้าของตำนานที่เปรียบดั่งเด็กปั้นของสโมสรต้องแปดเปื้อนไปด้วย “คราบน้ำตา” ชนิดที่ดราม่ายิ่งกว่าละคร

ชาบี้ เอร์นานเดซ (บาร์เซโลน่า)

มิดฟิลด์ผู้เกรียงไกรที่เปรียบดั่งหัวใจสำคัญของ “Tiki-Taka” อันเลื่องลือจำต้องเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ อิวาน ราคิติช ดาวเตะที่ย้ายเข้ามาใหม่จากเซบีญ่าอันเนื่องมาจากกาลเวลา นั่นทำให้สุดท้ายแข้งวัย 35 ปี ณ เวลานั้น ตัดใจโบกมือลา “ต่างดาว” พร้อมโยกขุดทองในแดนอาหรับกับกาตาร์แทน

โชคยังดีที่บทสรุปสุดท้ายเส้นทางของ “ชาบี้” จบลงด้วยความแฮปปี้ เอนดิ้ง กว่าใครๆ หลังคว้าทริปเปิ้ลแชมป์กับ “บาร์ซ่า” ได้สำเร็จอีกทั้งในแมตช์สุดท้ายที่ลงเล่น เจ้าตัวได้รับเกียรติจากสโมสรให้ถูกส่งลงสนามแทน อันเดรส อิเนสต้า ในนาทีทื่ 78 ซึ่งเป็นแมตช์นัดชิง ยูฟ่า ชปล. อีกด้วย พร้อมปิดฉากตำนานอย่างสวยงาม

อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ (ยูเวนตุส)

แม้จะเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับ ปาโดว่า ทีมเล็กๆในแดนมะกะโรนี แต่ความพีคของ เดล ปิเอโร่ มาดังเป็นพลุแตกกับยูเวนตุสที่ซึ่งเจ้าตัวใช้ชีวิตที่นั่นร่วม 19 ปี ในวันที่ทีมต้องถูกปรับตกชั้น ในวันที่สตาร์หลายรายอย่าง ปาทริค วิเอร่า, เอเมอร์สัน รวมถึง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เลือกชิ่งหนีโบกมือลาทีมทัพ “ม้าลาย” ก็ยังมี “หนูเดล” ที่ยืนหยัดเคียงข้างตลอดมา

ช่างน่าสลดใจที่ในวันที่เจ้าตัวโรยราตามกาลเวลา “ยูเว่” กลับเลือกที่จะทอดทิ้ง เดล ปิเอโร่ ให้เดียวดาย ด้วยการไม่ต่อสัญญา ทำให้สุดท้ายเจ้าของฉายา “โกลเด้นบอย” ต้องระเห็จระเหินไปค้าแข้งแดนจิงโจ้กับ “ซิดนี่ย์ เอฟซี”

ปัจจุบันในวัย 41 ปี หลังชีพจรลงเท้าด้วยการค้าแข้งในอินเดียกับ เดห์ลี่ ไดนาโม เดล ปิเอโร่ กลายเป็นแข้งฟรีเอเย่นต์ หรือ ไร้สังกัด แม้จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เชื่อว่า ด้วยสังขาร และ อายุอานามที่มากโข ทำให้เจ้าตัวน่าโบกมือลาโลกลูกหนังถาวรเป็นที่เรียบร้อย

ราอูล (เรอัล มาดริด)

ก่อนการมาของ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ทีม “ราชันชุดขาว” เคยมี ราอูลเป็นดาวยิงซึ่งซัลโวเป็นกอบเป็นกำ ผลงาน 323 ลูกจาก 741 แมตช์ ก็มากพอที่จะทำให้เจ้าตัวเป็น “เจ้าชาย” ในใจของแฟนๆ

แต่ก็เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ได้ว่า เรอัล มาดริด มักใส่ใจแต่ธุรกิจ โดยพร้อมจะเฉดหัวทิ้งทันทีที่หมดประโยชน์ ภายหลังที่อดีตหัวหอกทีมชาติสเปนซัดไป 18 ลูกเมื่อฤดูกาล 2008-09  ซีซั่นถัดไป ทีม “กาลาคติกอส” กลับซื้อบรรดายอดตัวรุกอย่าง ค.โรนัลโด้ และ คาริม เบนเซม่า เข้ามา นั่นทำให้ช่วงเวลาหรรษาระหว่าง ราอูล กับทีมต้องสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ..

ประตูสุดท้ายของเจ้าตัวกับทีมเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน ปี 2010 ก่อนที่หลังจากนั้นจะโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานพร้อมกับการที่ทุกอย่างต้องกลายเป็นอดีต วันที่ 25 กรกฏาคม 2010 สโมสรประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้จัดการขายสองลูกหม้ออย่าง ราอูล และ กูตี อีกหนึ่งตำนานทิ้งออกจากทีมโดยที่ทั้งสองไม่เต็มใจ..

ทว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ ไร้ซึ่งการเหลียวแล.. ไร้ซึ่งความปราณีใดๆ..

ทั้งที่นี่คือหนึ่งใน ‘สุดยอดตำนานของทีมตลอดกาล’

มาสเตอร์ ริท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook