สกู๊ป : ทีมชาติไทย U23 "บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริง" โดย "บ.ส้มซิ่ง"
ผ่านพ้นสงครามสังเวียนลูกหนังอันแสนโหดเหี้ยม ของศึกชิงเจ้าแห่งเอเชีย ในร่นอายุไม่เกิน 23 ปี
ลูกกรอกคะนองจากแดนสยาม เจอการบ้านตัวโตเท่าฝาบ้านตั้งแต่จับสลาก เมื่อต้องร่วมกลุ่ม บี กับทีมแกร่งอย่าง ญี่ปุ่น,ซาอุฯ และ เกาหลีเหนือ
2 แต้ม จากผลงาน 3 นัด ทำให้เราไม่ได้ไปต่อ ด้วยนิมิลีกที่ด้อยกว่า เกาหลีเหนือ และ ซาอุฯ ถามว่าเราผิดหวังกันมากหรือ?
ผมเชื่อนะว่าเราไม่ผิดหวังในแง่ของผลการแข่งขันหรอก เพราะอย่าลืมว่านี่คือระดับเอเชีย และที่สำคัญรอบสุดท้ายนี้ 16 ทีมผ่านเข้ามา ล้วนเป็นเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งสิ้น
เสมอซาอุฯ แพ้ญี่ปุ่น และ เสมอเกาหลีเหนือ คือคำตอบว่าเราดีพอและน่าภูมิใจมากกว่ามานั่งเสียใจ
หลายคนบอกว่าเสียดายแต่ไม่เสียใจที่เราไม่ได้ผ่านเข้ารอบ และเราเองก็ได้อะไรหลายอย่างกับทัวร์นาเม้นต์ใหญ่ระดับนี้
ผลลัพธ์ในแง่ของการแข่งขันอาจจะดีจริง เมื่อสิ่งที่ได้มาคือ 2 แต้ม ที่ควรค่ากับหยาดเหงื่อที่นักเตะไทยได้เสียไป
แต่รูปแบบการเล่น รวมถึงองค์ประกอบโดยรวม เราต้องยอมรับว่าเรายังเป็นรองทีมระดับหัวแถวเอเชียอยู่พอสมควรจริงๆ
ระยะห่างกับคำว่าทีม "หัวแถวเอเชีย" แม้เราจะยกระดับขึ้นมา แต่ยังไม่สามารถทัดเทียมพวกเขาได้
แต่อย่างน้อยหัวจิตหัวใจในสนาม พร้อมการได้มา 2 แต้ม มันมาจากความเป็นนักสู้ ที่ไม่ยอมแพ้ และจะไม่ยอมหันให้กับความแพ้พ่าย ตราบใดที่เสียงนกหวีดยาว ไม่ดังขึ้น
เกมกับเกาหลีเหนือ เมื่อคืนที่ผ่านมา ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย หลังจากเราตีเสมอ 2-2 มันคือห้วงที่พีคที่สุด
แฟนบอล รวมถึงตัวผมเอง ก็ลุ้นหัวใจแทบวาย เพราะทั้งคู่ออกมาเปิดหน้าแลกกันแบบนี้ ไม่ใครก็ใครต้องมีอันเป็นไปแน่นอน
น่าเสียดาย ที่เราต้องปิดฉากทัวร์นาเม้นต์ไว้แค่รอบแรก
แต่อย่างน้อยที่สุด เราได้รู้แล้วว่า เส้นทางของการเป็นทีมระดับท็อป มันคือเส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
สมาคมฯและทีมงานของซิโก้ น่าจะพอมีคำตอบในใจว่า เราพลาดตรงไหน? ควรแก้ตรงไหน?
จุดด้อย ข้อเสียทั้งหลายทั้งปวง จะต้องรีบกลับมาทำงานหนักต่อไป เพื่อเป้าหมายในวันข้างหน้า
ขณะที่ลีกในเมืองไทยเอง(ทีพีแอล) ก็ควรหาทางออกให้ฟุตบอลลีกโดยไว จัดโปรแกรมทุกอย่างให้ทีมชาติและสโมสรเดินไปพร้อมๆกันได้
เมื่อใดก็ตามที่เราทำมันได้อย่างที่ว่ามาข้างบนนี้ ใครละจะได้ประโยชน์ที่สุด ถ้าไม่ใช่ "ทีมชาติไทย" และแฟนฟุตบอลชาวไทยทั่วประเทศ!!