ถึงวงการฟุตบอลไทย.. ในวันที่ "เกียรติและศักดิ์ศรี" มัน(ยัง)กินไม่ได้! (โดย น้องเพชร)
ตามความคาดหมายของหลายๆคนที่ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดครับ สำหรับมติของคณะกรรมการบริษัทไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงเย็นวาน (6 ม.ค.59)
ระยะเวลานานกว่า 3 ชั่วโมงในที่ประชุม แต่เราๆท่านๆ แฟนบอลไทยตาดำๆกลับไม่ได้รับความชัดเจนอะไรเลย นอกจาก 2 ข้อสรุปนี้ คือ...
1. ฤดูกาลหน้า (2016) ต้องมีทีมในไทยพรีเมียร์ลีก 20 ทีม และจะเป็นจำนวนนี้ตลอดไป (แน่ใจนะ?)
2. บีอีซี เทโรศาสน ทีมอันดับ 16 ไทยลีกฤดูกาลที่ผ่านมา จะไม่ตกชั้นและได้เล่นในลีกสูงสุดของเมืองไทยต่อไปแน่นอน
โอเคจ้ะ สมหวังดั่งใจกันเลยทีเดียว!
ส่วนประเด็นอื่นๆ "ยังไม่เคลียร์" เลยครับ กระทั่งเรื่องใหญ่อย่างทีมตกชั้น-เลื่อนชั้น มีเพียง "เพื่อนตำรวจ" และ "พัทยา ยูไนเต็ด" สองทีมที่ดีที่สุดจากลีกวันเท่านั้น ที่การันตีเป็นสมาชิกไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าในฐานะทีมที่ 17 และ 18 ตามลำดับ
ส่วนที่ว่างอีก 2 ที่ ยังไร้ข้อสรุปที่แน่ชัด แต่แว่วมาว่าอาจจะให้ อันดับ 17-18 ไทยลีกอย่าง "การท่าเรือ เอฟซี" และ "ทีโอที เอสซี" ดวลกันเพื่อแย่งเก้าอี้ตัวที่ 19
ส่วนโควต้าสุดท้ายที่จะต้องขึ้นมาจาก ดิวิชั่น 1 (ยามาฮ่า ลีก วัน) "สุโขทัย เอฟซี" กับ "นครปฐม เอฟซี" ยังต้องดวลแมตช์ตกค้างเพื่อชิงโควต้าสุดท้าย
แต่ผลการแข่งขันห้ามออกมาลงเอยที่สกอร์ 0-0 เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น โควต้านี้จะตกไปเป็นของทีม "บีบีซียู" ในทันที (นับมินิลีก 3 ทีม บีบีซียู จะดีที่สุด และจะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นในทันที)
ไม่มีที่ไหนในโลกหรอกนะครับ ที่ฟุตบอลลีกภายในประเทศ เขาเปลี่ยนแปลงจำนวนหรือใช้วิธีหาทีมเลื่อนชั้น-ตกชั้น กันแบบฉุกละหุกตอนฤดูกาลจบไปแล้วแบบนี้!
ตามกฏนี่ต้องแจ้งสมาชิกในลีกล่วงหน้าเป็น 2-3 ปีนู่น เพื่อให้เกิดความพร้อม จัดสรรงบประมาณมูลค่าหลักสิบ-ร้อยล้านบาท วางแผนการทำทีมกันไป
แต่นี่คือ "ตูอยากเปลี่ยนอ่ะ ตูว่ามันเหมาะ" จะรอให้ศาลตัดสินปัญหา บีอีซี เทโรฯ กับ แบงค็อก ที่คาราคาซังอยู่ก็กลัวจะช้าเกินไป เอางี้ละกัน เพิ่มทีมซะ? ทุกอย่างจะได้จบ?!
แก้ปัญหาแบบนี้ ใครๆก็ดูออกครับ และพวกท่านผู้มีอำนาจก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ ว่าถ้าผลออกมาหน้านี้ "เสียงสรรเสริญ" ทั่วทุกสารทิศก็จะตามมา
แต่แล้วไง? ก็ตูจะทำแบบนี้อ่ะ! (ยักไหล่ ผายมือ แสยะยิ้มมุมปากด้วยจะเข้าถึงอารมณ์มากขึ้น)
เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอย่างไร คงไม่ต้องสาธยายมั้งครับ อย่างที่คุณอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานฯชลบุรี เอฟซี ที่ขอถอนตัวจากตำแหน่งบอร์ดทีพีแอล พร้อมกับ คุณทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่การลงมติยังไม่เริ่ม ให้สัมภาษณ์ไว้
"เราไม่เห็นด้วยจึงขอลาออก เพราะเราเชื่อว่าคงมีการล็อบบี้คุยกันนอกรอบมาหมดแล้ว"
ถึงตรงนี้ เห็นใจก็แต่แฟนบอลดีๆของเทโรฯและทีมอื่น ที่สุดท้ายแล้วจะได้ผลประโยชน์จากการลงมติครั้งนี้แหละครับ ต้องมาก้มหน้ารับกรรม กับสิ่งที่ผู้ใหญ่-ผู้บริหารทำกับทีมรักของตน
จะตัดหางปล่อยวัดสโมสรให้ออกจากใจก็ไม่ได้ เปิดฤดูกาลจะตามไปเชียร์ก็คงหนีไม่พ้นคำเหน็บแนมต่างๆนานา อายแค่ไหนก็ต้องเชิดหน้าหยิบเสื้อมาสวม ชูผ้าพันคอมาโบกกันต่อไป
นี่แค่ลีกสูงสุดนะครับ ยังวุ่นวายขนาดนี้ ยังไม่รวมทีมที่ต้องเลื่อนชั้น-ตกชั้นในลีกระดับรองๆลงไปอีก ซึ่งหนีผลกระทบไม่พ้นแน่นอน เพราะจำนวนทีมในลีกต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เจ้าของสโมสร, สปอนเซอร์ต่างๆ ลงทุนหลายสิบ-หลายร้อยล้านต่อปี เพื่อพัฒนาให้ทีมไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
นักฟุตบอล, บุคลากรในทีม เร่งยกระดับก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ ให้สมกับค่าเหนื่อยและความภาคภูมิใจในอาชีพตน
เหล่าแฟนบอล กองเชียร์ที่เปี่ยมไปด้วยศรัทธา เสียเงินเข้าสนามมาชมทีมรัก เสียเวลามาให้กำลังใจนักเตะ ทุ่มทั้งแรงกายแรงใจให้สโมสร
"ยอมใจ" เลยครับ ที่บอร์ด "ทีพีแอล" รู้รักสามัคคี กล้าให้ผลออกมาเป็นแบบนี้ "กิเลสมนุษย์" มันสุดแท้หยั่งถึงจริงๆ เห้อ!
สถิติ "ไม่เคยตกชั้น" ของสโมสร? ถูกต้องครับ ด้วยวิธีนี้ คุณรักษามันไว้ได้
แต่ "เกียรติและศักดิ์ศรีของทีม" คุณทำลายมันด้วยน้ำมือตัวเอง จน "หมดสิ้น" ไปแล้ว!!
เรื่องโดย "น้องเพชร"
