มั่นใจรับมือได้! "คมเพชร" ชี้งานถนัดเจอมวยต่างชาติพร้อมคว่ำ "อับดาลลาห์"

“คมเพชร ศิษย์สารวัตรเสือ” มวยฝีมือเชิงสูงจากนครราชสีมา แสดงความมั่นใจว่าจะสานต่อสถิติไร้พ่ายต่างชาติบนเวทีแห่งนี้ ด้วยการเอาชนะ “อับดาลลาห์ ออนดาช” คู่ชกฟอร์มสดจากเลบานอน ในการสู้กันภายใต้กติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ขึ้นป้ายคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 132 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ไปยัง 195 ประเทศทั่วโลก ในวันศุกร์ที่ 7 พ.ย.นี้ เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
แม้ “อับดาลลาห์” จะเป็นนักชกจอมดุที่คว้าชัยเหนือคู่ชกชาวไทยมาแล้วถึง 6 จาก 7 ไฟต์บนเวทีแห่งนี้ แถมยังปิดเกมได้อีก 4 ครั้ง แต่ “คมเพชร” ที่เป็นเจ้าของสถิติ 3 ไฟต์ไร้พ่ายต่างชาติในรายการนี้ก็แสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถดับฮอตคู่ชกรายนี้ลงได้ เพราะการเจอกับนักมวยต่างชาติคือสิ่งที่เขาถนัดที่สุด และรู้ดีว่าต้องสู้ในรูปแบบไหนถึงจะเป็นฝ่ายได้รับการชูมือ
“ผมชอบชกกับนักมวยต่างชาติ เพราะโดยทั่วไปอาวุธจะไม่หลากหลายและวงในไม่แข็งเท่านักมวยไทย หากป้องกันตัวดีและมีสติเมื่อถูกกดดัน ก็มีโอกาสสูงที่จะชนะ ในไฟต์นี้ ผมจึงเน้นซ้อมการป้องกันตัวมาเป็นพิเศษ และเตรียมแข้งขวาที่รุนแรงมากขึ้น ตั้งใจจะสาดต่อเนื่องเพื่อทำให้เขาเคลื่อนไหวยาก และถ้าเห็นเขาออกอาการเมื่อไหร่ ผมจะเล่นงานจากวงในทันทีครับ”

“ไฟต์นี้สำคัญมาก ถ้าเอาชนะ อับดาลลาห์ ได้สวย ชื่อของผมจะกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ผมมั่นใจว่าถ้าไม่พลาดโดนหมัด ผมจะชนะได้แน่นอน และถ้ามีโอกาส ผมจะพยายามปิดเกมให้ได้ด้วยครับ”
วันศุกร์ที่ 7 พ.ย.นี้ จะเป็นไฟต์ที่ 2 ของ “คมเพชร” ที่ขึ้นชกบนเวที ONE ลุมพินี นับตั้งแต่ย้ายจากค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ กลับมาซ้อมที่ค่ายมวยศิษย์สารวัตรเสือ ซึ่งการย้ายกลับมาครั้งนี้ทำเขาให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดน้อง “สิงห์” ลูกชายสุดที่รัก วัย 8 เดือน และกลายเป็นกำลังใจชั้นเยี่ยมที่ช่วยเติมเต็มความมุ่งมั่นให้กับเขาก่อนออกล่าชัยในไฟต์นี้
“ไฟต์ล่าสุดกับ ก้องชัย เป็นครั้งแรกที่ผมย้ายกลับมาซ้อมที่ค่ายมวยศิษย์สารวัตรเสือ การได้ย้ายกลับมาซ้อมที่นี่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้ง ซึ่งผมไม่ได้กลับมาตัวเปล่า แต่ผมกับ ก้องศึก ได้นำความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา และการฝึกซ้อมในรูปแบบต่าง ๆ จากค่ายแฟร์เท็กซ์ กลับมาช่วยพัฒนาที่ค่ายด้วย”
“ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่นี่ ชีวิตมีความสุขมาก เพราะได้เจอลูกชายทุกวัน ต่อให้ต้องซ้อมเหนื่อยแค่ไหน แต่พอได้กลับมาเห็นหน้าลูกก็รู้สึกหายเหนื่อยทันที เขาคือกำลังใจที่สำคัญที่สุด และเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมมีแรงฮึดซ้อมในแต่ละวัน เพื่อจะได้ขึ้นเวทีไปเก็บชัยชนะในทุกไฟต์และสร้างอนาคตที่ดีให้กับเขาครับ”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น. ส่วนทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น. และสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี



