เซร์คิโอ รามอส กับ "ชุดขาวที่แปดเปื้อน"

จาก “เซร์คิโอ รามอส ต้องการย้ายออกในเวลานี้” และ “ให้เกียรติต่อตราสโมสร!” คือข่าวพาดหัวของ 2 หนังสือพิมพ์ใหญ่ในสเปน ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการฟุตบอลไม่น้อย

ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าสถานการณ์ระหว่างรองกัปตันทีมเรอัล มาดริด กับสโมสรจะรุนแรงถึงเพียงนี้ และมีโอกาสเป็นอย่างยิ่งที่ปราการหลังจอมแกร่งจะเก็บข้าวของย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการได้ตัวเขามาเป็นการแลกเปลี่ยน หากต้องเสีย ดาบิด เด เกอา ไปให้กับ “ราชันชุดขาว” จริง

แน่นอนครับว่าเรื่องนี้ย่อมเป็นที่สนใจของผู้คนว่าเกิดอะไรขึ้น?

ความจริงความไม่ลงรอยกันระหว่าง รามอส รองกัปตันทีมที่เป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลมากที่สุดของสโมสรกับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรผู้ยิ่งใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่

ทั้งสองมีความขัดแย้งกันอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และยิ่งปล่อยให้วันเวลาผ่าน ดูเหมือนความหวานที่เคยชุ่มชื่นจะกลายเป็นความขมที่ฝาดและบาดคอ

ปมร้อนที่นำไปสู่จุดแตกหักคือเรื่องของการต่อสัญญาฉบับใหม่ โดยแม้จะเหลือระยะเวลาอีก 2 ปี ในสัญญา แต่ตามธรรมเนียมของวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน ระยะเวลาที่เหลือนั้นน้อยมากสำหรับการเจรจาต่อสัญญาใหม่ของผู้เล่นระดับตัวหลัก

และการที่เรื่องราวยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลานานไม่ใช่สัญญาณที่ดีแม้แต่น้อย

สำหรับรามอส แม้จะเป็นสายเลือดเซบีญาโน่ แต่การที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในซานติอาโก เบอร์นาบิว มา 10 ปี การตัดสินใจที่จะอำลาทีมไปไม่ใช่สิ่งที่ทำได้ง่ายนัก

หนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา รามอส ก้าวจากการเป็นแบ็กขวาดาวรุ่งของวงการฟุตบอลสเปนที่เรอัล มาดริด รีบตัดสินใจดึงตัวมาร่วมทีม มาสู่การเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ค้ำยันทีม เป็นรองกัปตันทีมที่ผ่านการรับใช้สโมสรมามากกว่า 400 นัด

เหนืออื่นใด เขาคือผู้ที่ทำประตูชัยให้ทีมพิชิต “ลา เดซิม่า” หรือการคว้าแชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 มาครองได้เมื่อฤดูกาล 2013-14

ความผูกพันนั้นแน่นแฟ้นและยากที่จะตัดให้ขาด

แต่ดูเหมือนครั้งนี้เขาอาจจะต้องไป

ประเด็นใหญ่ที่ถูกจับตาคือเรื่องของการเจรจาต่อสัญญา ซึ่งสื่อกระพือว่ารามอส ต้องการเงินรายได้ที่มากขึ้น โดยเดิมได้อยู่เพียงฤดูกาลละ 6-7 ล้านยูโรต่อปี หลังหักภาษี ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยกว่า คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ถึงปีละ 12 ล้านยูโร และน้อยกว่าสตาร์รุ่นหลังอย่าง แกเร็ธ เบล, คาริม เบนเซม่า หรือ อิเคร์ คาซิญาส ด้วยซ้ำไป

ในขณะเดียวกันปราการหลังจอมบู๊ยังเชื่อว่า มาดริด ภายใต้การบงการของซินญอร์เปเรซ พยายามที่จะทำลายชื่อเสียงของเขาที่สั่งสมมา โดยใส่ร้ายและป้ายสีให้แฟนบอลเข้าใจว่าเขาเป็นพวก “หน้าเงิน” ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญใดๆกับสโมสร

เรื่องนี้กลายเป็นปมใหญ่ที่หนังสือพิมพ์ ลา ราซอน ที่ตีพิมพ์ภาพของ รามอส ในแอ๊กชั่นการฉลองประตูโดยมือนั้นตบไปที่หัวใจ ซึ่งมีตราสโมสร เรอัล มาดริด อยู่ พร้อมกับพาดหัวว่า “ให้เกียรติต่อตราสโมสร!"

สำหรับ รามอส เรื่องเงินอาจทำให้รู้สึกน้อยใจ แต่มันไม่ร้ายแรงเท่ากับการที่เขาถูกตราหน้าว่าไม่รักสโมสร

ยิ่งมีกระแสข่าวที่หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานสโมสรบาร์เซโลน่า ฆอร์ดี้ มาโจ ออกมาเปิดเผยว่ารามอส เสนอตัวเองในการย้ายมาบาร์เซโลน่าในกรณีที่มาโจได้เป็นประธาน ก็ยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเขาตกต่ำลงไปอีก ทั้งที่ตัวมาโจ เองก็ออกมาปฏิเสธข่าวในภายหลังว่าไม่ได้มีการติดต่อโดยตรงกับรามอส หรือเอเยนต์ของเขาเลยก็ตาม

รามอส รู้สึกว่าเขาตกเป็น “จำเลย” โดยที่เรอัล มาดริด ก็ไม่พยายามที่จะออกมาปกป้องเขาแม้แต่น้อย

ที่เจ็บยิ่งกว่าคือการที่สามารถสัมผัสได้อย่างง่ายดายว่าเบื้องหลังกระแสข่าวทั้งหมด สโมสรที่เขารักนั่นเองที่บงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นเกมสกปรกที่พบเห็นได้เป็นปกติในหมู่สโมสรใหญ่ของโลกที่มักจะมีอะไรแอบแฝงเสมอ

สถานการณ์ทุกอย่างนำไปสู่ “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่นำไปสู่การตัดสินใจว่าบางครั้งเขาอาจถึงคราวต้องจากทีมไปแม้จะไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ

มากกว่านั้นคือ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า “ที่หมาย” ต่อไปในชีวิตจะเป็นที่ใด

มีความเป็นไปได้ครับที่จะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มากที่สุด ด้วยสถานะของทีมที่ใกล้เคียง ด้วยชื่อเสียง และด้วยความเป็นไปได้ที่จะถูกใช้เพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อนำ เด เกอา มาสู่มาดริด ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงจะยิ่งเจ็บปวดสำหรับ รามอส

เพราะนั่นหมายถึงในท้ายที่สุดเขาก็ถูกใช้เป็น “เครื่องมือ” ของสโมสร

ทำให้ชุดขาวที่เคยสง่างามต้องมีมลทิน

ลูกแม่กิ่ง