"ชาบี้ & ปีร์โล่" ตำนานคนไหนจะได้ทริปเปิ้ลแชมป์??

"ชาบี้ & ปีร์โล่" ตำนานคนไหนจะได้ทริปเปิ้ลแชมป์??

"ชาบี้ & ปีร์โล่" ตำนานคนไหนจะได้ทริปเปิ้ลแชมป์??
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เกมนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ระหว่าง บาร์เซโลน่ากับยูเวนตุส มีหลากหลายประเด็นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการลุ้น 3 แชมป์ของทั้ง 2 สโมสร ซึ่งมีเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ได้อย่างที่ใจปรารถนา รวมไปถึงการเจอกันอีกครั้งระหว่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่กับหลุยส์ ซัวเรซ และเส้นทางที่โคจรมาจ๊ะเอ๋กันระหว่างคาร์ลอส เตเบซกับฮาเวียร์ มาสเคราโน่

ทว่าวันนี้ขอพูดถึง 2 ผู้ยิ่งใหญ่ของทั้ง 2 ทีมที่เดินทางเก็บเกี่ยวความสำเร็จในอาชีพค้าแข้งมามากมาย จนถึงโค้งสุดท้ายก่อนเข้าเส้นชัย อันเดรีย ปีร์โล่ และ ชาบี้ เอร์นานเดซ คือ 2คนนั้นครับ

ทั้งคู่ต่างเป็นมิดฟิลด์ที่เน้นเทคนิคมากกว่าใช้ความแข็งแกร่ง นั่นทำให้ยืนระยะอยู่ได้ยาวนาน ไม่ว่าสไตล์ของโลกฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงหรือเดินไปทางไหน

ชาบี้ วัย 35 ปี ในขณะที่ ปีร์โล่ 36 ปี ผ่านช่วงพีคที่สุดในอาชีพค้าแข้งไปพักใหญ่แล้ว แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังคงมีความสำเร็จอีกมากมายเข้ามาในชีวิต

ไม่ใช่แค่ในระดับสโมสร ชาบี้ คือหัวใจสำคัญของทีมชาติสเปนที่ขึ้นไปถึงแชมป์โลกในปี 2010 และแชมป์ยุโรปในปี 2008 และ 2012

ในขณะที่ ปีร์โล่ ขึ้นถึงจุดสูงสุดเช่นกันด้วยการพาทีมอิตาลีเป็นแชมป์โลกในปี 2006 และรองแชมป์ยุโรปในปี 2012 ซึ่งอิตาลีแพ้ให้กับสเปนในนัดชิง

การโคจรมาเจอกันจึงสมบูรณ์แบบอย่างยิ่ง อนาคตการขาดหายไปของทั้ง 2 คน ในระดับสโมสรอาจจะไม่กระทบเท่าไหร่ แต่ในระดับชาตินั้นมีผลแน่นอน สเปนเจอไปแล้วต้องปรับกระบวนทัพกันใหม่ ในขณะที่อิตาลีเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญเช่นกันกับการหานักเตะที่ความสามารถในระดับเดียวกับ ปีร์โล่

ความแตกต่างอย่างหนึ่งที่ชัดเจนของ 2 คนนี้ ชาบี้ ปักหลักกับบาร์ซ่ามาตั้งแต่อ้อนแต่ออก ในขณะที่ ปีร์โล่ ล้มลุกคลุกคลานกับอินเตอร์ มิลาน จนต้องย้ายข้ามห้วยไปใส่เสื้อเอซี มิลาน

หลังจากนั้นก็เบิกบานกับชีวิตค้าแข้งมาตลอด จนย้ายมาร่วมงานกับยูเวนตุสในปี 2011 ผลงานก็ยังคงดีต่อเนื่อง มีความสำเร็จให้เก็บเกี่ยวเป็นเกียรติประวัติมากมาย

วิธีการเล่นของ อันเดรีย ปีร์โล่ จะมีอิทธิพลต่อเกมของทีมนั้นๆสูงมาก ในระดับทีมชาติก็เช่นกัน โดยมีการสร้างสรรค์เกมด้วยตัวเอง เกมที่จำเป็นต้องมีใครสักคนกำกับการแสดงให้ชัดเจน ปีร์โล่ จะโดดเด่นในรูปแบบนี้

การเดินทางไปทั่วแดนกลาง ก่อนจะปักหลักลึกอยู่หน้าแนวรับเพื่อมองหาโอกาสในการปั้นเกมขึ้นไปข้างหน้าด้วยความสง่างามและมีประสิทธิภาพ หากรวมการเป็นแมตช์วินเนอร์เข้าไปด้วย ยิ่งช่วยให้เห็นการมีอิทธิพลต่อเกมของ ปีร์โล่ ชัดเจนมากขึ้น

ชาบี้ มีวิธีการที่แตกต่างออกไป แต่ในเรื่องของความสำคัญที่มีต่อเกมของทีมนั้นไม่แตกต่าง แน่นอนครับคงต้องมองย้อนกลับไปนิดหน่อย เพราะปัจจุบันนี้เกมของบาร์ซ่าเป็นยุคของ MSN เมสซี่, ซัวเรซ และ เนย์มาร์

ทว่าก่อนหน้านี้ความสำคัญสูงสุดของบาร์ซ่าอยู่ที่มิดฟิลด์ ซึ่งมี ชาบี้ เป็นแกนหลัก ความสำเร็จของสโมสรอยู่บนพื้นฐานของเกมในแดนกลาง อันเป็นสัญลักษณ์ของสไตล์ Tiki Taka อันลือลั่น

ชาบี้ ไม่ใช่สไตล์ แมตช์วินเนอร์หรือมีอิทธิพลในการปั้นเกมให้กับทีมเหมือน ปีร์โล่ ทว่าทีเด็ดอยู่ที่การควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างด้วยการผ่านบอลสั้นๆไปเรื่อยๆ

อิทธิพลของ ชาบี้ อยู่ที่การผ่านบอลสั้นๆไปเรื่อยๆนี่แหละ ทำให้คู่แข่งต้องไล่ ซึ่งแน่นอนว่าไล่ไม่จน แต่ทำให้เกิดช่องขึ้นมากมายในแนวรับคู่ต่อสู้ เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์จากช่องที่เปิดนั้นได้ถ้วนหน้า

ไม่มีนักเตะคนไหนได้บอลและผ่านบอลในแต่ละเกมมากเท่ากับ ชาบี้ อีกแล้ว นี่คือความยิ่งใหญ่ในสไตล์ที่แตกต่างออกไปของมิดฟิลด์บาร์ซ่าซึ่งไม่ต้องใช้การยิงประตูหรือการแอสซิสต์มาวัดความสามารถ วัดความสำคัญแต่อย่างใด

เพื่อนร่วมทีมจะมีทางเลือก มีช่องทางต่างๆมากกว่าตัวเขาเอง เป็นความซับซ้อนของการเล่นที่ ชาบี้ ทำให้ดูเหมือนง่ายๆ

มีนักเตะไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถพูดได้ว่าเป็นปัจจัยหลักในการเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรและทีมชาติ ชาบี้ คือหนึ่งในนั้น

ไม่จำเป็นครับที่จะวัดกันว่า ชาบี้ เอร์นานเดซกับอันเดรีย ปีร์โล่ ใครยิ่งใหญ่กว่ากัน เพราะทั้ง 2 คนจะเป็นตำนานที่เล่าขานกันไปอีกนานแสนนานกับสิ่งที่สร้างสรรค์เอาไว้ให้กับวงการ

อาจจะมีเล็กน้อยที่สามารถวัดกันได้ นั่นคือใครจะคว้า 3 แชมป์ไปครองและปิดท้ายฟุตบอลในระดับท็อปลงไปด้วยความสวยงามกว่ากัน มีเพียงคนเดียวครับ...

ดามัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook