ศึกชิงเก้าอี้ประมุขสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า(FIFA) กลับมาคึกคัก เมื่อ เจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซน หนึ่งในผู้ท้าชิงตำแหน่งออกโรงชูนโยบายจะเพิ่มทีมเข้าแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จากเดิม 32 ทีม เป็น 36 ทีม ในปี 2018
ความเคลื่อนไหวของศึกชิงเก้าอี้ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่า(FIFA) หลังจากที่ ไมเคิ่ล ฟาน ปรากก์ นายกสมาคมฟุตบอลฮอลแลนด์ และ หลุยส์ ฟิโก้ อดีตดาวเตะระดับตำนานแดนฝอยทอง(โปรตุเกส) ออกมาประกาศถอนตัวไป ทำให้เวลานี้เหลือผู้สมัครหัวเรือใหญ่ฟีฟ่าเพียง เจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซน กับ เซปป์ แบลตเตอร์ เจ้าของตำแหน่งเดิม
ล่าสุด เจ้าชายอาลี บิน อัล ฮุสเซน รัชทายาทแห่งราชวงศ์จอร์แดน ซึ่งได้ลงสมัครท้าชิงในครั้งนี้ ได้ออกมาชูนโยบายหวังให้ได้รับชัยชนะ ด้วยการบอกว่าหากได้รับเลือกเป็นประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ สิ่งแรกที่จะทำคือการเพิ่มทีมเข้าแข่งขันในศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจาก 32 ทีม เป็น 36 ทีม
โดยจะให้เริ่มศึกฟุตบอลโลก ปี 2018 ที่รัสเซีย เป็น 36 ทีมโดยทันที "ผมมีความมุ่งมั่น และตั้งใจว่าพร้อมที่จะเพิ่มทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจาก 32 ทีม เป็น 36 ทีม โดยแบ่งให้กับโซนเอเชีย, โซนแอฟริกา, โซนคอนคาเคฟ และอีกหนึ่งทวีปที่ดูแล้วมีความเหมาะสมสำหรับโควต้าดังกล่าว" เจ้าชายอาลีวัย 39 ปี กล่าว
สำหรับการเลือกตั้งประมุของค์กรลูกหนังโลกคนใหม่นั้น จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคมนี้ ที่สำนักงานใหญ่ของฟีฟ่า เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์