เบื้องหลังการหนีสงครามสู่รังไก่เดือยทองของ "มานอร์ โซโลมอน" - [OPINION]

เบื้องหลังการหนีสงครามสู่รังไก่เดือยทองของ "มานอร์ โซโลมอน" - [OPINION]

เบื้องหลังการหนีสงครามสู่รังไก่เดือยทองของ "มานอร์ โซโลมอน" - [OPINION]
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว มานอร์ โซโลมอน ปีกทีมชาติอิสราเอลจาก ชัคตาร์ โดเนตส์ค ในลีกยูเครน มาเสริมทัพแบบไม่มีค่าตัวเรียบร้อยแล้ว และเส้นทางกว่าจะมาถึงทัพ "ไก่เดือยทอง" ของแข้งรายนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 โซโลมอน ยังคงค้าแข้งกับ ชัคตาร์ และอาศัยอยู่ในกรุงเคียฟ ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในเหตุการณ์วันที่รัสเซียเปิดฉากเริ่มสงครามโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย

ตัวรุกคนใหม่ของ สเปอร์ส เริ่มเล่าว่า "ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงระเบิดและเสียงไซเรน มันเหมือนอยู่ในหนังเลย ทุกคนตื่นตระหนกเพราะสงครามได้เริ่มขึ้นแล้ว และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ผมรู้ว่าผมต้องหนีออกมา เพราะสถานการณ์มันกำลังจะแย่ลง"
rโซโลมอน เก็บข้าวของใส่กระเป๋าเดินทางอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็มาถึงชายแดนโปแลนด์หลังจากการเดินทางด้วยรถยนต์อันเคร่งเครียดยาวนานถึง 17 ชั่วโมง แต่ต้องรอนานกว่า 10 ชั่วโมงในอุณหภูมิเยือกเย็นก่อนที่จะได้รับการช่วยเหลือและกลับบ้านที่อิสราเอล

โซโลมอน กล่าวต่อว่า "ผมกำลังจะขาดอาหารและน้ำ บริเวณนั้นไม่มีอะไรจะซื้อได้เลย ผมสามารถข้ามพรมแดนได้ด้วยความช่วยเหลือจากนักการทูตของอิสราเอล หากพวกเขาไม่มา ผมไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผมบ้าง"

อย่างไรก็ตาม 17 เดือนต่อมา โซโลมอน ก็ย้ายจาก ชัคตาร์ มายัง สเปอร์ส โดยเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาย้ายไปเล่นกับ ฟูแลม ด้วยสัญญายืมตัว และทำผลงานได้อย่างประทับใจจากการซัดไป 5 ประตู จาก 24 นัด จากการลงเล่นรวมทุกรายการ

โซโลมอน ย้ายเข้าร่วมทีม ฟูแลม ด้วยการยืมตัวมาจาก ชัคตาร์ หลังจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) อนุญาตให้ผู้เล่นในลีกยูเครนสามารถระงับสัญญากับต้นสังกัดได้ ซึ่งกฎดังกล่าวใช้กับนักเตะที่ไม่ใช่ชาวยูเครน
tกองกลางชาวอิสราเอล กล่าวต่อว่า "หัวใจของผมส่งไปยังผู้คนที่ยังอยู่ที่นั่น เมื่อปีที่แล้วเป็นปีที่ยากที่สุดในชีวิตของผม"

โซโลมอน อยู่ที่ ชัคตาร์ เป็นเวลานานถึง 3 ปี หลังย้ายจาก มัคคาบี เปตาห์ ทิควา เมื่อปี 2018 และสร้างชื่อให้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว โดยในวัย 20 ปี เจ้าตัวซัดประตูแรกได้ในยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งเป็นประตูชัยในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในเกมที่พบกับ อตาลันตา เมื่อปี 2019

อดีตปีก ชัคตาร์ กล่าวว่า "ผมอายุ 19 ปี ตอนที่ผมย้ายไปที่ยูเครน ผมอยากย้ายออกจากอิสราเอล พัฒนาตัวเองในฐานะนักเตะ และเล่นในเกมใหญ่ของยุโรป"

ชีวิตของ โซโลมอน ที่ ชัคตาร์ กำลังไปได้สวยงามหลังจากพาทีมคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย แต่เดือนมกราคมปี 2022 ข่าวการรุกรานจาก รัสเซีย เริ่มเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทำให้เขาเกิดความวิตกกังวลอย่างหนักกับสถานการณ์ดังกล่าว
e"สโมสรบอกเราว่า เราไม่มีอะไรต้องกลัว และไม่มีอะไรจะเกิดขึ้นแม้ว่าเราจะกังวลก็ตาม ตอนที่ผมกลับจากฝึกซ้อมที่ตุรกีไปที่เคียฟ เราตัดสินใจรออีก 2-3 วันเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจสิ่งต่างๆ แล้วสงครามก็เกิดขึ้น ผมโชคดีที่ได้ออกมา"

"หลังจากขับรถอย่างหนักนานกว่า 15 ชั่วโมง คนขับพาผมไปส่งใกล้ชายแดนโปแลนด์ด้วยความหวังว่าผมจะผ่านไปได้ ส่วนชายหนุ่มชาวยูเครนไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนกประเทศ ที่ชายแดนมีความโกลาหลครั้งใหญ่ ผู้คนนับหมื่นทั้งหญิงและชายพร้อมครอบครัวและเด็กทารกที่ยืนร้องไห้พร้อมกับกระเป๋าเดินทางท่ามกลางความหนาวเย็น"

"เมื่อผมเห็นว่าคิวของตัวเองไม่คืบหน้า และผมติดอยู่ที่เดิม ผมตระหนักว่า ไม่มีอะไรขึ้นอยู่กับผมอีกแล้ว ผมแค่รอรถกู้ภัยของอิสราเอลที่อาจสามารถช่วยผมได้หลังจากต่อคิวรอกระเป๋าเดินทางท่ามกลางฝูงชนกว่า 10 ชั่วโมง โทรศัพท์ที่ผมกำลังรออยู่ก็มาถึง ผมเข้าไปในรถที่มีครอบครัวชาวอิสราเอลอีกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งอพยพมา และเราข้ามพรมแดนไปด้วยกัน"
pขณะเดียวกัน นับตั้งแต่มาเล่นในกรุงลอนดอนชีวิตของ โซโลมอน ก็มีความท้าทาย โดยหลังจากลงเล่นให้กับ ฟูแลม ไปเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดและต้องพักรักษาตัวเป็นเวลา 5 เดือน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ โซโลมอน ฟิตสมบูรณ์แล้ว และกำลังจะเริ่มต้นซีซันใหม่กับ สเปอร์ส ซึ่งเจ้าตัวเองก็หวังว่า จะประสบความสำเร็จกับพลพรรค "ไก่เดือยทอง" ได้ในท้ายที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook