Scoop : เป้าหมายของนักกรีฑา ไทยในซีเกมส์ที่กัมพูชา

Scoop : เป้าหมายของนักกรีฑา ไทยในซีเกมส์ที่กัมพูชา

Scoop : เป้าหมายของนักกรีฑา ไทยในซีเกมส์ที่กัมพูชา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

1 ชนิดกีฬาที่กวาดเหรียญในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ได้มากที่สุด ก็คือกรีฑา ทั้งประเภทลู่และลาน ภายใต้การดูแลของสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ พัฒนานักกรีฑารุ่นใหม่ๆ มาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยแบบต่อเนื่อง นี่คือเรื่องราวเป้าหมาย ของนักกรีฑาไทยในซีเกมส์ 2023 ที่ประเทศกัมพูชา

ความพร้อมที่เกินร้อย

"แฝดใหญ่" หรือ พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เริ่มเล่าย้อนหลังไปถึงช่วงเตรียมการ ซึ่งหลายคนกังวลถึงความพร้อมของกัมพูชาในฐานะเจ้าภาพครั้งแรก  

"ในตอนแรกเป็นห่วงเรื่องการจัดการ เพราะเคยไปดูสถานที่เมื่อช่วงก่อนโควิดระบาด กัมพูชาไม่เคยจัดซีเกมส์มาก่อน เลยมีปัญหาหลายอย่าง ทั้งเรื่องกติกา และอื่นๆ"

ท้ายที่สุดแล้ว พล.ต.ต.สุรพงษ์ บอกว่าการเข้ามามีบทบาทของสหพันธ์กีฬาเอเชีย ที่ได้เข้าไปช่วยกำกับดูแล ก็ทำให้ปัญหาต่างๆ ได้รับการแก้ไข สอดคล้องกับความพร้อมของทีมกรีฑาไทยในการแข่งขันครั้งนี้  

"พร้อมมากกว่าซีเกมส์คราวที่แล้ว เพราะห่างกัน 1 ปี นักกีฬาซ้อมตลอด โดยเฉพาะเด็กใหม่ๆ ทั้ง 4 คูณ 100 เมตรชายที่โตมาจากเยาวชนปีที่แล้ว และชุดที่ไปโคลอมเบีย รวมถึง 400 เมตรชายที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด"

 เสริมเทคนิคด้วยตำนานจากจาเมกา

 บิว ภูริพล บุญสอน เป็นชื่อแรกที่ พล.ต.ต.สุรพงษ์ เอ่ยถึง ในฐานะดาวรุ่ง และเพชรเม็ดงามของทัพกรีฑาไทย โดยพล.ต.ต.สุรพงษ์ บอกว่า ในตอนนี้บิวถูกฝึกซ้อมแบบระมัดระวัง เพื่อให้ก้าวไปข้างหน้า

"มีการปรับใหม่หมดเพื่อก้าวไปสู่รุ่นใหญ่ เพื่อเรียนรู้ เพราะการแข่งระดับโลกมันต่างกัน อย่ากลัว เพราะไม่มีแชมป์คนไหนไม่เคยแพ้มาก่อน ต้องเรียนรู้ จุดหนึ่งจะเป็นแชมป์ได้"

สมาคมกีฬากรีฑาจึงดึงตำนานจากจาเมกา ดอน ควาร์รี่ เข้ามาช่วยเสริมการฝึกให้ทีมระยะสั้น โดยควาร์รี่คือเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 200 เมตร และเหรียญเงิน 100 เมตร จึงมีความรู้และเทคนิคที่เหมาะกับทีมสปริ้นต์เตอร์ไทย

"เขาเป็นเพื่อนรัก คุ้นเคยกันมา 40 กว่าปี เมื่อปี 2553 เอเชี่ยนเกมส์กวางเจาเคยเข้ามาช่วยแล้ว ติดต่อคุยโทรศัพท์กันว่าอยากได้คนมาช่วย ปรึกษาเรื่องเทคนิค เขาเป็นคนน่ารัก เต็มร้อยเสมอ ก็มาอยู่ 45 วัน จะกลับสิ้นเดือนนี้"

ความหวังเหรียญทอง และสถิติใหม่

นอกจากบิว ภูริพลแล้ว ซีเกมส์ครั้งนี้เราจะยังได้เห็นฟอร์มของนักวิ่งไทยอีกหลายคน ทั้ง "จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน" ลูกครึ่งไทยออสเตรเลียในระยะ 400 และ 800 เมตร คีริน ตันติเวทย์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ในระยะ 1500, 5000, และ 10000 เมตร

ขณะเดียวกันเหล่าดาวรุ่งหน้าใหม่ ได้พัฒนาฝีเท้าจนขึ้นมาเป็นตัวจริงได้อีกหลายคน รวมถึงนักกีฬาดาวรุ่งจากซีเกมส์ครั้งก่อน ที่ได้กลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง "ซีเกมส์ครั้งนี้ 100 เมตร 200  เมตร 4*100 เมตรชาย ก็น่าจะมีสถิติใหม่ 400 เมตร 4*400 เมตรก็เช่นกัน"

พล.ต.ต.สุรพงษ์ เล่าว่า ความพร้อมที่ชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ผ่านผลงานตลอด 1 ปีของนักกีฬาทุกคน โดยเฉพาะตัวความหวัง คือบิว และจอชชัว "จอช บิว จะมีสถิติใหม่ เด็กใหม่ๆ ของเราก็มีสถิติที่ดี น่าจะได้เห็นสถิติใหม่ 4*400 เมตรชาย"

ส่วนคีริน จะกลับมาลงสนามครั้งนี้ด้วยความหวัง 3 เหรียญทองของทัพกรีฑาไทย "ตอนแรกผมคุยคุณพ่อคีริน เขาบอกว่า โค้ชอยากให้ลงแค่รายการเดียว เลยคุยเพิ่มเติมไปว่า อยากให้มาทำเหรียญทอง ไม่ต้องเอาสถิติ ให้มาทำเวลาไปควอลิฟายที่อเมริกา"

นั่นทำให้คีรินตัดสินใจลงแข่งทั้ง 3 ระยะ โดยพล.ต.ต.สุรพงษ์บอกว่า หลังจากได้ชมผลงานของคีรินล่าสุด ทำสถิติ 1500 เมตรประเทศไทยได้เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็บอกได้เลยว่า สุดยอด

"อยากให้มาช่วยเอาเหรียญทองให้ได้มากที่สุด ผมดูเขาวิ่ง 1500 ล่าสุด สุดยอด บอกได้เลยว่า ภูมิภาคแถวนี้ ในซีเกมส์ไม่มีใครตามได้ทัน ผมดูถ่ายทอดเขาก็มาเร่งที่ 100 เมตรสุดท้าย แล้วแซงเลย ความเร็วดีมาก ผมบอกเขาว่า ยูวิ่งแค่มาเอาให้ชนะ เพื่อ3 เหรียญให้เรา"

 นอกจากนั้นกรีฑายังมีตัวความหวัง ทั้ง ทศกรีฑา สัตตกกรีฑา ทุ่มน้ำหนักชายหญิง และค้ำถ่อ รวมถึงประเภทลานอื่นๆ โดยทุ่มน้ำหนักและค้ำถ่อนักกีฬาทำสถิติดีขึ้นต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่ามีลุ้นได้ถึงเหรียญทอง

เป้าหมายต่อไปหลังซีเกมส์

คิวต่อไปหลังซีเกมส์ ก็คือเอเชี่ยนเกมส์ที่หางโจว ยุวชนเอเชีย และเยาวชนเอเชีย รวมถึงในวันที่ 12 -16 กรกฎาคมนี้ ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย

พล.ต.ต.สุรพงษ์ บอกว่า ได้เตรียมพร้อมให้ทัพกรีฑาไทย สำหรับโปรแกรมการแข่งทั้งหมดไว้แล้ว เพราะมองว่าทุกคนมีโอกาสแข่งในรายการใหญ่ได้เทียบเท่านักกีฬาประเทศอื่น และยังวางโปรแกรมส่งนักกีฬาไปเก็บตัวและแข่งในอเมริกาด้วย

 "เราอยากส่งทีมไปซ้อมและแข่งในอเมริกาตอนก่อนซีเกมส์ แต่โอกาสไม่ได้เพราะการทำวีซาคิวยาวมากต้องวางแผนข้ามปี เลยวางเป็นปีหน้า ว่าจะให้ไปซ้อม ไปเจอคู่แข่งที่นั่น เพื่อควอลิฟายไปเวิลด์แชมป์ฯ (กรีฑาชิงแชมป์โลก) และโอลิมปิกปีหน้าด้วย"

 โดยชิเนเยะ โจเซฟฟิน โอนูโอราห์ นักวิ่งสาวไทยลูกครึ่งไนจีเรีย อีก 1 นักวิ่งหญิง ความหวังของประเทศไทยจะได้กลับมาเก็บตัวเต็มระบบเพื่อเป้าหมายทั้งหมดนี้ด้วยเช่นกัน

 เสียดายที่ชิเนเยะติดมาแข่งซีเกมส์ครั้งนี้ไม่ได้ แต่จะมาในชิงแชมป์เอเชีย คือจะมาตั้งแต่ปลายมิ.ย. ซึ่งถ้าได้มาคู่กับเบนนี่ (เบนนี่ โนนทะนำ นักวิ่ง 400 เมตรหญิง ลูกครึ่งไทย-ไลบีเรีย) ที่กำลังพัฒนาขึ้นมาก ทีม 400 ไทยจะแข็งแรงมาก"

ส่วนกระแสต่างๆ ในโซเชียลที่อาจส่งผลด้านลบ หรือกดดันนักกีฬานั้น พล.ต.ต.สุรพงษ์บอกว่า การดูแลกันของสมาคมในแบบครอบครัวมีความเข้มแข็งเพียงพอ

 "หากติเพื่อก่อก็พร้อมยอมรับฟัง แต่หากไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ก็ต้องมองข้ามไป และกระแสโซเชียลที่ผ่านมา ไม่ได้ส่งผลกระทบ เพราะท้ายที่สุดผลงานอันเป็นที่ประจักษ์คือการพิสูจน์คุณภาพของนักกีฬา"

 และข้อความทิ้งท้ายสำหรับซีเกมส์ที่พนมเปญ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ฝากขอกำลังใจจากคนไทยทุกคน และย้ำว่าเป้าหมายของนักกีฬา คือ การสร้างความภูมิใจให้ประเทศชาติ

 "ฝากถึงกองเชียร์ ช่วยให้กำลังใจลูกหลานนักกรีฑา เสียงเชียร์คือเสียงจากสวรรค์ทำให้นักกีฬามีกำลังใจเป็นเท่าทวีคูณ ทุกคนมีความพร้อม และจะแข่งเพื่อประเทศไทย หยาดเหงื่อในความเหนื่อยยาก สร้างความภูมิใจให้คนทั้งชาติ"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook