การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ (8 ทีมสุดท้าย) นัดแรก เมื่อวันที่ 15 เมษายน ปารีส แซงต์ แชร์กแมง หรือ เปแอสเช จากฝรั่งเศส เปิดสนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ รับมือ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลาลีกา สเปน
เกมนี้เจ้าถิ่นของ โลร็องต์ บล็องก์ กุนซือชาวฝรั่งเศส มีตัวเก่งอย่าง ติอาโก้ ซิลวา, โยฮัน กาบาย, เอดิสัน คาวานี่, เอเซเกล ลาเวซซี่ นำทัพ
ส่วนทีมเยือนภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เอ็นริเก้ นำทีมโดย 3 แนวรุกพระกาฬ "MSN" ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เนย์มาร์ ส่วนผู้ตัดสินเกมนี้คือ มาร์ค แคล็ตเท่นเบิร์ก จากอังกฤษ
เริ่มเกมมา บาร์ซ่า เป็นฝ่ายครองเกมบุกกดดันได้ดีกว่า ก่อนมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เมสซี่ ไหลให้ เนย์มาร์ ซัดด้วยซ้ายเสียบมุมเข้าไป นาที 18
ถัดมานาที 21 ปารีสฯ ต้องเปลี่ยนเอา ดาวิด ลุยซ์ ลงมาเล่นแทน ติอาโก้ ซิลวา กองหลังกัปตันทีม ที่มีอาการบาดเจ็บ จบ 45 นาทีแรก บาร์ซ่า บุกมานำ 1-0
ครึ่งหลังนาที 53 บาร์ซ่า ส่ง ชาบี้ เอร์นานเดซ มิดฟิลด์ตัวเก๋า ลงมาเล่นแทน อันเดรส อิเนียสต้า ที่มีอาการบาดเจ็บ
รูปเกมยังคงเป็นของ นาที 67 ทีมเยือนหนีห่างเป็น 2-0 จากลูกที่ ซัวเรซ แตะลอดขา ลุยซ์ ก่อนลากหลบ 2 แนวรับ ปารีสฯ อย่าง มาร์ควินญอส และ แม็กซ์เวลล์ แล้วยิงด้วยขวาเข้าไป
อีก 3 นาทีต่อมา ปารีสฯ มีโอกาสบ้างจากลูกเตะมุม ก่อนบอลไหลมาเข้าทาง คาวานี่ กดด้วยขวา แต่ไม่ผ่านมือ มาร์ค อันเดร ชเตเก้น นายทวารบาร์ซ่า
ต่อมานาที 79 บาร์ซ่า ได้ลูกสาม ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ ซัวเรซ และเป็นอดีตหัวหอกลิเวอร์พูลได้บอลหลุดเดี่ยวก่อนแตะลอดขา ลุยซ์ แล้วปั่นด้วยขวาเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างเฉียบขาด และนับเป็นประตูที่ 6 ของ ซัวเรซ ในรายการนี้
ช่วงท้ายเกมนาที 82 ปารีสฯ ตีไข่แตก ไล่มาเป็น 1-3 จาก เณเรมี่ มาติเยอ กองหลังชาวฝรั่งเศสของทีมเยือน สกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง แต่ก็ทำได้แค่นี้
จบเกม บาร์ซ่า บุกมาชนะ ปารีสฯ คาบ้าน 3-1 ส่งผลให้ บาร์ซ่า มีโอกาสสูงที่จะได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป