Scoop : เปิดเส้นทาง "ภูริพล บุญสอน" ยอดนักวิ่งวัย 16 ปี เพชรเม็ดงามของกรีฑาไทย

Scoop : เปิดเส้นทาง "ภูริพล บุญสอน" ยอดนักวิ่งวัย 16 ปี เพชรเม็ดงามของกรีฑาไทย

Scoop : เปิดเส้นทาง "ภูริพล บุญสอน" ยอดนักวิ่งวัย 16 ปี เพชรเม็ดงามของกรีฑาไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

3 เหรียญทอง และการทำสถิติใหม่ซีเกมส์ ที่ฮานอย ประเทศเวียดนาม ในปี 2022 นับเป็นก้าวสำคัญของการประสบความสำเร็จในฐานะนักวิ่งของ "บิว" ภูริพล บุญสอน เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ผู้ได้รับคำชื่นชมอย่างมากมาย และได้รับการยอมรับถึงความสามารถในการวิ่งระยะสั้น

เส้นทางชีวิตของบิวเรียกได้ว่าถูกปูไว้เพื่อการเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก หล่อหลอมเขาจนแข็งแกร่งทั้งร่างกายและจิตใจ จนตอนนี้ได้ขึ้นทำเนียบในฐานะ "ลูกรักของคนไทย" และผู้สร้างสถิติระดับภูมิภาคอาเซียน

เด็กรักกีฬา...จากแฮนด์บอลสู่การวิ่ง

เรื่องราวตั้งแต่จุดเริ่มต้นของบิวอยู่บนเส้นทางของการเป็นนักกีฬามาตั้งแต่เด็ก "บิว ภูริพล" ในวัยเด็ก ไม่ต่างจากเด็กต่างจังหวัดในวัยเดียวกัน บิว เป็นคนสุรินทร์ แต่เติบโตที่สมุทรปราการ มีชีวิตตอนเด็กกับการใช้เวลาว่างเล่นสนุกกับเพื่อนด้วยกีฬาหลายชนิด

"บิว" เคยเล่นกีฬาแฮนด์บอลของโรงเรียนเซนต์ราฟาเอลมาก่อน ตั้งแต่สมัยชั้นประถมต้น ในตอนนั้นครอบครัวสนับสนุนด้านกีฬาอยู่แล้ว ประกอบกับบิวเองก็ชอบเล่นกีฬา โดยก่อนจะมาวิ่งจริงจังเคยอยู่ชมรมแฮนด์บอลประจำโรงเรียน แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ จนพบจุดเปลี่ยนสู่เส้นทางการวิ่งในที่สุด

"ผมชอบกีฬา ชอบความท้าทาย และชอบการแข่งขันมาตั้งแต่เด็ก ครูคนแรกด้านการวิ่งของผม คือ ครูธนกฤต ศรีวัฒนา ครูเห็นผมกำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนเลยลองชวนมาวิ่ง และสนับสนุนทางการวิ่ง จนพาไปแข่งงานชิงแชมป์ของจังหวัด ตอนนั้นที่บ้าน คือ คุณแม่ คอยสนับสนุนตลอด ซื้อรองเท้า อุปกรณ์ให้ เพราะแม่รู้ว่าผมชอบ" บิวเล่าถึงจุดเริ่มต้นในการวิ่ง

ตั้งแต่ไม่ถึง 10 ขวบเต็ม บิวได้เข้าแข่งขันรายการใหญ่ และชนะเป็นครั้งแรก เป็นชัยชนะที่สวยงามจากการคว้า 4 เหรียญทองซ้อน ในงานของกรมพลศึกษา จากการวิ่งระยะ 60 เมตร, 80 เมตร, 100 เมตร และผลัด 4 คูณ 100 เมตร

"ตอนนั้นผมดีใจมาก เป็นรายการแรกที่ได้แข่งในสนามที่ใหญ่มาก และยังชนะได้เหรียญทองอีก" เป็นก้าวแรกที่สำคัญที่บิวเล่าว่าทำให้ตัดสินใจได้เลยว่า "ผมอยากเป็นนักวิ่ง"

จนกระทั่งชั้นประถมปีที่ 5 เส้นทางชีวิตของบิว นำพาให้เขาย้ายไปโรงเรียนใหม่ ที่โรงเรียนอัสสัมชัญ สมุทรปราการ เพื่อมุ่งสู่การเป็นนักวิ่งอย่างเต็มตัว การย้ายโรงเรียนครั้งนี้ก็ใช้โควตานักวิ่ง โดยมีเบื้องหลังคือครูธนกฤต ครูคนแรกของบิว ที่ฝากฝังเขาให้กับครูวัฒนา สุวรรณรักษา เป็นเหมือนการส่งไม้ต่อระหว่างครูทั้ง 2 ท่าน เพื่อดูแลบิวไปสู่การเป็นมืออาชีพ

เบื้องหลังการทำสถิติประเทศไทย

บิว ภูริพล ถูกพูดถึงไปทั่วทั้งวงการวิ่ง และหน้าสื่อทุกหัว ในกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” วันที่บิวจารึกสถิติใหม่ประเทศไทย ในการวิ่ง 100 และ 200 เมตร สถิติที่ไม่เคยถูกทำลายลงยาวนาน 24 ปีเต็มของนักวิ่งรุ่นพี่  "อุลตราเหรียญ" เหรียญชัย ศรีหะวงษ์ อดีตนักวิ่งทีมชาติไทย สถิตินั้นถูกทำลายลงโดย "บิว ภูริพล" ในวัย 16 ปี

"ก่อนหน้าไปศรีสะเกษ ผมเริ่มฝึกให้หนักขึ้น เพื่อให้รู้กำลังของตัวเอง ป้องกันการบาดเจ็บ ผมเตรียมตัวมาอย่างดีทุกด้าน รวมถึงการพักผ่อน" บิวเล่าความรู้สึก 

 และความสำเร็จก็คือรางวัลของคนที่ตั้งใจ บิวจึงถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติเพื่อเตรียมการแข่งขันซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนาม โดยมีเวลาเตรียมตัวนานประมาณ 2 เดือน "ผมเคยคิดว่าอยากติดทีมชาติ แต่ไม่เคยฝันถึงซีเกมส์"

การวิ่งระยะสั้น นักกีฬาต้องมีพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรงมากเป็นเรื่องหลัก รวมถึงต้องมีความมั่นใจมากเช่นกัน เพราะการวิ่ง 100 เมตรนั้นจบในพริบตาเดียว คือ ประมาณ 10 วินาทีเท่านั้น สมาธิจึงเป็น 1 ในสิ่งสำคัญที่ต้องพัฒนาคู่กับร่างกาย การเก็บตัวเพื่อซีเกมส์จึงประกอบไปด้วยการซ้อมวิ่ง การสร้างกล้ามเนื้อ โภชนาการ ไปจนถึงความแข็งแกร่งของจิตใจ ซึ่งทั้งหมดถูกวางแผนให้เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กอายุ 16 ปี

ช่วงวัยที่ยังพร้อมกับการพัฒนาทางร่างกาย ทำให้บิวต้องได้รับการดูแลอย่างละเอียดอ่อนและใกล้ชิด โดย "ลุงใหญ่" หรือ พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เน้นย้ำว่า ทุกอย่างต้องละเอียดอ่อน ทั้งเกณฑ์อายุ วิทยาศาสตร์การกีฬา และสไตล์การวิ่ง 

 "เชื่อว่าบิวปรับได้ เพราะอายุยังน้อย ใช้เวลาฝึกฝน การฝึกซ้อม มีส่วนสำคัญมาก พฤติกรรมส่วนตัวของบิวมีวินัย กินนอนเป็นเวลา ไม่เหลวไหล นี่คือนักกีฬารุ่นใหม่ที่จะพาวงการกรีฑาไทยก้าวไปข้างหน้าสู่ระดับโลกได้" พล.ต.ต.สุรพงษ์กล่าว

ก้าวแรกสู่ระดับภูมิภาค

บุคลิกของบิวนั้น ดูจากภายนอกอาจแตกต่างจากเด็กอายุ 16 ปีทั่วไป บิว ภูริพล เป็นเด็กค่อนข้างนิ่ง ขรึม แต่เข้าถึงง่าย ความฉลาดของบิวสะท้อนผ่านทุกคำพูดและการกระทำของเขา ณ จุดปล่อยตัว ของการแข่งขันครั้งแรก ในซีเกมส์ที่ฮานอย บิวเริ่มอุ่นเครื่อง วอร์มอัพร่างกาย ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยสมาธิ โฟกัสกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือรอบคัดเลือกระยะ 200 เมตรชาย

บิว ภูริพล ผ่านรอบคัดเลือกไปได้แบบไม่ยากนัก และสิ่งที่ผู้ชมได้เห็นในช่วงเวลา แค่ 20 วินาทีเศษ คือสถิติใหม่ซีเกมส์ 

 "ก่อนลงแข่งผมตื่นเต้นนะ ผมดูเป็นคนนิ่งๆ แต่ข้างในตื่นเต้นมาก ตอนนอนทั้งคืนก็คิดว่าจะออกตัวยังไง กังวลอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นรายการใหญ่ที่ระดับภูมิภาค แต่พอยืนที่จุดสตาร์ท ก็คิดแค่ว่าจะทำให้ดีที่สุด เท่าที่ไหว และทำลายสถิติตัวเองให้ได้ เพราะรู้ดีว่าตัวเองทำได้แค่ไหนอยู่แล้ว"

ซีเกมส์ทำให้บิวได้ฉายาใหม่ ทั้ง "เทพบิว" และ "ยูเซนต์ บิว" นั่นก็มาจากผลงานที่สุดยอด ทั้ง 3 เหรียญทอง และการทำสถิติใหม่ทั้งระยะ 200 เมตร และการวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตรชาย ที่บิวลงสนามร่วมกับไอดอล อย่าง "ใบพัน" ศิริพล พันธ์แพ พร้อมกับ ไอซ์ ชยุตม์ คงประสิทธิ์ และต้า สรอรรถ ดาบบัง จารึกสถิติใหม่ของซีเกมส์และประเทศไทย ด้วยเวลา 38.58 วินาที

"พี่ใบพัน คือ นักวิ่งที่ผมชื่นชม เพราะมีความเป็นตัวของตัวเอง มีสมาธิในการแข่ง โฟกัสกับตัวเอง เป็นรุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำ และเป็นตัวอย่างที่ดีให้ผม" บิวพูดถึงนักวิ่งรุ่นพี่พร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเล่าว่าในระดับโลกเขาชื่นชมยูเซนต์ โบล์ต ตำนานจากสหรัฐฯ อย่างมาก ทั้งท่าทางในการวิ่ง รูปร่าง และการประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังเด็กเช่นกัน

"บิว ภูริพล" ในวันที่โลกยอมรับและเป้าหมายสู่โอลิมปิก

 หลังซีเกมส์จบ "เวิล์ดแอธลีท" หรือ กรีฑาโลก โพสต์เฟสบุ๊คและอินสตาแกรมออฟฟิเชียลถึงบิว ภูริพล บุญสอน ยกย่องให้บิวเป็น 1 ในนักวิ่งที่น่าจับตามอง ในฐานะเด็กวัย 16 ปีที่วิ่งระยะ 200 เมตรได้ในเวลา 20.37 วินาที ซึ่งในโลกนี้ผู้ที่ทำได้มีแค่เพียง "ยูเซนต์ โบล์ต" และ "เอริยอน ไนท์ตัน" ทีมชาติสหรัฐฯ เพียง 2 คนเท่านั้น

 บิวที่ได้เห็นโพสต์นี้เช่นเดียวกับคนทั้งโลก เล่าว่า "ผมก็ตกใจ แต่ดีใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะติดตามข่าวของผมและนักวิ่งในเอเชีย หลังจากนี้ก็จะตั้งใจจะทำเวลาของตัวเองให้ดีที่สุด จะพยายามควอลิฟายไปโอลิมปิกให้ได้ เป็นเป้าหมายที่จะค่อยๆ พยายามทำให้สำเร็จให้ได้"

 ลุงใหญ่ หรือ พล.ต.ต.สุรพงษ์ วางแผนให้กับบิวเรื่องการแข่งขันระดับนานาชาติเพื่อหาประสบการณ์ โดยอายุ 16 ปีบิวจะสามารถแข่งได้ตั้งแต่เวิล์ดยูธฯ ที่จะจัดขึ้นในปีหน้า และเวิล์ดจูเนียร์ที่จะจัดขึ้นในปีนี้ รวมถึงการแข่งชิงแชมป์โลกที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ ที่ประเทศเกาหลีใต้

"เวิล์ดจูเนียร์ฯ ถือว่ายังกระดูกคนละเบอร์ แต่จะส่งไปให้เรียนรู้ หาประสบการณ์การแข่งขันระดับนานาชาติ เพราะว่าการแข่งขันเยาวชนโลกในอีก 2 ปีข้างหน้า บิวจะยังเก่งขึ้นได้อีก บิวมีพรสวรรค์โดยกำเนิด ต้องยอมรับว่าบิวเกิดมาเพื่อวิ่งเร็ว และสมาคมจะหารายการใหญ่ๆ และดีที่สุดให้บิว เพื่อสร้างผลงานและประสบการณ์ให้กับตัวเอง" พล.ต.ต.สุรพงษ์กล่าว

 ณ ตอนนี้ บิวได้กลับมาเก็บตัวที่สนามซ้อมของสมาคมกรีฑา ที่ธรรมศาสตร์ รังสิต โดยพล.ต.ต.สุรพงษ์ ยืนยันความทุ่มเทและตั้งใจที่สมาคมฯ มีต่อบิว ภูริพล และการสร้างศูนย์ฝึกที่สมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างสถานที่ฝึกซ้อมให้กับนักกีฬาไทยให้ก้าวไปข้างหน้าสู่ระดับโลกต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook